ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ฟิลเลอร์แก้มตอบ คืออะไร ราคาเท่าไหร่

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

ฟิลเลอร์

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฉีดยังไง ฟิลเลอร์ตัวไหนเหมาะ คำถามที่พบบ่อย

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง รับกล่องกลับบ้าน ติดตามผลการรักษา
เลือกอ่านเนื้อหา

รีวิวฟิลเลอร์แก้มตอบ

แก้มตอบ ฟิลเลอร์ช่วยได้จริงหรือ?

หลายคนคงเคยส่องกระจกแล้วรู้สึกว่า “ทำไมใบหน้าดูโทรมลงจัง” โดยเฉพาะเมื่อสังเกตเห็นแก้มที่ดูตอบลง ทำให้ใบหน้าดูมีอายุขึ้นทั้งที่ยังรู้สึกสดใสอยู่ข้างใน แต่รู้หรือไม่ว่า แก้มตอบที่คุณกำลังกังวลอยู่นั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ และแต่ละสาเหตุก็ต้องการการแก้ไขที่แตกต่างกัน

แก้มตอบเกิดจากอะไร

ลำดับสาเหตุของแก้มตอบในคนไทยและคนเอเชียจากพบมากไปน้อยได้ดังนี้

สาเหตุของแก้มตอบ

  1. พันธุกรรม/กรรมพันธุ์ – โครงสร้างใบหน้าและโหนกแก้มที่สูงตามลักษณะของคนเอเชีย
  2. อายุที่มากขึ้น – ทำให้ไขมันและคอลลาเจนลดลงตามธรรมชาติ
  3. การจัดฟันหรือถอนฟัน – ส่งผลให้โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยนแปลง
  4. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
  5. การถูกรังสี UV ทำร้ายผิว
  6. โรคและความผิดปกติของร่างกาย
  7. ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกลดกราม

ความแตกต่างระหว่างแก้มตอบจากพันธุกรรมและอายุที่มากขึ้น

หัวข้อแก้มตอบจากพันธุกรรมแก้มตอบจากอายุ
ลักษณะที่มองเห็น– โหนกแก้มสูงชัดเจน
– ใต้โหนกแก้มจะดูตอบเข้าไปเป็นแนวยาว
– ผิวยังดูตึงกระชับ
– แก้มหย่อนคล้อย
– ผิวหนังหย่อนยาน
– มีร่องเว้าเข้าลึกเข้าไปเป็นแนวยาวหน้าหู-กระพุ้งแก้ม
ตำแหน่งที่เกิดบริเวณใต้โหนกแก้มโดยตรงทั่วบริเวณแก้มและใบหน้าส่วนกลาง
ช่วงอายุที่พบพบได้ตั้งแต่อายุน้อย (20+)มักพบชัดในช่วงอายุ 40+
การเปลี่ยนแปลงคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงมากค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามอายุ
ผลกระทบต่อใบหน้าทำให้หน้าดูซูบผอม ดูสุขภาพไม่ดีทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลียและมีอายุ
ภาพซ้ายแก้มตอบแม้อายุน้อยจากพันธุกรรม ด้านขวา ตอบเพราะผิวยุบตัวจากอายุที่มากขึ้น

ลองดูภาพเปรียบเทียบเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น:
จากภาพด้านบน จะเห็นความแตกต่างระหว่างแก้มตอบทั้ง 2 ประเภทได้ชัดเจน โดยด้านซ้ายแสดงลักษณะแก้มตอบจากพันธุกรรมที่มีโหนกแก้มสูง ส่วนด้านขวาแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุมากขึ้น ที่มีการหย่อนคล้อยของผิวและการสูญเสียปริมาตรของใบหน้า

แก้มตอบ เป็นอุปสรรคต่อความสวยอย่างไรบ้าง

อุปสรรคในการแต่งหน้าของสาวแก้มตอบที่ทำให้หลายคนหงุดหงิด

ปัญหาการลงรองพื้น

  • รองพื้นเกาะเป็นคราบตามร่องแก้ม
  • เครื่องสำอางเลื่อนไหลง่าย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม
  • ต้องคอยเติมแป้งบ่อยๆ เพราะมักดูมัน
  • รองพื้นดูไม่กลมกลืน เห็นรอยต่อชัดเจน

