Belotero Revive คืออะไร
ฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่ออกแบบมาเพื่องานผิว (งานผิวคือเพิ่มคุณภาพผิว Skin booster) โดยเฉพาะ
ที่มี 𝗛𝘆𝗮𝗹𝘂𝗿𝗼𝗻𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 และ 𝗚𝗹𝘆𝗰𝗲𝗿𝗼𝗹 ผสานการทำงานแบบ Duo Action สามรถเติมน้ำให้ผิว พร้อมล็อคความชุ่มชื้นและเสริมสร้างความแข็งแรง
Belotero Revive ดีไหม
𝐇𝐲𝐚𝐥𝐮𝐫𝐨𝐧𝐢𝐜 𝐚𝐜𝐢𝐝 (𝐇𝐀) 𝟐𝟎𝐦𝐠/𝐦𝐥 และ 𝐆𝐥𝐲𝐜𝐞𝐫𝐨𝐥 𝟏𝟕.𝟓𝐦𝐠/𝐦𝐥 เป็นส่วนผสมสำคัญ ได้ผลลัพธ์แบบ 4 in 1 เหมาะกับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวขาดความยืดหยุ่น และความกระชับรวมถึงลดริ้วรอยหรือร่องชนิดตื้นบนใบหน้า ให้ผลลัพธ์ยาวนานต่อเนื่อง ถึง 9 เดือน
Belotero Revive มี Glycerol ช่วยเรื่องอะไร

Belotero Revive เหมาะกับบริเวณไหนบ้าง
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive เหมาะสำหรับการฉีดที่ผิวชั้นตื้นหรือชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อเติมเต็มผิวให้ดูอวบอิ่ม เน้นการปรับปรุงสภาพผิว ช่วยให้ผิวดูสวยกระจ่างใส ซึ่งแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับหรือคางที่ต้องฉีดลึกลงไปในชั้นผิว ดังนั้น ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive ได้แก่
- ผิวหน้า ช่วยให้ผิวดูอิ่มเอิบ เรียบเนียน ลดเลือนรูขุมขน
- รอบดวงตา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตา
- ลำคอ ช่วยกระชับผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวบริเวณลำคอ
- ปาก ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากดูอิ่มฟู
- มือ ช่วยให้ผิวมือที่เหี่ยวย่นกลับมาชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน

Belotero Revive ต้องใช้กี่กล่อง
1 กล่องประกอบด้วยฟิลเลอร์จำนวน 1CC แต่ละบริเวณไม่ได้มีข้อบ่งใช้ที่แน่ชัด ขึ้นอยู่กับปัญหา และดุลพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา แต่สามารถชี้แจ้งได้เบื้องต้นดังนี้
บริเวณ | ปริมาณ (cc) | วัตถุประสงค์ |
---|---|---|
ผิวหน้า | 1-2 | เติมเต็มและปรับสภาพผิวทั่วใบหน้า |
รอบดวงตา | 0.5-1 | เติมเต็มและเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณใต้ตา |
ลำคอ | 1-2 | กระชับและฟื้นฟูผิวลำคอ |
ปาก | 0.5-1 | เพิ่มความอวบอิ่มของริมฝีปาก |
มือ | 1-2 | เติมเต็มและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวมือ |
หมายเหตุ: ปริมาณที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปตามความต้องการเฉพาะบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและกำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย
Belotero Revive ข้อดี
- ผิวเรียบเนียนละเอียด
- รูขมขนเล็กลง
- ชุ่มชื่น อิ่มน้ำ
- ผิวโกลว์จากภายใน
- ผิวเฟิร์มกระชับ
- เหมาะสมกับทุกคน
ฟิลเลอร์งานผิว มีข้อดียังไง
- Skin Hydration ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำฉ่ำวาว
- Skin Glow กระจ่างใส ฉ่ำวาว ผิวกระจก
- Skin Firmness ผิวกระชับ เฟิร์ม
- Skin Elasticity ผิวยืดหยุ่นเนียนเด้ง อิ่มฟู
ข้อควรรู้ Belotero Revive
- ระยะผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล
- ราคาค่อนข้างสูง และระวังของปลอม ที่ราคาถูกเกินจริง
- คนที่มีปัญหาผิวเยอะอาจจะใช้มากกว่า 1 กล่อง
- ต้องมีการทำซ้ำ อย่างน้อย 8-12 เดือน/ครั้ง

