สรุปให้สั้นๆ สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลการลดน้ำหนัก หรือคุมน้ำหนักให้ตนเองอยู่
ปากกาลดน้ำหนักมีมานานแค่ไหน
ปากกาลดน้ำหนักเริ่มมีอยู่ในตลาดยาประมาณทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มที่ต่างประเทศ ทางอเมริกา ยุโรปจะเป็นที่รู้จักและมีการใช้กันแพร่หลาย แต่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมากในช่วง 5-10 ปีหลัง เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนา ที่มุ่งเน้นไปที่การรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีน้ำหนักเกิน
ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร?
ปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen) เป็นอุปกรณ์ที่บรรจุยาในรูปแบบปากกา ใช้งานง่าย โดยทั่วไปแล้วมันเป็นฮอร์โมนกลุ่ม GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ที่จำเพาะเจาะจง เช่น Semaglutide หรือ Liraglutide ซึ่งใช้ในการรักษาภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
ปากกาลดน้ำหนักทำงานอย่างไร
ปากกาลดน้ำหนักทำงานโดยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ยากลุ่มนี้นี้มักทำงานโดยการ:
- การลดความอยากอาหาร: GLP-1 มีผลทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและกินน้อยลง โดยผลลัพธ์นี้เกิดจากการที่ฮอร์โมนกระตุ้นสมองทำให้รู้สึกอิ่ม
- ชะลอการเริ่มย่อยอาหารในท้อง: ยาจะชะลอการเคลื่อนไหวของอาหารจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้, ทำให้รู้สึกอิ่มยาวนานกว่า
- ควบคุมการผลิตกลูโคสของตับ: ยาช่วยลดระดับกลูโคสในเลือดโดยการเพิ่มความไวของเนื้อเยื่อต่างๆ ต่ออินซูลินและลดการผลิตกลูโคสของตับ
- เสริมสร้างการใช้พลังงาน: GLP-1 ยังสามารถเพิ่มการใช้พลังงานในร่างกาย ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก
การใช้ปากกาลดน้ำหนักจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำและควบคุมดูแลจากแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยสูงสุด
ปากกาลดน้ำหนัก หรือปากกาคุมหิว เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน: หรือมีดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30 ซึ่งถือว่ามีภาวะน้ำหนักเกิน
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่างๆ: เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักและต้องการตัวช่วย: เพื่อประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่ต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ: ช่วยควบคุมความอยากอาหารและพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม
- ผู้ที่ใช้วิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล: เช่น การใช้ยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ผู้ที่ต้องการวิธีลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย: ที่ไม่มีผลข้างเคียงและไม่กลับมาโยโย่
เช็คเบื้องต้น ว่าปากกาคุมหิว เหมาะกับเราไหม
- ผู้ที่มีภาวะอ้วน:
- ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน:
- ดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ระหว่าง 27-29
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก เช่น:
- เบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
- ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่มีนิสัยชอบกินจุกจิก กินไม่หยุด หิวบ่อย:
- และต้องการลดพฤติกรรมการกินเหล่านี้ให้น้อยลง
ปากกาลดความอ้วน Wegovy


Ozempic™ | Wegovy™ | |
---|---|---|
สารออกฤทธิ์: | Semaglutide | Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: | ฉีดใต้ผิวหนัง | ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: | 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม | 1 ปากกา (ขนาด 2.4 mg/1.5 ml) ต่อสัปดาห์ |
ขนาดยาที่ปรับได้: | 0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 2 mg | 0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 1.7 mg, 2.4 mg |