ปัญหาการปัดแก้ม

  • บลัชออนไม่ติดทรง กระจายไม่สม่ำเสมอ
  • ปัดแก้มแล้วยิ่งเน้นให้เห็นร่องแก้มชัดขึ้น
  • ยากที่จะสร้างพวงแก้มแบบสาวเกาหลี
  • สีแก้มจางเร็ว ต้องเติมบ่อย

ปัญหาการไฮไลท์และคอนทัวร์

  • ไฮไลท์ยิ่งทำให้แก้มดูตอบ
  • คอนทัวร์แล้วใบหน้าดูโทรม แก่กว่าอายุ
  • เฉดดิ้งทำให้หน้าดูผอมกว่าความเป็นจริง
  • ยากที่จะสร้างมิติให้ใบหน้า

ปัญหาความมั่นใจ

  • ถ่ายรูปแล้วมักไม่สวย เห็นร่องแก้มชัด
  • แต่งหน้าเท่าไหร่ก็ไม่สดใส
  • มุมกล้องบางมุมทำให้หน้าดูโทรมมาก
  • ต้องคอยระวังแสงไฟที่จะทำให้เห็นเงา

ปัญหาการเซ็ตเมคอัพ

  • เมคอัพไม่อยู่ทรงในระหว่างวัน
  • สเปรย์น้ำแร่แล้วรองพื้นแยกเป็นคราบ
  • แป้งฝุ่นเกาะตามร่องแก้ม
  • เครื่องสำอางเยิ้มง่ายตามร่องแก้ม

สิ่งที่สาวแก้มตอบต้องทำเพิ่ม

  • ใช้เวลาในการเตรียมผิวมากกว่าปกติ
  • ต้องหาเทคนิคพิเศษในการแต่งหน้า
  • ลงทุนกับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น
  • ต้องคอยเช็คและเติมเมคอัพบ่อยกว่าปกติ

การเติมฟิลเลอร์แก้มตอบ ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างไร

ทำไมการเติมฟิลเลอร์แก้มจึงช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ได้ ตามธรรมชาติแล้ว เมื่อเราอายุมากขึ้น ใบหน้าของเราจะสูญเสียไขมัน (Fat atrophy) และมวลกระดูก (Bone resorption) โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ทำให้เกิดภาวะแก้มตอบ หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Malar fat pad ptosis ค่ะ

เมื่อเติมฟิลเลอร์บริเวณแก้มตอบ จะส่งผลให้

  1. เกิดร่องแก้มลึก (Nasolabial folds) ชัดเจน
  2. ผิวหย่อนคล้อยลงด้านล่าง ทำให้เกิดร่องเหี่ยวย่น
  3. ใบหน้าดูผอม ทรุดโทรม และแก่กว่าวัย

การเติมฟิลเลอร์แก้มจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

โดยหมอจะฉีดสาร Hyaluronic acid เข้าไปในชั้น Deep fat compartments ของแก้ม เพื่อ

  • เติมเต็มปริมาตรที่สูญเสียไป
  • ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
  • สร้างโครงหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
  • ลดความลึกของร่องแก้ม

ผลลัพธ์ที่จะได้หลังเติมฟิลเลอร์แก้มตอบ

  • ใบหน้าดูกระชับ เต่งตึง
  • แก้มดูอิ่มเอิบเป็นธรรมชาติ
  • ร่องที่ดูลึก ไม่เรียบก็จะตื้นขึ้น
  • โครงหน้าชัดเจน สมดุล
  • ดูอ่อนเยาว์ขึ้น 5-10 ปี *แล้วแต่บุคคล

ร่องแก้ม กับแก้มตอบ ใกล้กัน แต่คนละตำแหน่ง รักษาต่างกัน

ร่องแก้ม (Nasolabial folds)

  • คือร่องลึกที่พาดจากข้างจมูกลงมาถึงมุมปาก
  • เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิวและไขมันใต้ผิวหนัง
  • การเติมฟิลเลอร์จะฉีดตรงร่องเพื่อยกและเติมเต็มร่องให้ตื้นขึ้น

แก้มตอบ (Malar fat pad ptosis)

  • คือบริเวณแก้มส่วนกลางใบหน้า ใต้ต่อกระดูก Zygomatic bone
  • เกิดจากการสูญเสียไขมันและการย่อยสลายของกระดูกแก้มตามวัย
  • การเติมฟิลเลอร์จะฉีดลึกลงไปในชั้น Deep fat compartments เพื่อเพิ่มปริมาตร