Belotero Revive แก้ปัญหาผิวเรื่องไหนได้ดี
80% คนไข้ที่มาปรึกษาหมอ อยากฉีดสกินบูสเตอร์ที่ดีเลิฟเวอรี่คลินิก เพราะปัญหาแต่งหน้าไม่ติด หน้าแห้ง ซึ่ง Belotero Revive ตอบโจทย์เรื่องนี้ดี

Belotero Revive อยู่นานแค่ไหน
ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ ค่าเฉลี่ยของ Belotero อยู่ที่ 9 เดือน นับจากเดือนที่ฉีดรักษา แต่ก็ขึ้นอยู่ปัญหาผิวของแต่ละบุคคลด้วย แนะนำฉีด 2-3 cc ต่อครั้ง อยู่กักเก็บความฉ่ำน้ำได้นาน 9 เดือน สำหรับคนที่มีปัญหาผิวขาดน้ำค่อนข้างมาก หากต้องการให้ผลลัพธ์ยาวนานต่อเนื่อง อาจจะมีการรักษาซ้ำปีละ 2 ครั้ง

รีจูรัน ฉีดคู่กับ Belotero Revive ได้ไหม?
อีก 1 คำถาม ที่ทุกคนต้องถาม และหมอตอบบ่อย คือฉีดตัวไหนดีสุด Rejuran หรือ Belotero Revive ทั้งคู่ต่างมีจุดเด่น Rejuran เหมาะกับการซ่อมแซมเซลล์ผิว เน้นในกลุ่มมีปัญหาผิวเช่นรอยดำแดงหลุมสิวรูขุมขนกว้างจากการขาดคอลลาเจน ต้องฉีดทุก 1 เดือน ใน 3 ครั้งแรก ผลลัพธ์จึงจะชัดเจนที่สุด และตัว Belotero Revive เหมาะกับผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ผิวขาดการบำรุง รูขุมขน ฉีด 1 ครั้งผลลัพท์อยู่ได้นาน ใครที่เน้นผิวดี แต่งหน้าติดง่าย เลือกได้ทั้งคู่เลย

Belotero Revive ต่างจาก สกินบูสเตอร์ตัวอื่นๆอย่างไร


ถ้าเทียบกับการทำ Pico Laser ที่ฮิตๆกันละคะ?
การทำ Pico Laser ได้คุณภาพผิวด้านบนได้ดี รูขุมขนกระชับ แต่เรื่องความชุ่มชื้นไม่ใช่จุดเด่นของการทำเลเซอร์อยู่แล้ว Pico Laser Pico เหมาะกับการรักษารอยดำ หลุมสิว รูขุมขนกว้าง ผิวขาดคอลลาเจน และที่สำคัญ ต้องมีเวลาพักหน้าด้วย ข้อดีของการฉีดสกินบูสเตอร์ ที่เด่นกว่าการทำเลเซอร์ก็คือไม่ต้องพักฟื้น และเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนเร็วกว่า (ดูวิธีเช็คคลินิก โรงพยาบาลที่ใช้ Pico Laser แท้)
ฟิลเลอร์งานผิว มีตัวไหนบ้างที่คล้าย Belotero Revive?
ฟิลเลอร์สำหรับงานผิว หรือเพิ่มคุณภาพผิว (Skin Booster) ที่มีคุณสมบัติคล้ายกันได้แก่ Juvederm Volite, Restylane Vital Light

