เปลี่ยนผิวให้เรียบเนียนด้วยนวัตกรรม CO2 Laser
กำจัดไฝ และปัญหาผิวต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ CO2 ที่ล้ำสมัย ได้ผลจริง ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
เหตุผลที่ต้องเลือกบริการ CO2 Laser ที่ดีเลิฟเวอรี่คลินิก
ปลอดภัยสูง
เทคโนโลยี Proscan FG CO2 laser ได้รับการรับรองมาตรฐานทางการแพทย์ ให้บริการโดยแพทย์ ไม่ใช่พยาบาลหรือพนักงาน
รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น
การรักษาใช้เวลาเพียง 20-30 นาที ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
ไม่เจ็บ ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
ใช้ยาชาเฉพาะจุดก่อนทำ ไม่เจ็บ หายเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น แตกต่างจากการผ่าตัด

โปรแกรม CO2 Laser คืออะไร?
CO2 Laser คือนวัตกรรมการรักษาด้วยเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง CO2 Laser หรือที่เรียกว่า “Carbon Dioxide Laser” เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้แสงความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการกำจัดและทำลายเนื้อเยื่อที่ไม่ต้องการ โดยการทำให้อวัยวะหรือเซลล์เป้าหมายถูกกำจัดออกอย่างแม่นยำ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง
การทำงานของ CO2 Laser
เครื่องมือเลเซอร์นี้สามารถปรับความเข้มของพลังงานและระดับความร้อนให้เหมาะสมกับการรักษาในแต่ละจุดได้อย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้มีความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือเกิดรอยแผลลึก หลังการรักษา ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษาจะค่อยๆ ฟื้นตัวและกลับมาเรียบเนียนอย่างธรรมชาติ

ความโดดเด่นของ CO2 Laser
- สามารถใช้กำจัดไฝ หูด ตาปลา กระเนื้อ และรอยโรคอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทำลายเฉพาะจุดโดยไม่ทำให้เลือดออกและลดโอกาสการทิ้งรอยแผลเป็น
- ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ดังนั้น CO2 Laser จึงเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาปัญหาผิวที่ต้องการความแม่นยำ ลดระยะเวลาการฟื้นตัว และให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
ขั้นตอนการรักษาด้วย CO2 Laser
- ปรึกษาแพทย์ – แพทย์ตรวจประเมินไฝหรือจุดที่ต้องการรักษา เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- เตรียมผิว – ทำความสะอาดผิวและทาครีมชาเฉพาะจุด 20-30 นาทีก่อนเริ่มการรักษา
- การรักษา – แพทย์ใช้เลเซอร์ยิงที่จุดเป้าหมาย ค่อยๆ ระเหยเนื้อเยื่อออกอย่างแม่นยำ
- การดูแลหลังรักษา – แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีดูแลบริเวณที่ทำการรักษาเพื่อให้หายเร็วที่สุด
เปรียบเทียบการรักษาแบบต่างๆ
วิธีการรักษา | ความเจ็บปวด | เวลาพักฟื้น | โอกาสเกิดแผลเป็น | โอกาสการเกิดซ้ำ |
---|---|---|---|---|
CO2 Laser | น้อย | 1-2 สัปดาห์ | ต่ำมาก | ต่ำ |
การจี้ด้วยไฟฟ้า | น้อย | 1-3 สัปดาห์ | ต่ำ | ปานกลาง |
การดูแลหลังการรักษา
- ทำความสะอาดบริเวณที่รักษาเบาๆ – ทำความสะอาดบริเวณที่รักษาด้วยน้ำเกลือหรือสารละลายที่แพทย์แนะนำ วันละ 2-3 ครั้ง
- ทายาตามที่แพทย์สั่ง – ทายาปฏิชีวนะหรือครีมที่แพทย์แนะนำเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงแสงแดด – ป้องกันบริเวณที่รักษาจากแสงแดดอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ทาครีมกันแดด SPF 50+ เมื่อต้องออกนอกบ้าน
- ระวังไม่ให้สะเก็ดแผลหลุด – ปล่อยให้สะเก็ดแผลหลุดออกเองตามธรรมชาติ ไม่ควรแกะหรือขูด เพื่อลดโอกาสเกิดแผลเป็น