ทำไมต้องแยกการรักษา

  1. ตำแหน่งการฉีดต่างกัน
    • ร่องแก้ม: ฉีดตื้นกว่า ตามแนวร่อง
    • แก้มตอบ: ฉีดลึกกว่า กระจายเป็นบริเวณกว้าง
  2. เทคนิคการฉีดต่างกัน
    • ร่องแก้ม: ใช้เทคนิค Linear threading หรือ Micro-bolus
    • แก้มตอบ: ใช้เทคนิค Bolus injection หรือ Fanning
  3. ผลลัพธ์ที่ได้ต่างกัน
    • เติมร่องแก้มอย่างเดียว: ร่องจะตื้นขึ้น แต่แก้มยังตอบ
    • เติมแก้มอย่างเดียว: แก้มจะอิ่ม แต่ร่องแก้มอาจยังชัด

ในกรณีที่คุณมีทั้งร่องแก้มและแก้มตอบ หมอแนะนำให้รักษาทั้งสองจุดควบคู่กันค่ะ โดย

  1. เริ่มจากเติมแก้มก่อน เพื่อสร้างโครงสร้างและการรองรับ
  2. ตามด้วยการเติมร่องแก้ม เพื่อปรับให้ใบหน้าดูกลมกลืน

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะแตกต่างกัน

  • แก้มตอบ: ใช้ประมาณ 1-2 cc ต่อข้าง
  • ร่องแก้ม: ใช้ประมาณ 0.5-1 cc ต่อข้าง
  • ในบางเคสอาจจะมี 2 ปัญหานี้ทั้งคู่ รักษาไปพร้อมกันได้ แต่จะใช้ฟิลเลอร์คนละโมเลกุล

แบบไหนที่เรียกแก้มตอบ แบบไหน เรียกโหนกแก้มสูง

หมอขอสรุปความแตกต่างระหว่างแก้มตอบและโหนกแก้มสูงในรูปแบบตารางนะคะ

หัวข้อแก้มตอบโหนกแก้มสูง
ลักษณะที่เห็น– แก้มดูแบน ไม่มีปริมาตร
– ใบหน้าดูทรุดโทรม
– อาจมีร่องข้างแก้มชัดเจน
– กระดูกแก้มนูนสูง
– ใบหน้าด้านข้างกว้าง
– มองเห็นส่วนนูนของแก้มชัดเจน
โครงสร้างที่เกี่ยวข้อง– ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
– เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
– กระดูกแก้ม
– โครงสร้างกระดูกใบหน้า
สาเหตุ– อายุที่มากขึ้น
– การสูญเสียไขมัน
– น้ำหนักลดมาก
– พันธุกรรม
– ลักษณะเฉพาะของเชื้อชาติ
– โครงสร้างกระดูกแต่กำเนิด
การรักษา– ฉีดฟิลเลอร์
– ฉีดไขมันตัวเอง
– ร้อยไหม *ทำได้ในบางเคส
– ผ่าตัดลดกระดูกแก้ม
– ในบางกรณีอาจใช้โบท็อกซ์ช่วยลดกล้ามเนื้อบดเคี้ยว
– เติมฟิลเลอร์อำพรางโหนกแก้ม *ดูเป็นรายบุคคลไป
การประเมิน– ดูจากความยุบตัวของแก้ม
– การคลำชั้นไขมัน
– ดูจากความนูนของกระดูก
– อาจต้องถ่ายภาพรังสี
ระยะเวลาการเกิด– เกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้น
– สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง
– เป็นมาตั้งแต่กำเนิด
– ชัดเจนขึ้นในวัยผู้ใหญ่
ผลต่อการมองอายุ– ทำให้ดูแก่กว่าอายุ
– ใบหน้าดูอ่อนล้า
– บางคนอาจชอบ หรือไม่ชอบ รูปหน้สไตล์นี้
– เป็นลักษณะเฉพาะของใบหน้า
การแก้ไขชั่วคราวทำได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์
(อยู่ได้ 12-18 เดือน)
ทำได้ยาก ต้องใช้การผ่าตัดถาวร
หรือถ้าเติมฟิลเลอร์ก็ต้องมีการเติมต่อเนื่อง

