นโยบายความเป็นส่วนตัว
ดีเลิฟเวอรี่คลินิก
https://dloveveryclinic.com ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับโดยตรงจากคุณผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
- ชื่อ นามสกุล
- เบอร์โทรศัพท์
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก 1 ช่องทาง ดังนี้
- เราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยเราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการ ดังนี้
- ขั้นตอนการสมัครใช้สินค้าและบริการกับเรา หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิ์ต่างๆ กับเรา
- จากความสมัครใจของท่าน ในการทำแบบสอบถาม (survey) หรือ การโต้ตอบทาง email หรือ ช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างเราและท่าน
- เก็บจากข้อมูลการใช้ website ของเราผ่าน browser’s cookies ของท่าน
ผู้เยาว์
หากคุณมีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือมีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เราอาจจำเป็นต้องให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองของคุณให้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ หากเราทราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เราจะดำเนินการลบข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของเรา
วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
- เซิร์ฟเวอร์บริษัทของเราในประเทศไทย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน
- เพื่อจัดส่งสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปรับปรุงสินค้า บริการ หรือประสบการณ์การใช้งาน
- เพื่อการบริหารจัดการภายในบริษัท
- เพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขาย
- เพื่อการบริการหลังการขาย
- เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ
- เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไข (Terms and Conditions)
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของคุณหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ ดังต่อไปนี้
- การบริหารจัดการภายในองค์กร
เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายในบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการของเรา เราอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของคุณและผู้อื่นมากขึ้น
- ผู้ให้บริการ
เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบางอย่างให้กับผู้ให้บริการของเราเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เช่น การชำระเงิน การตลาด การพัฒนาสินค้าหรือบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ให้บริการมีนโยบายความเป็นส่วนตัวของตนเอง
- พันธมิตรทางธุรกิจ
เราอาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อติดต่อและประสานงานในการให้บริการสินค้าหรือบริการ และให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของสินค้าหรือบริการ
- การบังคับใช้กฎหมาย
ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล หน่วยงานราชการ เป็นต้น
ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่คุณเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับเราหรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ เราจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คุณมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้
สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากคุณได้ให้ความยินยอม เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่คุณให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) คุณมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราและขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่คุณ รวมถึงขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาได้อย่างไร
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
สิทธิขอคัดค้าน (right to object) คุณมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่คุณสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) คุณมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ หากคุณเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อคุณได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) คุณมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของคุณหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่คุณขอให้เราระงับการใช้แทน
สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) คุณมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากคุณเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คุณสามารถใช้สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ เราจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำขอใช้สิทธิจากคุณ ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่เรากำหนด ทั้งนี้ หากเราปฏิเสธคำขอเราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้คุณทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
Cookies
- Cookies คืออะไร?
Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งาน internet ของ ท่าน หรือ พฤติกรรมการเยี่ยมชม website ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของ Cookies ได้จาก https://www.allaboutcookies.org/
- เราใช้ Cookies อย่างไร?
เราจะจัดเก็บข้อมูลการเขาเยี่ยมชม website จากผู้เขาเยี่ยมชมทุกรายผ่าน Cookies หรือ เทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และเราจะใช้ Cookies เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิ์ภาพในการเข้าถึงบริการของเราผ่าน internet รวมถึงพัฒนาประสิทธิ์ภาพในการใช้งานบริการของเราทาง internet โดยจะใช้เพื่อกรณี ดังต่อไปนี้
- เพื่อให้ท่านสามารถ sign in บัญชีของท่านใน website ของเราได้อย่างต่อเนื่อง
- เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน website ของท่าน เพื่อนำไปพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ประเภทของ Cookies ที่เราใช้?