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ไม่ใช่ฉีดที่ไหนก็เหมือนกัน หรือฉีดกับใครก็ได้?
การฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ดี มีปัจจัยสำคัญ สรุปให้เข้าใจง่ายๆได้ดังนี้
- ต้องฉีด หรือรักษาโดยแพทย์ตัวจริง เสียงจริงเท่านั้น ไม่ควรเป็นแพทย์แอบอ้าง หมอกระเป๋า หรือเจ้าหน้าที่ตำแหน่งอื่นๆ เพราะแพทย์วิชาชีพจะมีการเข้าใจโครงสร้างของใบหน้า ผิวหนัง กายวิภาค เป็นอย่างดี
- แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถวิเคราะห์ปัญหาของคนไข้ได้เคลียร์ วางแผนการรักษาได้ถูกต้อง ว่าจะต้องใช้ฟิลเลอร์ตัวไหน โมเลกุลอ่อน ปานกลาง หรือแข็ง เน้นเติมเต็ม หรือเน้นคุณภาพผิว
- ต้องรับการฉีดในสถานพยาบาล ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น เพราะมีการรับรองความปลอดภัย เชื่อถือได้
- ฟิลเลอร์ บนโลกนี้ มีทั้งฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม จงเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนรับบริการได้ทุกครั้ง
ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหากไม่ได้รับบริการจากแพทย์หรือสถานพยาบาลที่มาตรฐานมีอะไรบ้าง? ฟิลเลอร์ไม่สลายเองตามธรรมชาติ เกิดเป็นก้อนแข็ง หน้าผิดรูป บวมแดง ผิดปกติ เกิดการติดเชื้อเหมือนที่เคยเป็นข่าวได้ค่ะ
Belotero Revive ราคาเท่าไหร่
- Belotero Revive 1CC 12,900.-
- Belotero Revive 2CC 22,999.-
ขั้นตอนรับบริการ Belotero Revive
- ส่งรูปหน้า ปัญหาผิวประเมินกับหมอต้าร์โดยตรงได้ที่ช่องแชท หรือมาปรึกษาที่คลินิกดีที่สุด
- นัดวัน เวลา รับบริการ
- หมอให้ตรวจสอบกล่องฟิลเลอร์ก่อนฉีดทุกครั้ง (สำคัญคนไข้ต้องดูแกะกล่องไปพร้อมๆหมอ)
- Belotero Revive ยังไม่มีรุ่นผสมยาชา ถ้าอยากสบายหน้าต้องเผื่อเวลามาแปะยาชา 40 นาทีก่อนรับบริการค่ะ
- 1 กล่อง มี 1CC เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือปัญหาผิวหน้าค่อนข้างเยอะ หมอแนะนำ 2CC/การฉีด 1 ครั้ง
- รู้สึกถึงการอิ่มฟูหลังทำทันที และเช้าวันถัดไป จะรู้สึกถึงความฉ่ำของผิวหน้า ตั้งแต่ตอนล้างหน้าตอนเช้า
- ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 9 เดือน ต่อการรักษา 1 ครั้ง

สรุป Belotero Revive
- 💚Belotero Revive เป็น 𝐇𝐀 𝐅𝐢𝐥𝐥𝐞𝐫 นำเข้าจาก Switzerland ผ่าน อย. ปลอดภัย
- 💚เป็นฟิลเลอร์ตัวแรกและตัวเดียวของโลก มีส่วนประกอบเฉพาะถึง 2 ชนิด ทำงานผสมผสานกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ผิวสุขภาพดีขั้นสุด 4 ประการ อิ่มฟู – เนียน – เด้ง – ชุ่มชื้นฉ่ำวาว
- 💚 Belotero Revive สามารถส่งมอบผิวคุณภาพดีกว่าแบบเดิมๆ เพราะ Belotero Revive ที่มีส่วนประกอบพิเศษถึง 2 ชนิด นั่นคือไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) และ กลีเซอรอล (Glycerol) ที่ทำงานผสมผสานกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด
- 💚 Belotero Revive ประกอบไปด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิด 20 มิลลิกรัม และ กลีเซอรอล 17.5 มิลลิกรัม ทำให้ใน Belotero Revive 1cc ประกอบด้วยสารอุ้มน้ำ สูงถึง 37.5 มิลลิกรัม หมายถึงฉ่ำนานกว่า ฉ่ำวาวได้
โปรแกรมอื่นๆที่อาจจะเหมาะกับปัญหาผิวของคุณ
ปัญหา | การรักษา |
---|---|
ลดเหนียง, ลดแก้ม | Meso Fat |
เก็บหน้าเรียว | Botox |
ผิวฉ่ำ, ผิวใส แบบสาวเกาหลี | Rejuran HB Plus, Belotero Revive |
ใต้ตาคล้ำ, มีร่องลึกใต้ตา, แต่งหน้าตกร่อง | HA Filler, AesThefill, Ultracol |
ผิวโทรม, แพ้ง่าย | ExoHealer, Exoxe, Rejuran |
ลดริ้วรอย, ฟื้นฟูผิวเด็ก | Sculptra, Radiesse, Botox |
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
เมื่อคลินิกความงามมีให้เลือกมากมาย สิ่งสำคัญคือต้องเลือกด้วยวิจารณญาณ ไม่หลงกับกับดักราคาถูกหรือโปรโมชั่นล่อใจ เพราะความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด การเสียเวลาศึกษาข้อมูลและตรวจสอบมาตรฐานคลินิกย่อมคุ้มค่ากว่าการต้องมาแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการตัดสินใจผิดพลาด อ่านบทความ การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด ได้ที่นี่
มาตรฐานสถานพยาบาลที่จะฉีดฟิลเลอร์
- ต้องเป็นคลินิกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง
- มีการแสดงใบอนุญาตและใบประกอบวิชาชีพของแพทย์อย่างชัดเจน
- มีมาตรฐานด้านความสะอาดและความปลอดภัย
คุณสมบัติแพทย์ผู้ทำหัตถการฟิลเลอร์
- ต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับการรับรองและมีความเชี่ยวชาญด้านความงาม
- มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
- ควรมีผลงานที่สามารถตรวจสอบได้
วิธีการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์
- สามารถตรวจสอบใบอนุญาตคลินิกผ่านเว็บไซต์กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
- สอบถามประวัติและประสบการณ์ของแพทย์ได้
- มีการให้คำปรึกษาและประเมินสภาพผิวก่อนทำหัตถการ