หมายเหตุ: บางคนอาจมีทั้งแก้มตอบและโหนกแก้มสูงพร้อมกัน การรักษาจึงต้องพิจารณาทั้งสองปัจจัยร่วมกัน และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอยู่ได้นานไหม

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบและระยะเวลาการอยู่ของฟิลเลอร์นะคะ เริ่มจากชั้นผิวหนังที่เราฉีดฟิลเลอร์ จากตื้นไปลึก

  1. ชั้นผิวหนัง (Dermis)
  2. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous)
  3. ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle layer)
  4. ชั้นกระดูก (Supraperiosteal)

สำหรับแก้มตอบ หมอจะฉีดฟิลเลอร์ลงลึกถึง 2 ชั้น

  • ชั้นลึก: ฉีดชิดกระดูก (Supraperiosteal) → อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • ชั้นกลาง: ฉีดในชั้นไขมัน (Subcutaneous) → อยู่ได้ 12-18 เดือน

ทำไมความลึกถึงมีผลต่อระยะเวลา

ชั้นลึก (ชิดกระดูก)

  • มีการเคลื่อนไหวน้อย
  • เลือดมาเลี้ยงน้อยกว่า
  • การย่อยสลายช้ากว่า
    → ฟิลเลอร์จึงอยู่ได้นานกว่า

ชั้นตื้น-กลาง

  • มีการเคลื่อนไหวมาก
  • เลือดมาเลี้ยงมากกว่า
  • การย่อยสลายเร็วกว่า
    → ฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นกว่า

ปัจจัยที่มีผลต่อการอยู่นานของฟิลเลอร์

ชนิดของฟิลเลอร์

  • ความเข้มข้น
  • การเชื่อมโยงของโมเลกุล
  • ขนาดของเม็ดเจล

พฤติกรรมของคนไข้

  • การออกกำลังกายหนัก
  • การนวดหน้าบ่อย
  • การนอนคว่ำ
    → ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น

สภาพผิวและร่างกาย

  • อายุ
  • การเผาผลาญ
  • ระบบภูมิคุ้มกัน
  • ฮอร์โมน

คำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน

  1. เลือกฟิลเลอร์คุณภาพดี
  2. ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  3. ดูแลตัวเองหลังฉีดตามคำแนะนำ
  4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้สลายเร็ว
  5. อาจแบ่งฉีด 2-3 ครั้งเพื่อสะสมปริมาณ

โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะอยู่ได้ประมาณ 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างต้น หมอแนะนำให้มาติดตามผลทุก 12-18 เดือน เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างต่อเนื่องค่ะ

ฟิลเลอร์รุ่นไหน เหมาะกับการเติมแก้มตอบ

หมอขอสรุปข้อมูลฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์ที่เหมาะกับการเติมแก้มในรูปแบบตารางนะคะ

แบรนด์รุ่นคุณสมบัติความเหมาะสมกับแก้มตอบ
RestylaneLyft/Perlane– ความเข้มข้น HA สูง
– การเชื่อมโยงโมเลกุลแน่น
– เม็ดเจลขนาดใหญ่
ดีมาก – เหมาะกับการเติมปริมาตรแก้ม โดยเฉพาะชั้นลึก
RestylaneDefyne– ยืดหยุ่นสูง
– การกระจายตัวดี
ดี – เหมาะกับการเติมชั้นกลาง
JuvedermVoluma– ความหนืดสูงสุด
– เทคโนโลยี Vycross
– การอยู่นาน 18-24 เดือน
ดีมาก – เหมาะกับการเติมปริมาตรแก้มทั้งชั้นลึกและกลาง
JuvedermVolift– ความยืดหยุ่นดี
– การกระจายตัวดี
ดี – เหมาะกับการเติมชั้นกลาง
Ultra V HyalPlus– เทคโนโลยี BDDE crosslink
– การกระจายตัวดี
ดี – เหมาะกับการเติมชั้นกลาง-ลึก
BeloteroVolume– เทคโนโลยี CPM
– การกระจายตัวสม่ำเสมอ
ดี – เหมาะกับการเติมชั้นกลาง
คลินิกไม่ได้แนะนำยี่ห้อใด รุ่นใดเป็นพิเศษ แต่เลือกจากปัญหาคนไข้เป็นหลัก