เราใช้ Cookies ดังต่อไปนี้ สำหรับ website ของเรา
- คุกกี้ที่จำเป็น – คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
- คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ – คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
- คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย – คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
- การจัดการ Cookies
ท่านสามารถตั้งค่ามิให้ browser ของท่าน ตกลงรับ Cookies ของเราได้ โดยมีขั้นตอนในการจัดการ Cookies ตามเว็บไซต์ https://www.wikihow.com/Disable-Cookies
การโฆษณาและการตลาด
เราอาจส่งข้อมูลหรือจดหมายข่าวไปยังอีเมลของคุณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนกับคุณ หากคุณไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากเราผ่านทางอีเมลอีกต่อไป คุณสามารถกด “ยกเลิกการติดต่อ” ในลิงก์อีเมลหรือติดต่อมายังอีเมลของเราได้
การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้เราจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)
การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเกิดขึ้น เราจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของคุณ เราจะแจ้งการละเมิดให้คุณทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยคุณสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา
รายละเอียดการติดต่อ
หากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้ ดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ดี เลิฟเวอรี่ คลินิก
เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง ชั้น1 ห้องE-105/2 เลขที่7/2-7 ซอยรามคำแหง 127/3 ถนนรามคำแหง, ตำบลสะพานสูง, สะพานสูง, กรุงเทพมหานคร, 10240
0644246526
contact@dloveveryclinic.com
www.dloveveryclinic.com
บริษัท ดีเลิฟเวอรี่คลินิก จำกัด ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวของคู่สัญญานี้ (ต่อไปนี้เรียกว่า “นโยบายความเป็นส่วนตัว”) เรายืนยันว่าเราจะรักษาความเป็นส่วนตัวของท่าน และเพื่อให้ท่านทราบว่า เราจะใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลอย่างไร นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะอธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ จะใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร คู่ค้า ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดที่เข้ามาในพื้นที่สำนักงาน สถานประกอบการ หรือพื้นที่ของเรา (ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะเรียกโดยรวมว่า “ท่าน”) ซึ่งสถานที่ดังกล่าว เราได้มีการเฝ้าสังเกตผ่านการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV) เช่น บริเวณภายในอาคาร ทางเดิน จุดพักคอย ลานจอดรถ และพื้นที่รอบๆ อาคารของเรา
1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราจะเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราอาจเก็บรวบรวม จะรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของท่าน ไม่ว่าอยู่ในรูปแบบรูปภาพหรือวีดีโอที่ได้รับจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ยกตัวอย่างเช่น ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล ยานพาหนะซึ่งเข้ามาในพื้นที่ซึ่งมการเฝ้าสังเกต ภายในบริเวณอาคาร สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกของบริษัท ฯลฯ
ในกรณีที่ท่านได้นำบุคคลที่เป็นผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี ท่านจะต้องทำการแจ้งให้ผู้เยาว์รับทราบถึงประกาศ ความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องน้ำ
2. ทำไมเราจึงเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่าน เมื่อท่านได้เข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัทในกรณีที่เราสามารถประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมเราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ หรือ
อาจมากกว่าหนึ่งฐานได้แก่
1) ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
2) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอก
3) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และเพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ และอาศัยหรืออ้างฐานทางกฎหมาย ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
4. เราอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ใครบ้าง
เราอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่นตามเหตุผลที่ได้กล่าวไว้ในส่วนก่อนหน้า เช่น ศาล หน่วยงานราชการผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือบุคคลภายนอกอื่นใดหากเราเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ รวมถึงบุคคลภายนอกที่เป็นผู้ให้บริการที่เราเป็นผู้ว่าจ้าง (“ผู้ให้บริการ”) (เช่น ผู้ให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์) ทั้งนี้ ผู้ให้บริการจะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการเท่านั้นและมีหน้าที่ในการรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ในกรณีที่ท่านร้องขอ
5. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทย เช่น เมื่อเราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบคลาวด์แพลตฟอร์มหรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อการสนับสนุนด้านระบบ IT ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายอาจอยู่ในประเทศอื่นซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ไม่ได้กำหนดให้เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่ด้อยกว่าประเทศไทย เราจะดำเนินการให้มั่นใจได้ว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปในระดับที่เพียงพอ หรือ ให้การโอนนั้นเป็นการโอนที่ได้รับอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ เช่น เราอาจดำเนินการให้ได้คำรับประกันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปว่าข้อมูลนั้นจะได้รับการคุ้มครองด้วยมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับที่จำเป็นต้องมีในประเทศไทย
หากท่านต้องการได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับว่าเรามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการโอน
ข้อมูลดังกล่าวออกนอกประเทศไทยอย่างไร กรุณาติดต่อเราตามที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้
6. เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานแค่ไหน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการรับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเรา ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่นานขึ้นหากมีความจำเป็น และ/หรือ อนุญาตให้กระทำได้ตามกฎหมาย
เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิตามที่ระบุไว้ในส่วนนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของท่าน ท่านสามารถขอใช้สิทธิตามกฎหมายได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของเรา สิทธิดังกล่าวมีดังต่อไปนี้
- การขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการเปิดเผยของการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาโดยปราศจากความยินยอมของท่าน
- การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบัน
- การให้ลบ ทำลาย หรือ เปลี่ยนให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
- การขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งได้มีการจัดรูปแบบอย่างเป็นระบบ ใช้งานกันโดยทั่วไป และสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องมือ และส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังองค์กรอื่น
- การคัดค้าน ระงับหรือจำกัดเราจากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- การถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มาจากการให้ความยินยอมของท่าน ณ เวลาใดก็ได้
ท่านสามารถติดต่อเราผ่านทางที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้เพื่อใช้สิทธิเหล่านี้ คำขอในการใช้สิทธิเหล่านี้ของท่านอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในบางกรณีที่เราอาจจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุผลและกฎหมายบางประการ เช่น เหตุอันเนื่องมาจากหน้าที่ตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลทั้งนี้เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลของเรา หากเราจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่าน
หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีอำนาจในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อสามารถกระทำได้ อย่างไร ก็ตามเรายินดีเป็นอย่างยิ่งหากมีโอกาสได้จัดการกับความกังวลของท่านก่อนการติดต่อใด ๆ กับหน่วยงานที่มีอำนาจนั้น ดังนั้นเราจะยินดีอย่างยิ่งหากท่านกรุณาติดต่อเราก่อนเป็นอันดับแรก
8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถที่ผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขาให้ความยินยอมไว้เท่านั้น เราไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ (เช่น ลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี) คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขา ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของบุคคลดังกล่าวในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เราไม่มีเจตนาดังกล่าว เมื่อเราได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวเราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถออกในเวลาที่เหมาะสมหรือจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเฉพาะที่เราสามารถใช้ฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้
การที่ท่านใช้บริการของเรา ท่านรับรองและรับประกันว่า ท่านมีความสามารถตามที่กฎหมายกำหนดสําหรับการใช้บริการของเรา หากท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านกําลังใช้บริการโดยได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลแล้ว เราอาจกําหนดข้อจํากัดในการใช้บริการบางอย่างในกรณีที่เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าท่านมีอายุครบตามที่กําหนด
หากท่านเชื่อว่าเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากมีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล โปรดแจ้งให้เราทราบผ่านแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากความยินยอมทางกฎหมายโดยไม่ได้มีเจตนา เราจะระงับการใช้งานบัญชีที่เกี่ยวข้องและจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อหยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และ/หรือ ลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากบันทึกของเราทันที
9. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในรูปแบบของเอกสาร และ/หรือ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยจัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่างๆ ตามสมควร เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ หรือกระทำโดยปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจใน การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อการละเมิดการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทมีการจำกัด การเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดการอนุญาตหรือสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล มีการบริหารจัดการการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน (User Access Management) เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (User Responsibilities) เพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล และเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่ดำเนินการประมวลผลหรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล บริษัทฯ จะดำเนินการกำกับดูแลให้บุคคลนั้นดำเนินการอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามคำสั่งของบริษัท
- 60 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
10. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายอื่น
เราไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของผู้ให้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม หรือบริการใดๆที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการรายอื่นซึ่งเชื่อมต่อมายังแพลตฟอร์มของเรา ท่านควรตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการในแพลตฟอร์มนั้นๆ ทั้งนี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้มีผลใช้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลโดยเราเท่านั้น
11. การแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
- ขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ให้เป็นปัจจุบันในเวลาที่เหมาะสม เมื่อแนวทางปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ฯลฯ
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวการใช้กล้องวงจรปิด
เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยคุณสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา
นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2566
รายละเอียดการติดต่อ
หากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้ ดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดี เลิฟเวอรี่ คลินิก จำกัด
เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง ชั้น1 ห้องE-105/2 เลขที่7/2-7 ซอยรามคำแหง 127/3 ถนนรามคำแหง, ตำบลสะพานสูง, สะพานสูง, กรุงเทพมหานคร, 10240
เลขผู้เสียภาษี 0105565040182
0644246526
contact@dloveveryclinic.com
www.dloveveryclinic.com
บริษัท ดีเลิฟเวอรี่คลินิก จำกัด ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวของคู่สัญญาฉบับนี้ (ต่อไปนี้เรียกว่า “นโยบายความเป็นส่วนตัว”) จะเรียกแทนตนเองด้วยว่า “เรา” หรือ “บริษัท”) เรายืนยันว่าเราจะรักษาความเป็นส่วนตัวของคู่สัญญา รวมถึงบุคคลธรรมดาที่ดำเนินการให้คู่สัญญาซึ่งเป็นนิติบุคคลด้วย (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้ท่านทราบว่าเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะอธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่เราเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้กับการ เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการโดยเรา ซึ่งได้รับข้อมูลโดยตรงจากท่านรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากการประชุม การติดต่อสื่อสารใดๆ ผ่านทางช่องทางต่างๆ กับเรา ซึ่งเรามีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ และข้อมูลที่ได้รับมาโดยทางอ้อมผ่านทางแหล่งที่มาอื่น ๆ
ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านซึ่งสามารถระบุตัวตนของท่านได้โดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เราอาจเก็บรวบรวม หรือได้มาซึ่งข้อมูลประเภทต่าง ๆ ที่อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่าน เช่น การแลกเปลี่ยนนามบัตร การให้ข้อมูลเพื่อการพิจารณาคุณสมบัติการเข้าทำสัญญา การแนบสำเนาเอกสารสำหรับการจัดทำสัญญา เป็นต้น หรือโดยอ้อมผ่านทางแหล่งที่มาอื่น ๆ เช่น การเก็บข้อมูล หรือได้มาซึ่งข้อมูลจากบริษัทอื่น ๆ บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราอาจเก็บรวบรวมประกอบไปด้วยข้อมูลของท่านดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลส่วนบุคคล (personal details) เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัว
ประชาชนและหนังสือเดินทาง ภาพถ่าย / วีดีโอผ่านทางกล้องวงจรปิด และการบันทึกเสียง
(2) ข้อมูลที่ใช้ในการยืนยันตัวตน (identification details) เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือเดินทาง หน้าสมุดบัญชีธนาคาร ลายมือชื่อ
(3) ข้อมูลการติดต่อ (contact details) เช่น ข้อมูลที่อยู่สำหรับติดต่อทางไปรษณีย์ ที่อยู่สำนักงานใหญ่ รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail Address) หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรสาร ชื่อตัวแทนหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนในนามคู่สัญญา ข้อมูลการติดต่อทางสังคมออนไลน์ (social media) ซึ่งรวมถึงข้อมูลโปรไฟล์ภาพถ่าย และสิ่งระบุตัวตนอื่นสำหรับการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ และการติดต่อสำหรับการตอบรับในรูปแบบอื่น ๆ (เช่น การสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษรกับท่าน)
(4) ข้อมูลทางการเงิน (financial details) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลทางธนาคารที่เกี่ยวข้อง ประเภทและรูปแบบการชำระเงิน และข้อมูลและรายละเอียดการชำระเงิน รวมถึงการคืนเงิน การปฏิเสธการจ่ายเงิน และการตัดเงินเกินจำนวน
(5) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ เช่น ข้อมูลอื่นใดที่บริษัทร้องขอจากนิติบุคลของท่าน หรือจากท่านเพื่อใช้ในการประกอบการเข้าทำสัญญา การบริการ หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามที่บริษัทได้แจ้งหรือร้องขอไปยังท่าน ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบสารสนเทศและเว็บไซต์ต่างๆ ของคู่สัญญา การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด การบันทึกเสียงสนทนาจากการประชุมต่างๆ
ทั้งนี้ เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน หรือเมื่อมีกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น
ทำไมเราจึงเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด โดยทั่วไปแล้ว เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อนที่จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายในขอบเขตของความยินยอมที่ท่านให้ไว้ โดยเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เราสามารถประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอม เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ หรือ อาจมากกว่าหนึ่งฐานได้แก่
1) ฐานสัญญา เพื่อให้การบริการแก่ท่านหรือทำธุรกรรมกับท่าน
2) ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทตามกฎหมาย
3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอก
4) ฐานประโยชน์สาธารณะ เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อปฏิบัติงานของหน่วยงานที่มีอำนาจหรือหน้าที่
วัตถุประสงค์ในการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ และอาศัยหรืออ้างฐานทางกฎหมาย ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท และฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
เมื่อเรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน และท่านไม่สามารถให้ข้อมูลได้เมื่อเราร้องขอ โปรดทราบว่าเราอาจไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ด้านบนได้
เมื่อจำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับกิจกรรมใดเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะขอและรับความยินยอมของท่านแยกต่างหากเพื่อดำเนินกิจกรรมนั้น ๆ
เราอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ใครบ้าง
อาจจำเป็นต้องเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นไปยังบุคคลดังต่อไปนี้
- ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ตามสัญญาประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเรา
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม พันธมิตรทางธุรกิจของเรา
- ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายและภาษีอากร หรือผู้สอบบัญชี เป็นต้น เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเข้าทำสัญญา ตรวจสอบบัญชี การขอคำปรึกษาทางกฎหมาย การตรวจสอบ การประเมิน การดำเนินคดี และการดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ
- ผู้ให้บริการใดๆ หรือตัวแทนผู้ให้บริการ รวมไปถึงผู้ให้บริการช่วงของบริษัทจะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการเท่านั้นและมีหน้าที่ในการรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด
- ผู้เข้าทำธุรกรรม หรือจะเข้าทำธุรกรรมกับบริษัทโดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขาย หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายของกิจการของบริษัท (หากมี)
- บุคคลอื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ในบางกรณีเราอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยหรือรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของเรากำหนด หรือบุคคลภายนอกอื่นใดหากเราเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทย เช่น เมื่อเราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบคลาวด์แพลตฟอร์มหรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อการสนับสนุนด้านระบบ IT ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายอาจอยู่ในประเทศอื่นซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ไม่ได้กำหนดให้เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่ด้อยกว่าประเทศไทย เราจะดำเนินการให้มั่นใจได้ว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปในระดับที่เพียงพอ หรือ ให้การโอนนั้นเป็นการโอนที่ได้รับอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ เช่น เราอาจดำเนินการให้ได้คำรับประกันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปว่าข้อมูลนั้นจะได้รับการคุ้มครองด้วยมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับที่จำเป็นต้องมีในประเทศไทย