- มาตรวจติดตามผลตามนัด – สำคัญมากที่จะต้องมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษาและให้การดูแลที่เหมาะสม

ปัญหาที่สามารถรักษาได้ด้วย CO2 Laser
CO2 Laser เหมาะสำหรับการกำจัดและรักษาความผิดปกติของผิวหนังหลากหลายประเภท เนื่องจากสามารถทำลายเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทิ้งรอยแผลลึก ต่อไปนี้คือรายละเอียดของปัญหาผิวที่สามารถรักษาด้วย CO2 Laser
1. กระเนื้อ และ ติ่งเนื้อ
- กระเนื้อ: เป็นเนื้องอกผิวหนังชนิดที่ไม่เป็นอันตราย ลักษณะเป็นตุ่มแบนหรือนูนขนาดเล็ก มีสีคล้ำหรือสีเดียวกับผิว อาจเกิดในบริเวณที่ถูกแสงแดดมาก เช่น ใบหน้า หรือหลังมือ
- ติ่งเนื้อ: เนื้อยื่นเล็กๆ คล้ายติ่ง ลักษณะนิ่ม ไม่เจ็บปวด แต่มักรบกวนด้านความสวยงาม โดยเฉพาะบนคอ หรือลำตัว
การรักษา: CO2 Laser สามารถเผาทำลายและกำจัดกระเนื้อหรือเนื้อนูนเหล่านี้โดยไม่ทิ้งรอยแผล หรือเพียงแผลขนาดเล็กที่หายเร็ว
2. ต่อมไขมันนูน
เกิดจากการสะสมของไขมันที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ลักษณะคือตุ่มนูนเล็กๆ สีเดียวกับผิว พบได้บนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หรือร่องข้างจมูก
การรักษา: CO2 Laser ปรับลดระดับพลังงานในการละลายและระเหยไขมันเกินโดยตรง ทำให้รุขุมขนไม่ถูกทำลายมาก ลดการเกิดใหม่
3. สิวหิน
สิวหิน (Milia) เป็นผลมาจากการอุดตันของเคราตินในใต้ผิวหนัง เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ แข็ง สีขาวหรือสีเหลือง ซึ่งมักเจอในบริเวณเปลือกตา หรือรอบดวงตา
การรักษา: CO2 Laser ใช้พลังงานเลเซอร์ระเหยเคราตินที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออก หมดปัญหาสิวหินอย่างเห็นผล
4. หูด
หูดเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ทำให้ผิวหนังมีลักษณะหนา หยาบ หรือเป็นตุ่มนูนเล็กๆ มักเกิดบริเวณนิ้วมือ ฝ่ามือ หรือเท้า
การรักษา: CO2 Laser ใช้พลังงานความร้อนเพื่อทำลายบริเวณที่ติดเชื้อไวรัสจนหมด ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ
5. ตาปลา
เป็นอาการที่ผิวหนังแข็งตัวหนาเกิดจากแรงกด ทับ หรือเสียดสีเป็นเวลานาน มักพบบริเวณฝ่าเท้า หรือข้อที่สัมผัสกับรองเท้าบ่อย
การรักษา: เลเซอร์จะทำลายชั้นผิวที่แข็งและสะสม ลดความเจ็บปวดและกลับมาสวมรองเท้าสบายได้ดังเดิม
6. ไฝ และ ขี้แมลงวัน
- ไฝ: เนื้อนูนหรือแบนที่ปรากฏตามร่างกาย มีสีดำหรือน้ำตาล
- ขี้แมลงวัน: จุดขนาดเล็กที่ลักษณะแบนราบ สีน้ำตาลหรือดำ
การรักษา: CO2 Laser สามารถกำจัดไฝและขี้แมลงวันได้อย่างแม่นยำ โดยไม่กระทบกับเซลล์ผิวข้างเคียง ลดการทิ้งรอยแผลเป็น
7. สิวอุดตัน
สิวชนิดนี้เกิดจากน้ำมันใต้ผิวหนังอุดตันในรูขุมขน และเกิดปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรีย มักพบในวัยรุ่น
การรักษา: เลเซอร์ช่วยเปิดรูขุมขนและระบายไขมันที่อุดตัน โดยเฉพาะสิวหัวปิด เช่น สิวหัวดำ สิวหัวขาว
8. สิวข้าวสาร
เกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมในรูขุมขน ลักษณะคล้ายสิวหัวปิดเม็ดเล็กๆ สีขาว พบมากรอบดวงตา
การรักษา: เลเซอร์สามารถเจาะเนื้อลึกเพื่อละลายไขมันที่สะสม และเปิดรูขุมขน ทำให้สิวข้าวสารหายไปโดยไม่ต้องบีบ
ก่อนการทำ CO2 Laser
- ปรึกษาแพทย์
- เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินสภาพผิวหรือบริเวณที่ต้องการรักษา แพทย์จะวางแผนการรักษาตามปัญหาเฉพาะบุคคล เช่น ประเภทของไฝ หูด หรือสิวหิน
- งดการใช้ยา/ครีมบางชนิด
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ, AHA, BHA หรือสารที่ทำให้ผิวลอกอย่างน้อย 3-7 วันก่อนการรักษา
- งดโดนแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดแรงๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา และหมั่นทาครีมกันแดด SPF 50+ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอักเสบจากแสงแดด
- งดการทำทรีตเมนต์หรือหัตถการบริเวณที่รักษา
- เช่น การขัดผิว ผลัดเซลล์ผิว หรือเลเซอร์ชนิดอื่นๆ ในบริเวณเดียวกัน
- ทำความสะอาดผิวก่อนการรักษา
- ล้างหน้า/ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ให้สะอาดหมดจด และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวมัน
- หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นการอักเสบ
- งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และอาหารเผ็ดจัด เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบของผิว
หลังการทำ CO2 Laser
- ทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี
- ใช้น้ำเกลือหรือน้ำยาที่แพทย์แนะนำล้างแผลเบาๆ วันละ 2-3 ครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ทายาตามคำแนะนำของแพทย์
- ทายาปฏิชีวนะหรือครีมลดการอักเสบเพื่อช่วยให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดการแกะหรือขูดสะเก็ดแผล
- ปล่อยให้สะเก็ดหลุดลอกออกเองโดยธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการดึงหรือแกะเพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น
- งดโดนน้ำในช่วงแรก
- เลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการรักษา หากต้องล้าง ให้ซับเบาๆ ห้ามถู
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด
- ป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน เพื่อป้องกันรอยดำหรือการเกิดฝ้า
- งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
- เช่น การเข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก การแช่น้ำร้อน หรือการทำงานในพื้นที่อากาศร้อนจัด เพราะเหงื่ออาจกระตุ้นการระคายเคือง
- รับประทานอาหารที่ดีต่อการฟื้นฟูผิว
- เพิ่มสารอาหารที่มีวิตามิน C, A และ E เพื่อช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนและการสมานแผล
- เข้าติดตามผลการรักษา
- เข้าพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจสอบการฟื้นตัวและดูว่าจำเป็นต้องทำเพิ่มเติมหรือไม่

เรื่องควรรู้ของการทำ CO2 Laser
- ในช่วงวันแรก ผิวอาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย
- หลังจาก 2-3 วัน จะเริ่มเกิดสะเก็ดแผลเล็กๆ
- ประมาณ 7-14 วัน สะเก็ดจะเริ่มหลุดลอกออกจนผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
การรักษาด้วย CO2 Laser เจ็บหรือไม่?
การรักษาด้วย CO2 Laser มีความเจ็บปวดน้อยมาก เนื่องจากมีการทาครีมชาเฉพาะจุดก่อนการรักษา 20-30 นาที ผู้รับการรักษาส่วนใหญ่รู้สึกสบายและไม่มีความเจ็บปวดระหว่างการรักษา
การรักษาใช้เวลานานแค่ไหน?
การรักษาใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที รวมเวลาทาครีมชา แต่เวลาที่ใช้จริงในการยิงเลเซอร์อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนของจุดที่ต้องการรักษา
การรักษาด้วย CO2 Laser ปลอดภัยหรือไม่?
การรักษาด้วย CO2 Laser มีความปลอดภัยสูงเมื่อดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี Proscan FG ที่เราใช้ได้รับการรับรองมาตรฐานทางการแพทย์ และมีความแม่นยำสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ต้องรักษากี่ครั้งจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ?