การเชื่อมโยงโมเลกุล

  • ควรเป็นแบบ Highly cross-linked
  • มีความเสถียรสูง
    → ช่วยให้อยู่ทนและคงรูปได้ดี

กรณีแก้มตอบมาก ต้องการปริมาตรเยอะ

  • Juvederm Voluma
  • Restylane Lyft
    → เพราะให้ปริมาตรสูง อยู่ได้นาน

กรณีแก้มตอบปานกลาง

  • Restylane Defyne
  • Ultra V Hyal Hard
  • Belotero Volume
    → เพราะมีความยืดหยุ่นดี กระจายตัวสม่ำเสมอ

กรณีต้องการเติมหลายชั้น

  • ชั้นลึก: ใช้รุ่นที่มีความหนืดสูง
  • ชั้นกลาง: ใช้รุ่นที่มีความยืดหยุ่นดี
    → เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบใช้กี่ ซีซี

คำถามที่หมอเจอบ่อยมากเลยคือ “หมอคะ ฉีดฟิลเลอร์แก้มต้องใช้กี่ซีซี?” จริงๆ แล้วไม่มีคำตอบตายตัวนะคะ เพราะแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เหมือนเสื้อผ้าที่ไม่ได้ไซส์เดียวใส่ได้ทุกคนค่ะ

ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณฟิลเลอร์

  • โครงสร้างใบหน้า
  • ความรุนแรงของแก้มตอบ
  • อายุ
  • ประวัติการฉีดที่ผ่านมา
  • เป้าหมายที่ต้องการ

แต่เพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆ หมอมีตารางแนะนำเบื้องต้น

ระดับแก้มตอบปริมาณต่อข้างปริมาณรวมหมายเหตุ
เล็กน้อย0.5-1 cc1-2 ccเหมาะสำหรับอายุ 25-35 ปี เริ่มมีแก้มตอบ
ปานกลาง1-1.5 cc2-3 ccพบบ่อยในช่วงอายุ 35-45 ปี
มาก1.5-3 cc3-5 ccมักพบในอายุ 45+ หรือน้ำหนักลดมาก

คำแนะนำการเติมฟิลเลอร์แก้มตอบ

ไม่จำเป็นต้องฉีดทั้งหมดในครั้งเดียว

  • สามารถทยอยฉีดได้
  • ดูผลลัพธ์ไปทีละสเต็ป
  • ปรับแต่งได้ตามต้องการ

การฉีดครั้งแรก

  • มักเริ่มที่ปริมาณน้อยก่อน
  • รอดูการตอบสนอง 2-4 สัปดาห์
  • ค่อยเพิ่มเติมถ้าต้องการ

การฉีดครั้งต่อไป

  • ใช้ปริมาณน้อยลง
  • เพราะมี Foundation จากครั้งแรก
  • เน้น Maintain มากกว่า Build-up

เทคนิคพิเศษจากหมอ

  • บางคนอาจต้องการความอิ่มมากหรือน้อยต่างกัน
  • สามารถปรับสัดส่วนซ้าย-ขวาไม่เท่ากันได้ ถ้าใบหน้าไม่สมมาตร
  • ควรถ่ายรูปก่อน-หลังเพื่อดูพัฒนาการ

ข้อควรระวัง

  • ปริมาณมากไป อาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • น้อยไป อาจไม่เห็นผลชัดเจน
  • ต้องคำนึงถึงความสมดุลของใบหน้าโดยรวม

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ VS ฉีดไขมันแก้มตอบ

หมอเจอคำถามนี้บ่อยมากเลยค่ะ หลายคนกำลังลังเลระหว่างการฉีดฟิลเลอร์กับฉีดไขมันตัวเองเพื่อแก้ปัญหาแก้มตอบ ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป วันนี้หมอเลยอยากมาแชร์ข้อมูลให้ทุกคนได้ตัดสินใจกันง่ายขึ้น