หากท่านต้องการได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับว่าเรามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการโอนข้อมูลดังกล่าวออกนอกประเทศไทยอย่างไร กรุณาติดต่อเราตามที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้
เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานแค่ไหน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการรับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเรา ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่นานขึ้นหากมีความจำเป็น และ/หรือ อนุญาตให้กระทำได้ตามกฎหมาย
เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิตามที่ระบุไว้ในส่วนนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของท่าน ท่านสามารถขอใช้สิทธิตามกฎหมายได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของเรา สิทธิดังกล่าวมีดังต่อไปนี้
(1) การขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการเปิดเผยของการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาโดยปราศจากความยินยอมของท่าน
(2) การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบัน
(3) การให้ลบ ทำลาย หรือ เปลี่ยนให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
- การขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งได้มีการจัดรูปแบบอย่างเป็นระบบ ใช้งานกันโดยทั่วไป และ
สามารถอ่านได้ด้วยเครื่องมือ และส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังองค์กรอื่น
- การคัดค้าน ระงับหรือจำกัดเราจากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- การถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มาจากการให้
ความยินยอมของท่าน ณ เวลาใดก็ได้
ท่านสามารถติดต่อเราผ่านทางที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้เพื่อใช้สิทธิเหล่านี้ คำขอในการใช้สิทธิเหล่านี้ของท่านอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในบางกรณีที่เราอาจจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุผลและกฎหมายบางประการ เช่น เหตุอันเนื่องมาจากหน้าที่ตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลทั้งนี้ เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลของเรา หากเราจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่าน
หากท่านเชื่อว่าการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีอำนาจในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อสามารถกระทำได้ อย่างไร ก็ตามเรายินดีเป็นอย่างยิ่งหากมีโอกาสได้จัดการกับความกังวลของท่านก่อนการติดต่อใด ๆ กับหน่วยงานที่มีอำนาจนั้น เราจะยินดีอย่างยิ่งหากท่านกรุณาติดต่อเราก่อนเป็นอันดับแรก
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถที่ผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขาให้ความยินยอมไว้เท่านั้น เราไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ (เช่น ลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี) คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขา ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของบุคคลดังกล่าวในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เราไม่มีเจตนาดังกล่าว เมื่อเราได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวเราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถออกในเวลาที่เหมาะสมหรือจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเฉพาะที่เราสามารถใช้ฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้
การที่ท่านใช้บริการของเรา ท่านรับรองและรับประกันว่า ท่านมีความสามารถตามที่กฎหมายกำหนดสําหรับการใช้บริการของเรา หากท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านกําลังใช้บริการโดยได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลแล้ว เราอาจกําหนดข้อจํากัดในการใช้บริการบางอย่างในกรณีที่เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าท่านมีอายุครบตามที่กําหนด
หากท่านเชื่อว่าเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากมีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล โปรดแจ้งให้เราทราบผ่านหากเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากความยินยอมทางกฎหมายโดยไม่ได้มีเจตนา เราจะระงับการใช้งานบัญชีที่เกี่ยวข้องและจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อหยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และ/หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากบันทึกของเราทันที
มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในรูปแบบของเอกสาร และ/หรือ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยจัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่างๆ ตามสมควร เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ หรือกระทำโดยปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อการละเมิดการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทมีการจำกัดการเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดการอนุญาตหรือสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล มีการบริหารจัดการการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน (User Access Management) เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (User Responsibilities) เพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล และเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่ดำเนินการประมวลผลหรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล บริษัทฯ จะดำเนินการกำกับดูแลให้บุคคลนั้นดำเนินการอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามคำสั่งของบริษัท
บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายอื่น
เราไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของผู้ให้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม หรือบริการใดๆที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการรายอื่นซึ่งเชื่อมต่อมายังแพลตฟอร์มของเรา ท่านควรตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการในแพลตฟอร์มนั้นๆ ทั้งนี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้มีผลใช้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลโดยเราเท่านั้น
การแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
- ขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ให้เป็นปัจจุบันในเวลาที่เหมาะสม เมื่อแนวทางปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรามีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ฯลฯ
รายละเอียดการติดต่อ
หากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้ ดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดี เลิฟเวอรี่ คลินิก จำกัด
เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง ชั้น1 ห้องE-105/2 เลขที่7/2-7 ซอยรามคำแหง 127/3 ถนนรามคำแหง, ตำบลสะพานสูง, สะพานสูง, กรุงเทพมหานคร, 10240
เลขผู้เสียภาษี 0105565040182
0644246526
contact@dloveveryclinic.com
www.dloveveryclinic.com