ความถี่ในการฉีด: | อาทิตย์ละ 1 ครั้ง | อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: | – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าแบบปกติ – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่รบกวนการใช้ชีวิต หรืออ่อนเพลียง่าย – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้น้ำหนักกลับมาเหมือนเดิม – ผ่าน อย. | – ลดน้ำหนักได้ดีมากด้วยขนาดยา 2.4 mg – ใช้ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์ได้ – ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงด้านการลดน้ำหนัก – คุมหิว ลดภาวะอยากอาหาร – ผ่าน อย. มีงานวิจัย – ผลข้างเคียงคล้าย Ozempic (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน) |

ปากกาคุมหิว Saxenda VS Ozempic
Saxenda® | Ozempic™ |
---|---|
สารออกฤทธิ์: Liraglutide | สารออกฤทธิ์: Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง | รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: 5 ปากกา (แต่ละด้ามบรรจุ 3 ml) | ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม |
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.6mg, 1.2mg, 1.8mg, 2.4mg, 3.0mg | ขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg |
ความถี่ในการฉีด: ทุกวัน | ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็ว ปลอดภัย – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ | ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ |


ปากกาคุมผิว Trulicity VS Ozempic
Trulicity | Ozempic |
---|---|
สารออกฤทธิ์: Dulaglutide | สารออกฤทธิ์: Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง | รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: 4 ด้าม (แต่ละด้ามบรรจุ 0.5 ml) | ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม |
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.75mg, 1.5mg | ขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg |
ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง | ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: – ควบคุมความอยากอาหาร – ลดน้ำหนัก (โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย) – ฉีดสัปดาห์ละครั้ง – ผลข้างเคียงน้อย – ผ่าน อย. ไทย | ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. ไทย |
ปากกาลดความอ้วน Mounjaro VS Wegovy
Mounjaro (tirzepatide) | Wegovy (semaglutide) | |
---|---|---|
ปีที่ได้รับอนุมัติ Thai FDA | 31 กรกฎาคม 2567 | 3 สิงหาคม 2566 |
วิธีการใช้ | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง |
ช่วงขนาดยา | 2.5 – 15.0 มก. | 0.25 – 2.4 มก. |
เป้าหมายของการออกฤทธิ์ | GLP-1 และ GIP | GLP-1 |
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย | คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก อาเจียน | คลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน ท้องผูก |
ผลลดน้ำหนักเฉลี่ย (*แล้วแต่บุคคล) | ลดน้ำหนักเฉลี่ย 22.5% หลัง 72 สัปดาห์ (ขนาด 15 มก.) | ลดน้ำหนักเฉลี่ย 14.9% หลัง 68 สัปดาห์ (ขนาด 2.4 มก.) |
ข้อควรระวัง ปากกาคุมหิว
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์
- ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักสำหรับทุกคน และควรใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
- อาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
Dulaglutide, Semaglutide, Liraglutide เป็นยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonists เป็นยาที่ใช้รักษาเบาหวานและลดน้ำหนัก แต่ก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับยาอื่นๆ โดยสรุปได้ดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย: เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด แต่อาจบรรเทาลงได้เมื่อร่างกายปรับตัว
- ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ: โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาลดน้ำตาลชนิดอื่นร่วมด้วย ควรสังเกตอาการ เช่น เหงื่อออก ใจสั่น หน้ามืด
ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบได้น้อย):
- ตับอ่อนอักเสบ: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ลิ้นปี่ร้าวไปหลัง