ฟิลเลอร์ที่ใช้กันในปัจจุบันส่วนใหญ่ผลิตจากสารกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในระยะยาว
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ สารเหล่านี้จะค่อยๆ ถูกย่อยสลายและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายไปเรื่อยๆ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ รวมถึงเมตาบอลิซึมของแต่ละบุคคล
ดังนั้น เมื่อหมดอายุของฟิลเลอร์แล้ว จะไม่มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ในร่างกาย เพราะถูกสลายและกำจัดออกไปหมดแล้วตามกระบวนการทางชีวภาพ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างจากฟิลเลอร์ค่ะ
คนไข้สังเกตเห็นรอยย่นมานานแค่ไหนแล้วคะ? และลักษณะรอยย่นเป็นแบบไหน เพราะจะรักษาแตกต่างกันออกไป
- Dynamic Lines หรือรอยย่นที่เห็นตอนแสดงสีหน้า
- จะเห็นชัดเวลาเราขมวดคิ้ว ยกคิ้ว
- เมื่อผ่อนคลายใบหน้า รอยจะจางลงหรือหายไป
- พบได้ตั้งแต่อายุน้อย
- ตอบสนองดีกับการรักษาด้วยโบท็อกซ์
- Static Lines หรือรอยย่นถาวร
- เห็นรอยแม้ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ
- มักเกิดจาก Dynamic Lines ที่สะสมเป็นเวลานาน
- บ่งบอกถึงการเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
- ต้องการการรักษาแบบผสมผสาน ทั้งฟิลเลอร์โบท็อกซ์
หากไม่แน่ใจ ลองส่งภาพมาประเมินก่อนได้ค่ะ หมอประเมินแนวทางการรักษาให้ได้ค่ะ
Bio-Remodeling ไม่ใช่เรื่องใหม่ในความหมายว่า “เพิ่งเกิดขึ้น” แต่เรียกได้ว่าเป็น โปรแกรมที่เขาอยากเปลี่ยนความคิด ในการดูแลผิวของเราเลยค่ะ หมอจะบอกว่ามันเป็นทางเลือกที่เหมาะกับการปรับผิวในระยะยาว เป็นธรรมชาติ และตอบโจทย์ยุคนี้ที่คนไข้ต้องการผิวสุขภาพดีโดยไม่หวือหวาอย่างแท้จริงค่ะ!
ถ้าคนไข้ยังมีคำถามหรืออยากดูว่า Profhilo เหมาะกับผิวตัวเองแค่ไหน ส่งภาพหรือทำนัดคุยกับหมอได้เลยนะคะ
คนมักจะเข้าใจผิดว่า Rejuran เป็นฟิลเลอร์ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ Rejuran จัดเป็นกลุ่มเมโสเพื่อฟื้นฟูผิว ตัวยาทำมาจากสารสกัดที่เรียกว่า Polynucleotide หรือโพลีนิวคลีโอไทด์ ที่ได้มาจาก DNA ของปลาแซลมอนธรรมชาติค่ะ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวจะดูใส วาว สุขภาพดี แบบ Glass Skin