บริษัท ดีเลิฟเวอรี่คลินิก จำกัด ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้านี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) จะเรียกแทนตนเองด้วยว่า “เรา” หรือ “บริษัท” เรายืนยันว่าเราจะรักษาความเป็นส่วนตัวของท่าน และเพื่อให้ท่านทราบว่า เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะอธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านซึ่งสามารถระบุตัวตนของท่านได้โดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราอาจเก็บรวบรวม หรือได้มาซึ่งข้อมูลประเภทต่าง ๆ ที่อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ประวัติการศึกษา หรือโดยอ้อมผ่านทางแหล่งที่มาอื่น ๆ เช่น ใบสมัครที่ท่านส่งให้องค์กรที่ให้บริการจัดหางาน
- ข้อมูลส่วนบุคคล (personal details) เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ วันเกิด อาชีพ สถานที่ทำงาน ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบขับขี่ ข้อมูลหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อดิจิทัล ภาพถ่าย / วีดีโอผ่านทางกล้องวงจรปิด และการบันทึกเสียง
- ข้อมูลการติดต่อ (contact details) เช่น ที่อยู่สำหรับจัดส่งไปรษณีย์ ที่อยู่บ้าน / ที่อยู่ที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่เพื่อการเก็บเงิน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล ข้อมูลการติดต่อเพื่อโทรกลับหรือตอบ / ตอบรับตามคำขอหรือคำถามของลูกค้า ข้อมูลการติดต่อทางสังคมออนไลน์ (social media) รวมถึงข้อมูลของบุคคลเพื่อการติดต่อท่าน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลการติดต่อสำหรับการตอบรับในรูปแบบอื่น ๆ (เช่น การสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษรกับท่าน)
- ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ (account details) เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน วันที่สร้างบัญชี ชื่อของผู้สร้างบัญชีผู้ใช้ ข้อมูลประวัติส่วนตัว
- ข้อมูลทางการเงิน (financial details) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร
- บัญชีผู้ใช้และข้อมูลสังคมออนไลน์ (social media account and details) เช่น Facebook, Instagram, Tik Tok,YouTube, บัญชีผู้ใช้ LINE, Google, Twitter, เว็บไซต์ต่าง ๆ (เช่น Pantipและบัญชีผู้ใช้อื่น ๆ ของท่านในเว็บไซต์สังคมออนไลน์ (social media) ต่าง ๆ) และข้อมูลใด ๆ ที่ได้มาจากข้อมูลเหล่านี้เพื่อการสังเกตการณ์ลูกค้า เมื่อท่านติดต่อเราเกี่ยวกับการบริการผ่านทางช่องทางสังคมออนไลน์ (social media) ต่าง ๆ เช่น เมื่อท่านคลิก “Like” เราบน Facebook หรือเมื่อท่านติดตามเรา หรือแชร์เนื้อหาของเราจาก Facebook, Twitter, ,Snapehat, LinkedIn, Instagram หรือสังคมออนไลน์ (social media) ต่าง ๆ เราอาจได้รับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับท่าน ซึ่งท่านได้อนุญาตให้สังคมออนไลน์ (social media) เปิดเผยข้อมูลของท่านต่อบุคคลที่สาม ข้อมูลที่เราได้รับจะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของท่านในสังคมออนไลน์ (social media) ดังกล่าว
- ผลตอบรับของท่าน (feedback) เช่น คำตอบและผลของแบบสอบถามต่าง ๆ คำแนะนำ คำถาม ข้อเรียกร้อง การร้องเรียน ความเห็น ผลตอบรับ ประสบการณ์ที่ได้รับ คำขอ ข้อเสนอแนะ และวันเวลาที่มีการให้ข้อมูลดังกล่าว
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (sensitive personal data) เช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า) ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลพันธุกรรม ประวัติอาการป่วย ประวัติการแพ้ยา/อาหาร ผลการรักษา ผลตรวจทางร่างกาย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการวินิจฉัยโรค เวชระเบียน ใบรับรองแพทย์ ภาพเคลื่อนไหวจากการปฏิบัติงานรักษาพยาบาล/การผ่าตัด/การทำหัตถการ ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการระบุหรือให้หลักฐานในการร้องเรียน หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
เรายังเก็บรวบรวมข้อมูลอื่น ๆ เช่น พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตและคุกกี้ (โปรดดูนโยบายเกี่ยวกับคุกกี้) ประเภทของเว็บเบราว์เซอร์ ภาษาที่ใช้ ไอพีแอดเดรส หน้าเว็บไซต์ที่เข้าชม และลิงก์ที่กดเข้า พฤติกรรมการใช้จ่าย และข้อมูลที่ใช้ตลอดการใช้สินค้าและบริการของเรา และ/หรือ ดิจิทัล ฟุตฟอล (Footfall) / ฟุตพรินท์ (Footprint) หากมีการรวมข้อมูลใด ๆ เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากมีการใช้ข้อมูลอื่นใดในการสร้างประวัติส่วนตัวของบุคคล เราจะปฏิบัติกับข้อมูลอื่นและข้อมูลรวมนั้นเช่นเดียวกันกับข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน หรือเมื่อมีกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น
ในบางกรณี เราอาจใช้บริการการชำระเงินของบุคคลภายนอกเพื่อประมวลผลในบริการบางส่วนของเรา ในกรณีเช่นนี้บุคคลภายนอกอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเราไม่ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น การเก็บรวบรวมข้อมูลเช่นว่านั้นจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอก และมิใช่ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เราไม่มีอำนาจในการควบคุม และรับผิดชอบต่อการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลภายนอกนั้น การให้บริการของเราอาจรวมถึงการเข้าไฮเปอร์ลิงก์ไปยังการบริการ หรือการที่มีการรวมไฮเปอร์ลิงก์ไปยังการบริการ หรือ ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ (เช่น เว็บไซต์ ตำแหน่งที่ตั้ง แอปพลิเคชัน หรือบริการ) ที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอกซึ่งอาจใช้คุกกี้ของตนเอง Web Beacon หรือเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยอิสระและอาจมีการขอข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน
ทำไมเราจึงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด โดยทั่วไปแล้ว เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อนที่จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายในขอบเขตของความยินยอมที่ท่านให้ไว้ โดยเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เราสามารถประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมเราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ หรืออาจมากกว่าหนึ่งฐานได้แก่
- ฐานสัญญา เพื่อให้การบริการแก่ท่านหรือทำธุรกรรมกับท่าน
- ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของเราตามกฎหมาย
- ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอก
- ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ / หรือ
- ฐานประโยชน์สาธารณะ เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อปฏิบัติงานของหน่วยงานที่มีอำนาจหรือหน้าที่
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราอาจเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- การติดต่อและคัดเลือกผู้สมัครงาน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครงานและใช้ประกอบการพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร และใช้เป็นข้อมูลสำหรับติดต่อผู้สมัครงาน