- มะเร็งไทรอยด์: ห้ามใช้หากมีประวัติส่วนตัวหรือครอบครัวเป็นมะเร็งชนิดนี้
- นิ่วในถุงน้ำดี: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ชายโครงขวาร้าวไปสะบักขวา
- ชีพจรเต้นเร็ว
- ไตวายเฉียบพลัน: พบได้น้อย มักเกิดในผู้ที่ขาดน้ำร่วมด้วย
- ภาวะเบาหวานขึ้นตาเลวลง: อาจทำให้ตาพร่ามัวหรือตาบอดได้
ข้อควรระวัง:
- ควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
- แจ้งแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ
- ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์หรือเภสัชกร
ปากกาคุมหิว ราคาเท่าไหร่
ชื่อปากกาคุมหิว | ราคา (บาท) |
---|---|
Mounjaro | 25,000 |
Wegovy | 17,000 |
Ozempic | 17,000 |
Trulicity | 14,000 |



ตำแหน่งการฉีดปากกาคุมน้ำหนัก
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดได้แก่
- หน้าท้อง (Abdomen):
- บริเวณรอบ ๆ สะดือแต่ควรห่างจากสะดือประมาณ 2 นิ้ว
- หลีกเลี่ยงการฉีดในบริเวณที่มีแผลหรือแผลเป็น
- ต้นขาด้านหน้า (Front of the Thighs):
- บริเวณกลาง ๆ ด้านหน้าและด้านข้างของต้นขา
- ควรเปลี่ยนจุดฉีดทุกครั้งเพื่อลดการด้านของเนื้อเยื่อ
- ต้นแขน (Upper Arm):
- ด้านหลังของต้นแขนเหนือข้อศอกถึงไหล่
- ต้องมีคนช่วยฉีดถ้าฉีดเองทำไม่ได้
ข้อห้าม
- ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous):
- การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำไม่เหมาะสำหรับยาที่ออกแบบมาให้ใช้แบบ subcutaneous และอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- ห้ามฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular):
- การฉีดเข้ากล้ามเนื้ออาจทำให้ยาไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและอาจเกิดการเจ็บปวดหรือบาดเจ็บได้
การปฏิบัติที่ถูกต้อง
- ล้างมือก่อนและหลังการฉีดยา
- ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณที่ต้องการฉีด
- ใช้เข็มที่สะอาดและปลอดเชื้อ (จำเป็นต้องใช้เข็มใหม่ทุกครั้ง)
- ฉีดยาในมุมที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์


ขั้นตอนการใช้ปากกาคุมหิว Ozempic
เตรียมปากกา
- อ่านฉลากเพื่อยืนยันว่าปากกาของคุณบรรจุ Ozempic®
- ตรวจสอบว่ายาในปากกามีลักษณะใสและไม่มีสี
ติดเข็มใหม่
- ฉีกกระดาษที่ปิดออก
- กดและหมุนเข็มจนแน่น
- ดึงฝาครอบเข็มทั้งสองฝาออก
ตรวจสอบว่ามีตัวยาไหลออกมา
- หมุนตัวเลือกปริมาณจนกว่าตัวนับปริมาณจะแสดงสัญลักษณ์ตรวจสอบการไหล
- กดปุ่มปริมาณค้างไว้จนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดง 0
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีหยดปรากฏที่ปลายเข็ม
เลือกปริมาณการปล่อยยา
- หมุนตัวเลือกปริมาณจนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดงปริมาณที่คุณต้องฉีด (0.25 มก. หรือ 0.5 มก. สำหรับปากกาฉลากแดง, 1 มก. สำหรับปากกาฉลากน้ำเงิน และ 2 มก. สำหรับปากกาฉลากเหลือง)
ฉีดตัวยาเข้าร่างกาย
- สอดเข็มเข้าไปในผิวหนังของคุณ
- กดปุ่มปริมาณค้างไว้
- หลังจากตัวนับปริมาณแสดง 0 ให้ค่อยๆ นับถึง 6
- ถอนเข็มออกจากผิวหนังของคุณ
คำแนะนำหลังฉีด
- ถอนเข็มออกอย่างระมัดระวังและใส่ในภาชนะทิ้งของมีคม
- ใส่ฝาปิดปากกากลับที่ปากกา
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนัก
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของยา นี่คือวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง
- เก็บตัวยาฉีดที่ยังไม่ได้เปิดใช้:
- เก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส
- ห้ามเก็บตัวยาในช่องแช่แข็ง
- หลังจากเปิดใช้แล้ว:
- เก็บที่อุณหภูมิห้อง โดยควรเป็นอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส
- ตัวยาจะมีอายุการใช้งาน 1 เดือนหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
- คำแนะนำเพิ่มเติมในการเก็บรักษา:
- เก็บยาให้พ้นมือเด็ก
- ห้ามใช้ยานี้หากสารละลายขุ่นไม่ใสหรือมีสีปนเปื้อน
- สวมปลอกยาทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- ปากกาสำหรับฉีดแต่ละด้ามให้ใช้กับคนไข้บุคคลเดียวเท่านั้น ห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่น แม้จะมีการเปลี่ยนหัวเข็มก็ตาม
