วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คืออะไร?
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ใช้ในประเทศไทยผลิตจากเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว เป็นวัคซีนชนิดฉีด ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3-4 สายพันธุ์ ตามคำแนะนำของหน่วยงานเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่ระดับโลกที่คาดการณ์ว่าจะมีการระบาดมากที่สุดในปีนั้นๆ
การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดในฤดูกาลนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนลดลง
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัสอยู่เสมอ ทำให้ในแต่ละปีอาจมีสายพันธุ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น สำหรับปี 2566 นี้ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ตรวจพบมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ:
- ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Victoria (H1N1) (an A/Victoria/4897/2022 (H1N1) pdm09-like virus)
- ไวรัสชนิด A สายพันธุ์ Thailand (H3N2) (an A/Thailand/8/2022 (H3N2)-like virus)
- ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Austria (a B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage)-like virus)
- ไวรัสชนิด B สายพันธุ์ Phuket (a B/Phuket/3073/2013 (B/Yamagata lineage)-like virus)
การมีสายพันธุ์หลากหลายทำให้การผลิตวัคซีนต้องคำนึงถึงสายพันธุ์เหล่านี้เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ดีที่สุด และเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องมีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัสที่อาจเกิดขึ้น.
ฉีดวัคซีนตรงจุดไหน?
โดยทั่วไปจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน แต่สำหรับทารกและเด็กเล็กจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นขา
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กี่ครั้ง กี่เข็ม
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แต่ละปีอาจแตกต่างกันไปตามอายุและสถานการณ์สุขภาพของแต่ละบุคคล ตารางต่อไปนี้สรุปจำนวนเข็มที่แนะนำสำหรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามช่วงอายุ
ช่วงอายุ | จำนวนเข็มที่แนะนำ |
---|---|
6 เดือน – 8 ปี | ได้รับวัคซีนครั้งแรก ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน |
6 เดือน – 8 ปี | 1 เข็ม (หากเคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อน) |
9 ปีขึ้นไป | 1 เข็ม |
สำหรับเด็กที่อายุระหว่าง 6 เดือนถึง 8 ปีที่ไม่เคยได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อนหรือมีประวัติการฉีดวัคซีนที่ไม่ชัดเจน จะต้องได้รับวัคซีน 2 เข็ม โดยเข็มที่สองจะฉีดห่างจากเข็มแรกประมาณ 4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการสร้างภูมิคุ้มกัน.
โรคไข้หวัดใหญ่ (Flu) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ตั้งแต่ระดับความรุนแรงปานกลางไปจนถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต เชื้อไวรัสนี้แพร่กระจายผ่านทางระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นจมูก ลำคอ หรือปอด
โรคไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่ อันตรายอย่างไร
- ทำให้อาการของโรคหอบหืดกำเริบ
- เกิดการอักเสบของหลอดลมฝอย
- เกิดการติดเชื้อในช่องหูและโพรงจมูก
- ส่งผลให้การทำงานของหัวใจผิดปกติ
- นำไปสู่ภาวะปอดบวมได้
ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญกับการป้องกันและรักษาโรคไข้หวัดใหญ่อย่างทันท่วงที เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ข้อควรรู้ก่อนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ต้องฉีดทุกปีไหม? สายพันธุ์ของวัคซีนอาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค จึงควรฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปีเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ 100% แต่จะช่วยลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ได้
ใครไม่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน ผู้ที่มีประวัติแพ้ไก่หรือไข่
- ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อน
- ผู้ที่เพิ่งหายจากอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันไม่เกิน 7 วัน
- ผู้ที่ยังควบคุมอาการของโรคประจำตัวไม่ได้หรือมีอาการกำเริบในช่วงที่จะฉีดวัคซีน
คำแนะนำ ก่อนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการแพ้ยาและอาหารก่อนรับบริการฉีดวัคซีน เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวม แดง ตุ่มนูนบริเวณที่ฉีด หรือมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นประมาณ 1-2 วันหลังจากฉีดวัคซีน และจะหายไปเอง หรือหากรับประทานยา โรคประจำตัวอื่นๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับการรักษาโดยละเอียด
ขั้นตอนเข้ารับบริการฉีดวัคซีน
ที่ดีเลิฟเวอรี่คลินิก มีให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีขั้นตอนการให้บริการดังนี้
- การประเมินสุขภาพก่อนการฉีดวัคซีน: ก่อนการฉีดวัคซีน บุคลากรทางการแพทย์จะทำการประเมินสุขภาพโดยทั่วไปและตรวจสอบประวัติการแพ้ยาหรือวัคซีนของผู้รับวัคซีน เพื่อความปลอดภัยในการฉีดวัคซีน
- เตรียมพื้นที่การฉีด: บริเวณที่จะฉีดวัคซีน ซึ่งมักจะเป็นด้านบนของแขน จะถูกทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- การฉีดวัคซีน: วัคซีนจะถูกฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อบริเวณที่เตรียมไว้ โดยใช้เทคนิคที่เหมาะสมเพื่อลดความเจ็บปวดและอาการบวมหรือระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น
- การติดตามหลังการฉีด: หลังจากการฉีดวัคซีน ผู้รับวัคซีนอาจจำเป็นต้องรออยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบอาการผิดปกติใดๆ เช่น การแพ้วัคซีน ซึ่งมักจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
- การให้คำแนะนำหลังการฉีด: บุคลากรทางการแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำหลังการฉีดวัคซีน รวมถึงการจัดการกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความเจ็บปวดที่บริเวณฉีด หรืออาการไข้เล็กน้อย
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีอาการข้างเคียงอะไรได้บ้าง?
หลังจากฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อยได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และมักจะหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน โดยอาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่:
- ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- ปวดศีรษะเล็กน้อย
- ปวดกล้ามเนื้อ
- คลื่นไส้เล็กน้อย
- มีไข้ต่ำๆ (ต่ำกว่า 38 องศาเซลเซียส)
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก ใจสั่น ผื่นลามทั่วตัว บวมที่ใบหน้าหรือปาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการแพ้รุนแรงต่อวัคซีนได้ แต่พบได้น้อยมาก
โดยทั่วไป ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และอาการข้างเคียงเล็กน้อยเหล่านี้ ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด หากกังวลหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ราคาเท่าไหร่
ชนิดวัคซีน | ราคา (บาท) |
---|---|
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ | 950 บาท/คน |
มาเป็นครอบครัว 3 คนขึ้นไป | 750 บาท/คน |