จุดเด่นของ Sculptra
The first & original collagen biostimulator คอลลาเจนที่มีความสําคัญกับผิวหนังของเรามากที่สุด ก็คือคอลลาเจน ประเภทที่ 1 Sculptra ช่วยกระตุ้น Collagen Type I ให้เพิ่มกว่า 66.5% สภาพผิวแก่ช้าลง 10 ปี นอกจากนั้น Sculptra มีสภาพที่คงตัวและเร่งปฏิกริยาการเพิ่ม Collagen ได้เอง ต่อเนื่องนาน 2 ปี ซึ่งนานที่สุดเท่าที่เคยมีงานวิจัยมา
- ฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อย
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว
- พยุงโครงสร้างผิว ให้ผิวแน่นขึ้น
- ยกกระชับ ปรับรูปหน้า
- ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
- หลังรับบริการ รักษาตามจุดที่หย่อนคล้อยเห็นผลว่าหน้ายกกระชับขึ้นทันที
- หลังรักษาไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ เช่น บวม แดง เป็นก้อน
- มาตรฐาน USFDA approved และผ่าน อย. ประเทศไทย มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย
Sculptra คืออะไร
Sculptra เป็นสารกำเนิดคอลลาเจนในรูปแบบฉีดที่ประกอบด้วยไหมน้ำชนิด PLLA (Poly-L-Lactic acid) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารกระตุ้นคอลลาเจนในกลุ่มของ Biostimulator Sculptra ถือว่าเป็น Biostimulator ที่มีการศึกษาแล้วและมีผลกระตุนคอลลาเจนอย่างธรรมชาติได้ถึง 66.5% เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) และได้ใช้ตั้งแต่ปี 1999 โดยมีการฉีดจริงมาแล้วจากอเมริกาและจึงมีความมั่นใจในความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
Biostimulator เป็นการรักษาที่ใช้ในการแพทย์เพื่อชะลอวัยและการดูแลความงามโดยใช้หลักการกระตุ้น Natural Healing และ Regenerative process โดยการใช้สารบางอย่างในการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมและฟื้นฟูด้วยตนเอง
สรุปง่ายๆ แบบไม่ต้องจำคำศัพธ์อะไรกันมากก็จะได้ประมาณว่า…
Sculptra เป็นสารกำเนิดคอลลาเจนในรูปแบบฉีดที่ใช้ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 โดยใช้ Biostimulator และมีผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัยตามมาตรฐานการรักษาและอนุมัติจาก อย. แล้ว
คอลลาเจนคืออะไร สำคัญกับผิวเราอย่างไร
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่พบมากที่สุดในร่างกาย มักเปรียบเทียบกับโครงสร้างของร่างกาย คอลลาเจนมีหน้าที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นแก่ผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ และอวัยวะอื่นๆ เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนน้อยลง ทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และปัญหาสุขภาพอื่นๆ


กระบวนการทำงานของ Sculptra
Sculptra ประกอบด้วยกรดโพลี-แอล-แลคติก (PLLA) ซึ่งเป็นสารชีวภาพที่ย่อยสลายได้ เมื่อฉีด Sculptra เข้าไปในผิวหนัง PLLA จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนใหม่ ซึ่งจะค่อยๆ เติมเต็มและเพิ่มปริมาณของบริเวณที่ฉีด ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในช่วงหลายเดือนและอาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี
Sculptra กับวิธีอื่นๆ ต่างกันอย่างไร
Sculptra แตกต่างจากวิธีการเสริมความงามอื่นๆ เช่น
- สารเติมเต็มแบบชั่วคราว: สารเติมเต็มแบบชั่วคราว เช่น Restylane และ Juvederm ให้ผลลัพธ์ทันที แต่จะสลายตัวภายใน 6-12 เดือน
- การผ่าตัด: การผ่าตัด เช่น การเสริมคางและการยกกระชับใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่มีค่าใช้จ่ายสูงและมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
- การรักษาด้วยเลเซอร์และคลื่นความถี่วิทยุ: การรักษาด้วยเลเซอร์และคลื่นความถี่วิทยุสามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้ แต่ผลลัพธ์มักจะไม่คงอยู่ถาวรเท่ากับ Sculptra
Sculptra กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
Sculptra และฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มทั้งคู่ แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญบางประการ
- องค์ประกอบ: Sculptra ประกอบด้วย PLLA ซึ่งเป็นสารชีวภาพที่ย่อยสลายได้ ส่วนฟิลเลอร์ทั่วไปมักประกอบด้วยไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเป็นสารที่พบตามธรรมชาติในร่างกาย
- กลไกการทำงาน: Sculptra กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ส่วนฟิลเลอร์จะเติมเต็มบริเวณที่ฉีดโดยตรง
- ระยะเวลาผลลัพธ์: ผลลัพธ์ของ Sculptra อาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี ส่วนฟิลเลอร์ทั่วไปจะสลายตัวภายใน 6-12 เดือน
Sculptra กับ เมโสหน้าใส ต่างกันอย่างไร
Sculptra และเมโสหน้าใสเป็นการรักษาที่แตกต่างกัน
- จุดประสงค์: Sculptra ใช้เพื่อเพิ่มปริมาณและปรับรูปร่างของใบหน้าและร่างกาย ส่วนเมโสหน้าใสใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
- สารที่ใช้: Sculptra ประกอบด้วย PLLA ส่วนเมโสหน้าใสประกอบด้วยวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิว
- ผลลัพธ์: Sculptra ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน ส่วนเมโสหน้าใสให้ผลลัพธ์ที่ชั่วคราวและมักใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Sculptra กับ Rejuran ต่างกันอย่างไร
Sculptra และ Rejuran เป็นการรักษาที่แตกต่างกัน
- สารที่ใช้: Sculptra ประกอบด้วย PLLA ส่วน Rejuran ประกอบด้วยโพลีนิวคลีโอไทด์ (PN) ซึ่งเป็นสารที่พบในเซลล์ของร่างกาย
- กลไกการทำงาน: Sculptra กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ส่วน Rejuran กระตุ้นการซ่อมแซมและการฟื้นฟูเซลล์
- ผลลัพธ์: Sculptra ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน ส่วน Rejuran ให้ผลลัพธ์ที่ชั่วคราวและมักใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Sculptra กับ Gouri ต่างกันอย่างไร
Sculptra และ Gouri เป็นการรักษาที่แตกต่างกัน
- สารที่ใช้: Sculptra ประกอบด้วย PLLA ส่วน Gouri ประกอบด้วยไฮดรอกซีอะพาไทต์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบในกระดูกและฟัน
- กลไกการทำงาน: Sculptra กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ส่วน Gouri เติมเต็มบริเวณที่ฉีดโดยตรง
- ผลลัพธ์: Sculptra ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน ส่วน Gouri ให้ผลลัพธ์ที่ทันทีและถาวร
Sculptra กับ Exosome ต่างกันอย่างไร
Sculptra และ Exosome เป็นการรักษาที่แตกต่างกัน
- สารที่ใช้: Sculptra ประกอบด้วย PLLA ส่วน Exosome เป็นถุงขนาดเล็กที่ปล่อยออกมาจากเซลล์และมีโปรตีนและโมเลกุลอื่นๆ
- กลไกการทำงาน: Sculptra กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ส่วน Exosome กระตุ้นการซ่อมแซมและการฟื้นฟูเซลล์
- ผลลัพธ์: Sculptra ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน ส่วน Exosome ให้ผลลัพธ์ที่ชั่วคราวและมักใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Sculptra เหมาะกับใคร
Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ
- เพิ่มปริมาณและปรับรูปร่างของใบหน้าและร่างกาย
- แก้ไขริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
- ปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
Sculptra ช่วยอะไรได้บ้าง
Sculptra สามารถใช้เพื่อช่วย
- เติมเต็มบริเวณที่ยุบตัว เช่น ร่องแก้มและขมับ
- ปรับรูปร่างของใบหน้า เช่น คางและจมูก
- แก้ไขริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
- ปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
ขั้นตอนการฉีด Sculptra มีดังนี้
- ปรึกษาแพทย์เพื่อหารือเกี่ยวกับเป้าหมายและความคาดหวังของคุณ
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณที่ฉีด
- ฉีด Sculptra เข้าไปในบริเวณที่ต้องการโดยใช้เข็มขนาดเล็ก
- นวดบริเวณที่ฉีดเพื่อกระจาย Sculptra อย่างสม่ำเสมอ
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและรอยแดง
หลังฉีด Sculptra ดูแลตัวอย่างไร
หลังฉีด Sculptra ควรดูแลตัวเองดังนี้
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเพื่อลดอาการบวมและรอยแดง
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่รุนแรง
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือซาวน่า
Sculptra ราคาเท่าไหร่
ราคาของ Sculptra แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้และบริเวณที่ฉีด โดยทั่วไปราคาอยู่ระหว่าง 20,000-50,000 บาทต่อครั้ง
ฉีด Sculptra อันตรายไหม
Sculptra เป็นสารที่ปลอดภัยและได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) อย่างไรก็ตาม อาจมีผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น
- อาการบวมและรอยแดง
- อาการปวดและช้ำ
- การติดเชื้อ
- การก่อตัวของก้อนแข็ง
ข้อควรระวังการฉีด Sculptra
ควรระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อฉีด Sculptra ในบริเวณต่อไปนี้
- บริเวณที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ
- บริเวณที่มีประวัติเป็นแผลเป็นนูน
- บริเวณที่มีเส้นประสาทหรือเส้นเลือดสำคัญ
หลังฉีด Sculptra มีผลข้างเคียงไหม
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด Sculptra ได้แก่
- อาการบวมและรอยแดง
- อาการปวดและช้ำ
- การติดเชื้อ
- การก่อตัวของก้อนแข็ง
- การแพ้
ฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล
ผลลัพธ์ของ Sculptra จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในช่วงหลายเดือน ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์อาจใช้เวลาถึง 6 เดือน
ฉีด sculptra ต้องฉีดกี่ครั้ง
จำนวนครั้งในการฉีด Sculptra ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความคาดหวังของคุณ โดยทั่วไปแล้วอาจจำเป็นต้องฉีด 2-3 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉีด Sculptra อยู่ได้นานไหม
ผลลัพธ์ของ Sculptra อาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี
Sculptra ของแท้ดูยังไง
Sculptra ของแท้จะมีคุณสมบัติต่อไปนี้
- มีการปิดผนึกที่ปลอดภัย
- มีฉลากที่ชัดเจนระบุชื่อผลิตภัณฑ์ ปริมาณ และวันหมดอายุ
- มีการติดตามและตรวจสอบได้