สำหรับการกำจัดไฝและจุดต่างๆ ส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ในครั้งเดียว แต่ในบางกรณีที่ไฝมีขนาดใหญ่หรือลึก อาจต้องรักษามากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดโอกาสเกิดแผลเป็น
หลังการรักษาต้องใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หลังการรักษา ผิวบริเวณที่รักษาอาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย และจะเกิดสะเก็ดภายใน 1-3 วัน สะเก็ดจะค่อยๆ หลุดออกเองภายใน 7-14 วัน ผู้รับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที เพียงแต่ต้องหลีกเลี่ยงการเปียกน้ำในช่วงแรกและป้องกันบริเวณที่รักษาจากแสงแดด
Co2 Laser ราคาเท่าไหร่

รายการ | ราคา (บาท) |
---|---|
กระเนื้อ ขี้แมลงวัน คิดราคาเป็นจุด (ส่งภาพประเมิน) | เริ่มต้น 500 |
ไฝ คิดตามขนาด/จุด (ส่งภาพประเมิน) | เริ่มต้น 1000 |
เหมาหน้า | 5,000 |
เหมาคอ | 5,000 |
ทำหน้าและคอ | 8,000 |
เหมาหลังครึ่งบน | 10,000 |
เหมาหลังครึ่งล่าง | 10,000 |
เหมาทั้งหลัง | 18,000 |
หลังจากที่จี้ไฝหรือขี้แมลงวัน หมอแนะนำว่ายังไม่ควรแต่งหน้าทับบริเวณที่ทำค่ะ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก หรือจนกว่าสะเก็ดจะหลุดหมด เนื่องจากแผลยังไม่ปิดสนิท ถ้าแต่งหน้าอาจเสี่ยงทำให้แผลติดเชื้อหรือเกิดรอยดำถาวรได้ค่ะ
หากจำเป็นต้องแต่งหน้า แนะนำให้เว้นส่วนที่เพิ่งจี้ไว้ และเน้นดูแลความสะอาด พยายามอย่าให้เครื่องสำอางหรือแปรงแต่งหน้าสัมผัสโดนแผลโดยตรงนะคะ
ช่วงนี้รักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงการจับหรือเกาบริเวณแผล และทาครีมบำรุง/ยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ เพื่อให้แผลหายไวและไม่ทิ้งรอยค่ะ
ไฝ ขี้แมลงวัน หรือกระเนื้อที่รักแร้ หมอก็พบได้บ่อยมากค่ะ และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกายเลย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่เห็นได้ชัดอย่างใบหน้า ลำคอ หรือแขน รวมถึงบริเวณที่เป็นส่วนตัวอย่างซอกพับต่างๆ หรือขาหนีบก็พบได้ค่ะ คนไข้ไม่ต้องกังวลนะคะ เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย และก็มีวิธีกำจัดที่ปลอดภัยหลายวิธีค่ะ แต่ที่ได้รับความนิยมก็เป็นการทำ CO2 เลเซอร์และจี้ไฟฟ้า
ต่อมไขมันที่โตขึ้นบริเวณใบหน้า (sebaceous hyperplasia) สามารถจี้ออกได้นะคะ แต่จะต้องดูขนาด ตำแหน่ง และความเหมาะสมของวิธีการก่อน โดยปกติจะแนะนำให้ปรึกษาและตรวจประเมินกับคุณหมอก่อนค่ะ การรักษาไม่ต้องฉีดยาชา แต่อาจจะมีการตกสะเก็ดของแผลหลังทำ งดโดนน้ำ 24 ชม. หลังแผลหายไม่ทิ้งรอยแผลเป็นถาวรนะคะ ไม่ต้องกังวลค่ะ
คลินิกคิดราคาเป็นจุด จุดละ 500 บาท ถ้ามีเยอะ มีราคาเหมาให้ทั่วแผ่นหลัง เริ่มต้นที่ 5,000 บาทค่ะ อาจมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ ส่งภาพมาประเมินได้ค่ะ
ติ่งเนื้อที่หลังที่ถามมานั้น ทางการแพทย์เราเรียกว่า “skin tag” หรือ “acrochordon” ค่ะ สาเหตุหลักๆ มาจาก
- การเสียดสีของผิวหนังบริเวณนั้นเป็นประจำ
- ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์
- พันธุกรรม
- ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
- อายุที่เพิ่มขึ้น
ส่วนใหญ่เรามักพบในคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปค่ะ แต่ก็สามารถพบได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในคนที่มีน้ำหนักเกินหรือเคยมีประวัติในครอบครัว
คุณไม่ต้องกังวลนะคะ หมอจะอธิบายให้ฟังว่าตอนทำ CO2 Laser จะรู้สึกยังไงค่ะ ระหว่างทำ คนไข้จะรู้สึกแสบๆคันๆ ร้อนๆ เล็กน้อย คล้ายๆ กับโดนยางรัดดีดที่ผิวค่ะ หรือถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนความรู้สึกตอนที่เราตากแดดนานๆ แล้วรู้สึกร้อนผิวนิดๆ แบบนั้นค่ะ
ถ้าใครกังวลมากๆ หมอจะทายาชาให้ประมาณ 30 นาที จะได้สบายผิว และระหว่างทำก็มีระบบเป่าลมเย็นตลอดเวลา
หลังทำเสร็จใหม่ๆ ผิวอาจจะรู้สึกตึงๆ แดงๆ แต่จะค่อยๆ ดีเอง บางเคสหมอจะให้ครีม ยากลับไปทาด้วย ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น