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักตามคำแนะนำนี้จะช่วยให้ตัวยาสามารถคงคุณภาพและประสิทธิภาพในการรักษาได้มากที่สุด
ในกลุ่มวิตามินบำรุงผิว บำรุงร่างกาย หรือสารเติมเต็ม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ Biostimulator ส่วนนี้ “ไม่ได้ห้าม” โดยตรง แต่แนะนำแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนทำหัตถการ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดค่ะ
“ไทรอยด์” หรือโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์นั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคสำคัญที่ต้องระวังเรื่องการใช้ยา หรือการฉีดสารต่างๆ โดยเฉพาะด้านการลดหุ่น “ปากกาลดน้ำหนัก” หรือยาคุมหิวต่างๆ นะคะ
เหตุผลที่คนเป็นไทรอยด์ “ห้ามใช้ปากกาลดน้ำหนัก” หรือสิ่งที่ไปคุมความอยากอาหาร ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม
เพราะว่ายาลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์เกี่ยวกับระบบเมตาบอลิซึม ฮอร์โมน และประสาท ซึ่งไทรอยด์เองก็เป็นต่อมควบคุมระบบเผาผลาญของร่างกายอยู่แล้วค่ะ ถ้าไปกระตุ้นหรือไปรบกวนมากขึ้น เสี่ยงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย — เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนอย่างรุนแรง บางรายอาจเกิดอาการช็อกหรือไทรอยด์วิกฤตได้ด้วย (Thyroid storm) ซึ่งถือว่า “อันตรายมาก ๆ” เลยนะคะ
ประเภทของปากกาลดน้ำหนัก เช่น เซมากลูไทด์ (semaglutide), ลิรากลูไทด์ (liraglutide) รวมถึงยากินหรือยาฉีดควบคุมความอยากอาหารทุกยี่ห้อ กลุ่มนี้ “ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด” หากมีโรคไทรอยด์ โดยเฉพาะ Hyperthyroidism (ไทรอยด์เป็นพิษ) และผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ หรือเนื้องอกต่อมไร้ท่อด้วยค่ะ
ปรึกษาคุณหมอต้าร์ หรือทีมแพทย์ D’ Lovevery Clinic สำหรับการปรึกษาทั่วไปกับหมอไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ และไม่มีเรียกเก็บค่าปรึกษาก่อนเข้ามาปรึกษาค่ะ
จะมีค่าปรึกษาเฉพาะกรณีพิเศษเท่านั้น คือการปรึกษาเรื่องปากกาคุมหิวและปากกาลดน้ำหนัก (1,000 บาท) เพราะต้องใช้เวลาในการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และวางแผนการรักษาอย่างละเอียดค่ะ
คนไข้สามารถนัดปรึกษาเรื่องทั่วไปได้เลยนะคะ หมอยินดีให้คำแนะนำค่ะ 🌟
หมอต้องขอตอบว่าไม่ได้เลยนะคะ ปากกาลดน้ำหนักเป็นยาที่ต้องได้รับการสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น เพราะมีทั้งยาแท้และยาปลอมระบาดในท้องตลาดค่ะ
การเริ่มใช้ยานี้ คนไข้จำเป็นต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อน เพื่อดูว่าเหมาะสมกับการใช้ยาหรือไม่ และต้องเริ่มที่ขนาดยาเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัยสำหรับคนไข้
หมอเป็นห่วงสุขภาพของคนไข้นะคะ ถ้าคนไข้สนใจการใช้ยาลดน้ำหนักจริงๆ หมอแนะนำให้มาปรึกษาแพทย์โดยตรงดีกว่าค่ะ จะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดค่ะ
ปากกาลดน้ำหนัก เช่น Mounjaro และ Wegovy กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคุณผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยและเห็นผลเร็ว โดยก่อนเริ่มใช้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม ตรวจสุขภาพ และเลือกสูตรที่ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด เพราะตัวยาต่างกัน จากนั้นจะเริ่มฉีดในขนาดต่ำสุดสัปดาห์ละครั้ง พร้อมติดตามผลและคอยสังเกตผลข้างเคียงร่วมกับคุณหมออย่างใกล้ชิด โดยการดูแลตัวเอง เช่น ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ควบคู่กับการใช้ยา จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัยในระยะยาวค่ะ เนื้อหาเพิ่มเติมหมอทำตารางให้เข้าใจง่ายด้านล่างนะคะ
การเลือกซื้อปากกาลดน้ำหนักควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เลือกแหล่งที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ตรวจประเมินก่อนเสมอ และยาที่ได้รับต้องสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาว่าเป็นของแท้ ถูกกฎหมาย มีการควบคุมคุณภาพยาในทุกขั้นตอน ที่สำคัญต้องได้รับข้อมูลเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย การใช้งาน และผลข้างเคียงอย่างครบถ้วน พร้อมมีการติดตามดูแลจากแพทย์ตลอดการรักษา