ส่วนฟิลเลอร์จะต่างกันเลยค่ะ เพราะเป็นสารเติมเต็มที่มี HA หรือ Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบหลัก หมอจะฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังในชั้นต่างๆ เพื่อเติมเต็มร่องลึก หรือปรับรูปหน้าให้สวยได้สัดส่วนตามที่เราต้องการ แต่มีฟิลเลอร์บางตัวที่เน้นความชุ่มชื้น จะทำให้ผิวชุ่มชื้นได้เช่นเดียวกัน แต่พื้นฐานสารที่เติมเข้าไปก็ยังเป็น HA
พูดง่ายๆ คือ ใครหน้าสวย ได้รูปอยู่แล้ว แค่อยากผิวฉ่ำน้ำ Rejuran ก็จะช่วยได้มากกว่า แต่ถ้าอยากเติมเต็มร่องลึก หรือปรับรูปหน้า อยากได้หน้ายาวขึ้น ละมุน หวานขึ้น ก็ต้องเป็นฟิลเลอร์นะคะ บางคนก็ทำทั้งสองอย่างร่วมกันก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนเลย
ช่วงเตรียมตัวก่อนแต่งงานเนี่ย เวลามักจะหมดไปกับการจัดการเรื่องงานต่าง ๆ จนบางทีลืมเผื่อเวลาให้ตัวเองดูแลผิวหน้าและความสวยแบบเต็มที่ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะหมอมีคำแนะนำดี ๆ มาฝากค่ะ
สำหรับคอร์สเจ้าสาว ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การดูแลผิวให้ชุ่มชื้น กระจ่างใส ยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน เอิบอิ่ม และเต่งตึง เพราะปัญหาเหล่านี้แต่งหน้ากลบไม่มิดจริง ๆ ค่ะ เช่น ใต้ตาลึก ขมับตอบ คางสั้น หรือแก้มหย่อนคล้อย ซึ่งถ้าแก้ไขตรงจุดเหล่านี้ได้ จะช่วยให้ลุคเจ้าสาวดูสวยสมบูรณ์แบบมากขึ้นในวันสำคัญ
แต่สำหรับปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือรอยสิว หมออยากบอกว่า การรักษาเหล่านี้ต้องใช้เวลาและความต่อเนื่องค่ะ โดยเฉพาะฝ้าหนา ๆ หรือกระลึกที่ฝังลึกในชั้นผิว อาจต้องใช้เวลามากกว่า 1-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนไข้ส่วนใหญ่เตรียมตัวก่อนแต่งงาน ดังนั้นในคอร์สเจ้าสาวบางที่อาจไม่ได้รวมโปรแกรมรักษาฝ้ากระไว้ เพราะวันงานแต่งสามารถใช้การแต่งหน้าช่วยปกปิดได้ค่ะ
แต่ถ้าคนไข้สนใจ หมอแนะนำให้เริ่มรักษาฝ้ากระตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือถ้าเหลือเวลาไม่มาก หมอสามารถจัดโปรแกรมเร่งด่วนที่ช่วยลดเลือนฝ้ากระ จุดด่างดำให้จางลงได้ในระดับหนึ่ง เช่น การทำเลเซอร์เฉพาะจุด การใช้ทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว หรือการใช้ยาทาและเวชสำอางที่เหมาะสมค่ะ
ดังนั้น ถ้าคนไข้สนใจคอร์สเจ้าสาวที่รวมโปรแกรมรักษาฝ้ากระด้วย หมอแนะนำให้ปรึกษาเพิ่มเติมเพื่อปรับโปรแกรมให้เหมาะกับปัญหาผิวของคนไข้โดยเฉพาะค่ะ เพราะหมอเชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง และหมอพร้อมช่วยดูแลให้คนไข้สวยที่สุดในวันสำคัญนะคะ 💖