หัวข้อเปรียบเทียบฉีดฟิลเลอร์ฉีดไขมันตัวเอง
ขั้นตอนการทำ– ใช้เวลา 15-30 นาที
– ทำเฉพาะที่
– ยาชาเฉพาะจุด
– ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง
– ต้องดูดไขมันก่อน
– อาจต้องดมยาสลบ แล้วแต่แพทย์จะประเมิน
ความรู้สึก– เจ็บน้อย
– ไม่มีแผล
– เจ็บบริเวณที่ดูดไขมัน
– มีแผลเล็กๆ ที่จุดดูดไขมัน
การฟื้นตัว– น้อยกว่า
– อาจมีรอยช้ำเล็กน้อย
– กลับบ้านได้ทันที
– 7-14 วัน
– บวมนานกว่า
– ต้องพักฟื้น มีทำแผล ใส่ผ้าพันแหล
ผลลัพธ์– เห็นผลทันที
– ควบคุมปริมาณแน่นอน
– แก้ไขง่ายถ้าไม่พอใจ
– หมอต้องฉีดเผื่อ ช่วงแรกหน้าจะบวมๆ
– ผลลัพธ์ชัดเจนหลัง 3 เดือน
– ไม่สามารถแก้ไขได้ทันที
ความคงทน– อยู่ได้ 12-18 เดือน
– ต้องทำซ้ำ
– ผลลัพธ์คาดเดาได้
– อยู่ได้ถาวร (30-70% ของไขมันที่อยู่รอด)
– ทำครั้งเดียว
– ผลลัพธ์อาจไม่แน่นอน
ค่าใช้จ่าย– 15,000-30,000 บาท/ครั้ง
– ทำซ้ำทุก 1-2 ปี
– 30,000-100,000 บาท
– ทำครั้งเดียว
ข้อดี– ไม่ต้องผ่าตัด
– ฟื้นตัวเร็ว
– ปรับแต่งง่าย
– ควบคุมได้แม่นยำ
– ผลถาวร
– ใช้เนื้อเยื่อตัวเอง
– ดูธรรมชาติ
– คุ้มค่าระยะยาว
ข้อด้อย– ต้องทำซ้ำ
– ค่าใช้จ่ายสะสม
– ระวังฟิลเลอร์ปลอม
– ใช้เวลาฟื้นตัวนาน
– ควบคุมปริมาณยาก
– ผลลัพธ์ไม่แน่นอน

ฉีดฟิลเลอร์ เหมาะกับ

  • ต้องการเห็นผลเร็ว
  • ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
  • อยากลองผลลัพธ์ก่อน
  • กลัวการผ่าตัด
  • ต้องการควบคุมปริมาณแน่นอน

ฉีดไขมัน เหมาะกับ

  • ต้องการผลลัพธ์ถาวร
  • มีเวลาพักฟื้น
  • ต้องการความธรรมชาติสูง
  • มีไขมันส่วนเกินที่ต้องการกำจัด
  • คำนึงถึงความคุ้มค่าระยะยาว

ขั้นตอนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

  • พบแพทย์ ประเมินปัญหา หมอต้าร์จะต้องสอบถามประวัติ และประเมินปัญหาผิวหน้า ก่อนรับบริการทุกเคส
  • ทำความสะอาดผิวหน้า ทำความสะอาดผิวด้วยคลีนซิ่ง ลบเครื่องสำอาง ก่อนเริ่มทำการรักษา
  • แปะยาชา เพื่อความสบายผิว เจ้าหน้าที่จะแปะยาชา ให้คนไข้ก่อนรับบริการ ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
  • แพทย์เริ่มทำการรักษา โดยมีเจ้าหน้าที่แจ้งตัวยา ตรงรุ่น ตรงตามคำแนะนำของแพทย์ ตรวจสอบฟิลเลอร์ได้ และใช้เวลาในการรักษาไม่นาน 20-30 นาที
  • รับยาตามแพทย์สั่ง แพทย์จ่ายยา (ถ้ามี) และให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง
  • ติดตามผล ควรเข้ามาพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลลัพธ์การรักษาให้ออกมาอย่างที่คาดหวัง

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ไหนดี

เมื่อคลินิกความงามมีให้เลือกมากมาย สิ่งสำคัญคือต้องเลือกด้วยวิจารณญาณ ไม่หลงกับกับดักราคาถูกหรือโปรโมชั่นล่อใจ เพราะความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด การเสียเวลาศึกษาข้อมูลและตรวจสอบมาตรฐานคลินิกย่อมคุ้มค่ากว่าการต้องมาแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการตัดสินใจผิดพลาด อ่านบทความ การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด ได้ที่นี่

มาตรฐานสถานพยาบาลที่จะฉีดฟิลเลอร์

  • ต้องเป็นคลินิกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง
  • มีการแสดงใบอนุญาตและใบประกอบวิชาชีพของแพทย์อย่างชัดเจน
  • มีมาตรฐานด้านความสะอาดและความปลอดภัย