การซื้อปากกาลดน้ำหนักออนไลน์ ไม่ว่าจะผ่านแอพ เว็บไซต์ หรือช่องทางใดก็ตาม ถ้าคุณไม่ได้พบแพทย์ ไม่ถูกถามเรื่องสุขภาพหรือโรคประจำตัวแม้แต่คำเดียว คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่ายานั้นปลอดภัย? อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับยาอันตรายที่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น ปากกาลดน้ำหนักจัดเป็นยาควบคุม อย่าซื้อใช้โดยไม่มีการดูแลจากแพทย์ เพราะอาจเกิดอันตรายหรือมีผลข้างเคียงที่อันตรายได้
อาการแบบนี้ หมออยากอธิบายว่า มันไม่ใช่ “หิวจริง” ที่ร่างกายขาดพลังงานนะคะ แต่จะเป็นลักษณะของ “ความอยากอาหาร” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “craving” บางคนอาจเรียกว่าการกินตามอารมณ์ (emotional eating) ก็ได้ค่ะ
เวลาร่างกายหิวจริง เราจะรู้สึกท้องร้อง รู้สึกอ่อนแรง หรือต้องหาอะไรใส่ท้องเพื่อเติมพลังงานให้ร่างกาย แต่ถ้าหิวแบบที่หมอบอกไปเมื่อกี้ มักจะเกิดขึ้นสั้น ๆ เป็นความอยากกินอะไรบางอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น ของหวาน ของทอด หรือขนมต่าง ๆ ไม่ได้มาจากความต้องการอาหารจริง ๆ ของร่างกาย แต่เกิดจากสิ่งกระตุ้นรอบตัว อย่างความเครียด อารมณ์ หรือแม้แต่กลิ่นอาหารค่ะ
แบบนี้พบได้บ่อยในวัยรุ่น วัยทำงาน หรือสาว ๆ ที่อยู่ในช่วงก่อนมีประจำเดือน เพราะฮอร์โมนมีผลต่ออารมณ์และความอยากอาหารค่ะ
ดังนั้นถ้าคนไข้รู้สึกอยากกินอะไรขึ้นมาช่วงสั้น ๆ แต่ถ้าไม่ได้กินแล้วก็หายเอง สบายใจได้ค่ะ ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นโรคอะไร หากอยากควบคุมน้ำหนัก หรือควบคุมสุขภาพ หมอแนะนำให้ลองสังเกตความหิวของตัวเอง ถ้ารอประมาณ 10-15 นาทีแล้วมันหายไป ก็แสดงว่าเป็นความอยากมากกว่าหิวจริงค่ะ
ปากกาลดน้ำหนักสามารถช่วยลดไขมันในช่องท้องได้จริง ไม่ใช่แค่ “ลดน้ำหนัก” อย่างเดียว เพราะไขมันบริเวณนี้ (visceral fat) มักเป็นเป้าหมายแรกๆ ที่ร่างกายนำมาใช้เมื่อเราควบคุมแคลอรี่หรือใช้ยากลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์แต่ละคนต่างกันและต้องใช้อย่างถูกต้องร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ปากกาลดน้ำหนักไม่ใช่ยาวิเศษ ลดไขมันเฉพาะเจาะจงแค่ “พุง” ต้องปรับวิถีชีวิตด้วยจึงจะได้ผลและปลอดภัย
วิธีเช็กไขมันในช่องท้อง (พุง) ด้วยตัวเองเบื้องต้น
- วัดรอบเอวตรงสะดือ (เช่น ได้ 85 ซม.)
- เช็กว่ารอบเอวที่วัดได้ ไม่เกินครึ่งหนึ่งของส่วนสูงตัวเอง
- ตัวอย่าง:
- ถ้าคุณสูง 170 ซม. ⇒ ครึ่งหนึ่งคือ 170 ÷ 2 = 85 ซม.
- ถ้ารอบเอวคุณ เกิน 85 ซม. แบบนี้ถือว่า “เสี่ยง” ต้องรีบลด
- ถ้ารอบเอวคุณ ไม่ถึง 85 ซม. ถือว่าความเสี่ยงยังต่ำ แต่ถ้าเข้าใกล้แล้ว ควรเริ่มควบคุมและป้องกันไว้ล่วงหน้า
- ตัวอย่าง:
ในยุคนี้หมอยอมรับนะคะว่าคนไข้หลายคนอยากเห็นผลลัพธ์แบบรวดเร็วทันใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหรือสุขภาพก็ตาม เพราะชีวิตที่เร่งรีบทำให้เวลาสำหรับดูแลตัวเองน้อยลง ดังนั้นหลายคนจึงมองหาวิธีที่เห็นผลไว อย่างเช่นการทำหัตถการทางการแพทย์หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยลดไขมันได้เร็ว แต่หมอก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าวิธีเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ทั้งเรื่องความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่มากกว่าการดูแลจากภายในด้วยวิธีธรรมชาติ
- หากคนไข้ต้องการ “เห็นผลเร็ว” การดูดไขมัน เลเซอร์สลายไขมัน เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ แต่ต้องเข้าใจว่ามีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูง
- แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ “ดีที่สุดในระยะยาว” หมอแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายควบคู่ เพราะเป็นพื้นฐานที่ช่วยรักษารูปร่างและสุขภาพให้ดี และยั่งยืน
- การผสมผสานระหว่างหัตถการและการดูแลตัวเอง จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและปลอดภัยมากที่สุดค่ะ
สำคัญสุดคือ ปรึกษาแพทย์ คลินิกที่มั่นใจว่าปลอดภัย ได้มาตรฐานจริงๆ