- การจัดทำสัญญาจ้างงาน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับจัดทำสัญญาจ้างงานซึ่งพนักงานเป็นคู่สัญญา รวมถึงการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทน
- การให้สวัสดิการและการคุ้มครอง เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานในการให้สวัสดิการและการคุ้มครองของพนักงาน เช่น กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การให้สวัสดิการประกันกลุ่มพนักงาน
- การบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลในการพัฒนาศักยภาพพนักงานและองค์กร เพื่อการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงานและองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร การฝึกอบรมพนักงาน การรับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การเลื่อนตำแหน่งงาน การบริหารโครงสร้างอัตราเงินเดือน และการบันทึกวันเวลาปฏิบัติงาน วันลา วันหยุด และการปฏิบัติงานล่วงเวลา
- การลงทะเบียนและยืนยันตัวตน เพื่อสมัครสมาชิก พิสูจน์ตัวตน ระบุตัวตน และรับรองตัวตนท่านหรือการยืนยันตัวตนของท่าน
- การทำงานของเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ และแพลตฟอร์มของเรา เพื่อบริหาร ดำเนินการ ติดตาม สังเกตการณ์และจัดการเว็บไซต์และแพลตฟอร์มเพื่อดำเนินการให้ความมั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นทำงานอย่างที่ควรจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่อดำเนินการให้ประสบการณ์ของท่านบนเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ปรับปรุงการจัดวางและเนื้อหาของเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของเรา เพื่อให้ท่านสามารถเข้าสู่ระบบและเข้าถึงระบบที่ใช้งานได้ของเราตลอดจนให้เราสามารถให้ความช่วยเหลือเชิงเทคนิคแก่ท่านได้
- การจัดการทาง IT เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการธุรกิจของเรา รวมถึงการดำเนินการทาง IT การจัดการระบบ การสื่อสาร การดำเนินการความปลอดภัยทาง IT และการตรวจสอบความปลอดภัยทาง IT ของเรา การจัดการธุรกิจภายในสำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายใน
- การปฏิบัติตามข้อกำหนดและหน้าที่ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย และคำสั่งของหน่วยงานรัฐซึ่งอาจรวมถึงคำสั่งของหน่วยงานรัฐนอกประเทศไทย และ / หรือ การให้ความร่วมมือต่อศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐบาล และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เมื่อเรามีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าเรามีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะกระทำการเช่นว่านั้น และเมื่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย กระบวนการ หรือคำสั่งรัฐบาล
- การคุ้มครองผลประโยชน์ของเรา เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและความโปร่งใสของธุรกิจเรา เพื่อใช้สิทธิและคุ้มครองผลประโยชน์ต่าง ๆ ของเราเมื่อมีความจำเป็นและสามารถกระทำได้ตามกฎหมาย เช่น ตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ข้อเรียกร้องต่าง ๆ รวมถึงข้อเรียกร้องการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา หรือการฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันความสูญเสียในสินทรัพย์และทรัพย์สินของเรา เพื่อดำเนินการตรวจสอบรายการการอนุมัติ การบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบและบันทึกภายใน การบริหารสินทรัพย์ ระบบ และการควบคุมทางธุรกิจอื่น ๆ เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เพื่อให้แน่ใจได้ว่ามีการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา เพื่อติดตามเหตุการณ์ เพื่อคุ้มครองจากความผิดทางอาญาและรายงานความผิดทางอาญา และคุ้มครองความปลอดภัยและความโปร่งใสของธุรกิจของเรา เพื่อเป็นการอ้างอิงและเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องหรือการดำเนินคดี และ
- ธุรกรรมของบริษัท ในกรณีที่มีการขาย การโอน การควบรวม การปรับโครงสร้างบริษัท หรือเหตุการณ์ที่เหมือนกันนั้น เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนั้น
เมื่อเรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน และท่านไม่สามารถให้ข้อมูลได้เมื่อเราร้องขอ โปรดทราบว่าเราอาจไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ด้านบนได้
เมื่อจำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับกิจกรรมใดเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะขอและรับความยินยอมของท่านแยกต่างหากเพื่อดำเนินกิจกรรมนั้น ๆ
โดยหลักแล้ว เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในข้างต้น อย่างไรก็ตาม ตารางด้านล่างนี้จะแสดงรายละเอียดว่าเราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร และอาจใช้ฐานทางกฎหมายใดในการประมวลผล เราขอเน้นย้ำว่าตารางด้านล่างนี้เป็นไม่ใช่รายละเอียดการประมวลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่เราอาจดำเนินการและเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น เราอาจมีวัตถุประสงค์ และ/หรือ ฐานทางกฎหมายอื่น สําหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ได้ระบุอยู่ในตารางด้านล่างนี้ ซึ่งเราจะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป
4. เราอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ใครบ้าง
เราอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่นตามเหตุผลที่ได้กล่าวไว้ในส่วนก่อนหน้า การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม โรงพยาบาลหรือหน่วยงานด้านสุขภาพที่ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“บุคคลภายนอก”) ทั้งนี้ บุคคลภายนอกจะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้นและมีหน้าที่ในการรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด
ในบางกรณี เราอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือบุคคลภายนอกอื่นใดหากเราเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ หรือต้องคุ้มครองสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย
5. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ
เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทย เช่น เมื่อเราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบคลาวด์แพลตฟอร์มหรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อการสนับสนุนด้านระบบ IT ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายอาจอยู่ในประเทศอื่นซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ไม่ได้กำหนดให้เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่ด้อยกว่าประเทศไทย เราจะดำเนินการให้มั่นใจได้ว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปในระดับที่เพียงพอ หรือ ให้การโอนนั้นเป็นการโอนที่ได้รับอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ เช่น เราอาจดำเนินการให้ได้คำรับประกันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปว่าข้อมูลนั้นจะได้รับการคุ้มครองด้วยมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับที่จำเป็นต้องมีในประเทศไทย