คุณสมบัติแพทย์ผู้ทำหัตถการฟิลเลอร์

  • ต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับการรับรองและมีความเชี่ยวชาญด้านความงาม
  • มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
  • ควรมีผลงานที่สามารถตรวจสอบได้

วิธีการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์

  • สามารถตรวจสอบใบอนุญาตคลินิกผ่านเว็บไซต์กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
  • สอบถามประวัติและประสบการณ์ของแพทย์ได้
  • มีการให้คำปรึกษาและประเมินสภาพผิวก่อนทำหัตถการ
หมอปลอม หมอเถื่อน ตรวจสอบ แพทยสภาพ
รีวิวฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หมอต้าร์

เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดรอยช้ำ และทำให้คุณเข้าใจกระบวนการรักษาได้ดียิ่งขึ้น ดังนี้

การเตรียมตัวล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์

  • งดการรับประทานยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน
  • งดอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ที่กระตุ้นผิวรุนแรง

การเตรียมตัวก่อนวันทำ 1-3 วัน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ
  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรด

วันที่มาทำหัตถการ

  • มาถึงคลินิกก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15 นาที
  • ล้างหน้าให้สะอาด ไม่แต่งหน้ามา หรือถ้าแต่งมาคลินิกก็จะมีการคลีนหน้า ฆ่าเชื้อก่อนทำอยู่แล้ว
  • แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากค่ะ สำหรับคนที่เคยฉีดมาแล้วคงคุ้นเคยกับข้อปฏิบัติเหล่านี้ดี แต่ถ้าเป็นมือใหม่ที่เพิ่งฉีดครั้งแรก หรือมีผิวบอบบางเป็นพิเศษ แนะนำให้ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ

คำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • หลังการฉีด อาจมีอาการบวม เขียวช้ำได้ ซึ่งจะดีขึ้นภายใน 3 วัน ถ้าอาการแย่ลงให้รีบติดต่อคลินิก
  • ใน 48 ชั่วโมงแรก ควรประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำ
  • ระวังไม่ให้ใบหน้ากระทบกระแทก และหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวหน้าแรงๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  • งดกิจกรรมที่ใช้ความร้อนทั้งหมด เช่น เลเซอร์หน้า อบไอน้ำ ซาวน่า อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
  • ห้ามนวดหน้า ทำทรีทเม้นท์ใดๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารหมักดองทุกชนิด 2 สัปดาห์ (หากจำเป็น ให้งดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง)

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ราคาเท่าไหร่

สำหรับราคาการฉีดแก้มตอบนั้น จะอยู่ในช่วงประมาณ 15,000 – 40,000 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้ราคาจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลักๆ ดังนี้

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้

  • โดยทั่วไปใช้ประมาณ 1-2 cc ต่อข้าง
  • ยิ่งใช้ปริมาณมาก ราคาก็จะสูงขึ้น

ยี่ห้อและคุณภาพของฟิลเลอร์

  • แบรนด์ที่เป็นที่นิยม เช่น Juvederm, Restylane จะมีราคาสูงกว่า
  • แบรนด์อื่นๆจะมีราคาถูกกว่า เป็นทางเลือก

สถานที่ให้บริการ

  • คลินิกความงามมาตรฐาน
  • โรงพยาบาลเอกชน
  • คลินิกแพทย์เฉพาะทาง

เติมได้ค่ะ แต่หมอแนะนำแบบนี้ เราต้องให้น้ำหนักและสภาพผิวคงที่ก่อน เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

หลังจากน้ำหนักคงที่ประมาณ 3-6 เดือน ค่อยมาปรึกษาเรื่องการฉีดฟิลเลอร์อีกทีนะคะ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม คลิก

หมอก็ไม่แน่ใจนะคะว่าใครนิยามขึ้นมาในตอนแรก แต่จากที่หมอได้ยินจากคนไข้ ในโซเชียล คิดว่าจะเป็นการพูดถึงบริบทของใบหน้าที่ไม่ได้รับการดูแล ซูบ ผอม ขาดวอลลุ่ม ไม่อิ่มเอิบประมาณนั้นค่ะ หรืออีกนัยหนึ่งคืออยากทำให้ใบหน้าเล็ก เรียว เหมือนลักษณะของใบหน้ายุงก็ได้ (ยุงคงคิดในใจ…ว่าเกี่ยวอะไรกับช้าน)

แต่ถ้า “หน้ายุง” คือลักษณะใบหน้าที่มีไขมันใต้ผิวหนังน้อย ทำให้ใบหน้าดูผอมบาง ขาดความอิ่มเอิบ และอาจทำให้ดูแก่กว่าวัย สาเหตุอาจเกิดจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การเสื่อมของไขมันใต้ผิวหนังตามวัย หรือพันธุกรรม ปัจจุบันมีวิธีการรักษาหลายวิธี เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือการทำทรีตเมนต์ การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน หรือแม้แต่บางที่ก็ตั้งชื่อเป็นโปรแกรมยกกระชับหน้าก็มี เพื่อเพิ่มความอิ่มเอิบให้ใบหน้าค่ะ แต่หมอคิดว่าไม่ต้องซีเรียสไปนะคะว่าจะเรียกว่าอะไร เพราะสุดท้าย ทางการแพทย์ก็มีแนวทางในการวิเคราะห์ใบหน้าคนไข้ และแนะนำโปรแกรมที่เหมาะสมให้อยู่แล้ว ว่าจะต้องทำอะไรก่อน อะไรหลัง เพื่อให้ใบหน้าสมส่วน ได้รูป มีคุณภาพผิวที่ดีตามวัย หรือทำให้อ่อนกว่าวัยได้ค่ะ

อ่านเพิ่มเติม คลิก

วันนี้หมอจะมาเล่าเรื่องความหนืดของฟิลเลอร์ ที่หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องรู้ด้วย ต้องรู้ แต่ไม่ต้องเลือกค่ะ เพราะหมอจะเลือกและแนะนำให้อยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วสำคัญมากๆ เลยนะคะ เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดว่าฟิลเลอร์ตัวนั้นๆ จะให้ผลลัพธ์ยังไงบนใบหน้าเราค่ะ

ฟิลเลอร์มีความหนืดที่แตกต่างกัน เปรียบเสมือนความข้นของน้ำผึ้งและน้ำเชื่อม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการใช้งานและผลลัพธ์ที่จะได้

ฟิลเลอร์หนืดมาก:
– เหมือนน้ำผึ้ง ไหลช้า อยู่ทรงดี
– เหมาะกับการเพิ่มปริมาตร เช่น เติมแก้ม

ฟิลเลอร์หนืดน้อย:
– เหมือนน้ำเชื่อม ไหลและกระจายตัวง่าย
– เหมาะกับริ้วรอยละเอียด

การเลือกความหนืดที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งบริเวณที่ฉีด ผลลัพธ์ที่ต้องการ และสภาพผิว ซึ่งเราจะมาดูรายละเอียดกันว่าแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานอย่างไร…

อ่านเพิ่มเติม คลิก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนสัก 2-5 ปีที่แล้ว ทางเลือกเราจะมีแค่ฉีดฟิลเลอร์ กับเติมไขมันตัวเอง แต่ตอนนี้ มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ฟิลเลอร์แบบ Hyaluronic acid แบบเดิมก็ยังเป็นทางเลือกที่นิยมกันเป็นอันดับ 1 อยู่ ที่เห็นผลทันทีและปรับรูปหน้าได้ง่าย หรือจะ Biostimulator แบบกระตุ้นคอลลาเจนอย่าง Sculptra หรือ Radiesse ที่จะช่วยให้แก้มดูเต็มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการเติมเต็มด้วยไขมันตัวเองอีกด้วยนะคะ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความปลอดภัย หมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษากับหมอโดยตรงก่อนนะคะ จะได้ตรวจประเมินรูปหน้าและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณที่สุดค่ะ จะได้เหมาะสม ถูกใจ ปลอดภัย ไร้กังวลนะคะ

อ่านเพิ่มเติม คลิก

ใช้เวลารับบริการ:

40

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

เพียงเติมเต็มแก้มตอบ แค่เล็กน้อย คุณก็พร้อมเผยความสวยที่อิ่มเอิบและสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ

★★ ความประทับใจ ★★

facebook
Jinwara H. New
แนะนำเลย
google
facebook
google
facebook
Savaros Rodprasert
แนะนำเลย
facebook
google