หากท่านต้องการได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับว่าเรามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการโอนข้อมูลดังกล่าวออกนอกประเทศไทยอย่างไร กรุณาติดต่อเราตามที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้
เราจะเก็บข้อมูลของท่านไว้นานแค่ไหน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานตามระยะเวลาที่องค์กรผู้ให้บริการจัดหางานกำหนด เช่น เว็บไซต์รับสมัครงานต่าง ๆ เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่เข้ารับการสัมภาษณ์เป็นระยะเวลา 6 เดือน และจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเป็นระยะเวลา 5 ปี หลังจากพ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัท เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการรับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเรา ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่นานขึ้นหากมีความจำเป็น และ/หรือ อนุญาตให้กระทำได้ตามกฎหมาย
เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
สิทธิตามที่ระบุไว้ในส่วนนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของท่าน ท่านสามารถขอใช้สิทธิตามกฎหมายได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของเรา สิทธิดังกล่าวมีดังต่อไปนี้
- การขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการเปิดเผยของการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาโดยปราศจากความยินยอมของท่าน
- การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบัน
- การให้ลบ ทำลาย หรือ เปลี่ยนให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
- การขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งได้มีการจัดรูปแบบอย่างเป็นระบบ ใช้งานกันโดยทั่วไป และสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องมือ และส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังองค์กรอื่น
- การคัดค้าน ระงับหรือจำกัดเราจากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- การถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มาจากการให้ความยินยอมของท่าน ณ เวลาใดก็ได้
ท่านสามารถต้องติดต่อเราผ่านทางที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้เพื่อใช้สิทธิเหล่านี้ คำขอในการใช้สิทธิเหล่านี้ของท่านอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในบางกรณีที่เราอาจจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุผลและกฎหมายบางประการ เช่น เหตุอันเนื่องมาจากหน้าที่ตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลทั้งนี้เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลของเรา หากเราจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่าน
หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีอำนาจในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อสามารถกระทำได้ อย่างไร ก็ตามเรายินดีเป็นอย่างยิ่งหากมีโอกาสได้จัดการกับความกังวลของท่านก่อนการติดต่อใด ๆ กับหน่วยงานที่มีอำนาจนั้น ดังนั้นเราจะยินดีอย่างยิ่งหากท่านกรุณาติดต่อเราก่อนเป็นอันดับแรก
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถที่ผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขาให้ความยินยอมไว้เท่านั้น เราไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ (เช่น ผู้สมัครงานที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี) คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขา ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของบุคคลดังกล่าวในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เราไม่มีเจตนาดังกล่าว เมื่อเราได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวเราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถออกในเวลาที่เหมาะสมหรือจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเฉพาะที่เราสามารถใช้ฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้
หากท่านเชื่อว่าเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากมีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล โปรดแจ้งให้เราทราบผ่านแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากความยินยอมทางกฎหมายโดยไม่ได้มีเจตนา เราจะระงับการใช้งานบัญชีที่เกี่ยวข้องและจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อหยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และ/หรือ ลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากบันทึกของเราทันที
มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในรูปแบบของเอกสาร และ/หรือ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยจัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่างๆ ตามสมควร เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ หรือกระทำโดยปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อการละเมิดการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทมีการจำกัดการเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดการอนุญาตหรือสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล มีการบริหารจัดการการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน (User Access Management) เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (User Responsibilities) เพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล และเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่ดำเนินการประมวลผลหรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล บริษัทฯ จะดำเนินการกำกับดูแลให้บุคคลนั้นดำเนินการอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามคำสั่งของบริษัท
บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายอื่น
เราไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของผู้ให้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม หรือบริการใดๆที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการรายอื่นซึ่งเชื่อมต่อมายังแพลตฟอร์มของเรา ท่านควรตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการในแพลตฟอร์มนั้นๆ ทั้งนี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงานและบุคลากรฉบับนี้มีผลใช้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลโดยเราเท่านั้น
การแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
- ขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ให้เป็นปัจจุบันในเวลาที่เหมาะสม เมื่อแนวทางปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรามีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ฯลฯ
รายละเอียดการติดต่อ
หากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้ ดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดี เลิฟเวอรี่ คลินิก จำกัด
เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง ชั้น1 ห้องE-105/2 เลขที่7/2-7 ซอยรามคำแหง 127/3 ถนนรามคำแหง, ตำบลสะพานสูง, สะพานสูง, กรุงเทพมหานคร, 10240
เลขผู้เสียภาษี 0105565040182
0644246526
contact@dloveveryclinic.com
www.dloveveryclinic.com