ฟิลเลอร์ คืออะไร สำคัญกับผิวอย่างไร?

- ช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอย ฟิลเลอร์ HA เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้ดี เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นผิวจะช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับขึ้น
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟิลเลอร์ HA มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำเข้าสู่เซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ สดใส เต่งตึง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟิลเลอร์ HA ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น การมีคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอจึงมีส่วนสำคัญในการลดริ้วรอยและชะลอวัย
- นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ HA ยังสามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เช่น การเลเซอร์ การร้อยไหม เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการลดอายุผิวได้อีกด้วย
สรุปฟิลเลอร์สำหรับมือใหม่
การฉีดฟิลเลอร์ให้ดูเป็นธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับ เทคนิค ความชำนาญ
ของแพทย์ และการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับคนไข้ แพทย์ต้องมีใบอนุญาต ตรวจสอบชื่อในเว็บแพทยสภาได้
ฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาของใบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และช่วยย้อนวัย เติมเต็มให้หน้าดูอ่อนเยาว์ลง ทางเลือกเริ่มแรกของคนที่อยากลดอายุใบหน้า
ฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์รวดเร็วโดยไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบทันใจ ใช้ผิวหน้าแบบเร่งด่วน เป็นโปรแกรมที่ไม่ต้องมีการเตรียมตัว ก่อน-หลัง มากเหมือนการศัลยกรรม
ฟิลเลอร์ถูกจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ ปลอดภัยต่อผิว ผ่านการรับรองแล้ว ว่าสามารถนำมาปรับรูปหน้าได้อย่างปลอดภัย และสลายตัวได้เองเมื่อเวลาผ่านไป 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่น ยี่ห้อ ควรสอบถามแพทย์ให้แน่ใจก่อนรับบริการทุกครั้ง ว่าอยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์แท้ มีราคามาตรฐาน ฟิลเลอร์ที่ราคาถูกเกินจริงอาจจะไม่ใช่ของแท้ หรือให้บริการโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ อาจจะเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้ เช่น เป็นก้อนแข็ง ไม่สลาย ไหลย้อย เคลื่อนตำแหน่ง อักเสบ หรือร้ายแรงสุดส่งผลให้ใบหน้าผิดรูปได้
แพทย์แจ้งรุ่น ราคาก่อนรับบริการทุกเคส ก่อนรักษาคนไข้จะสามารถเช็ค สแกน QR-Code หน้ากล่องฟิลเลอร์ Restylane เพื่อตรวจฟิลเลอร์ของแท้ด้วยตัวเองทางแอปพลิเคชั่น eZTracker อ่านเพิ่มเติม
พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว (หมอต้าร์)


แพทย์ผู้ทำการรักษา ควรเป็นคนเดียวกันกับใบอนุญาตที่ประกาศไว้ที่หน้าคลินิก
ฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปหน้า
- ความไม่สมส่วน เช่น หน้าบาน หน้าเหลี่ยม หน้ายาว
- ความไม่สมมาตร เช่น คางสั้น ขมับตอบ แก้มตอบ
- ความไม่ละมุน เช่น หน้าผากแบน หน้าแบนไม่มีมิติ
ฟิลเลอร์ช่วยลดริ้วรอย
- ความลึก เช่น ใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก
- ความหย่อนคล้อย เช่น แก้มคล้อย เมื่ออายุมากขึ้น หางตาตก
- ริ้วรอย เช่น ริมฝีปากเล็ก แห้ง เป็นร่อง ริ้วรอยลำคอ ริ้วรอยหลังมือ
รีวิวฟิลเลอร์


















ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ไม่เหมือนกัน!
คุณสมบัติ | โบท็อกซ์ | ฟิลเลอร์ |
---|---|---|
ประเภทของสาร | สารยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทแอคตินิน | สารเติมเต็ม |
กลไกการออกฤทธิ์ | ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทแอคตินิน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว | เติมเต็มร่องลึกหรือปรับรูปหน้า |
บริเวณที่ฉีด | บริเวณที่มีกล้ามเนื้อกระตุก เช่น หน้าผาก หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม | บริเวณที่มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ร่องน้ำหมาก ขมับ คาง |
ผลลัพธ์ | ลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ | เติมเต็มร่องลึกหรือปรับรูปหน้าให้ดูเต็มอิ่ม อ่อนเยาว์ขึ้น |
ระยะเวลาของผลลัพธ์ | 4-6 เดือน | 6-24 เดือน |
ภาวะแทรกซ้อน | อาการบวม แดง เขียวช้ำ บริเวณที่ฉีด | อาการแพ้ การติดเชื้อ ก้อนแข็งบริเวณที่ฉีด |
ราคา (ของแท้ ผ่าน อย.) และให้บริการโดยแพทย์เท่านั้น | ไม่ควรต่ำกว่า 5,000 บาท/50 ยูนิต | ไม่ควรต่ำกว่า 5,000 บาท/1CC |
- ต้องรักษากับแพทย์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญในกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้า
- แพทย์ต้องมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์
- แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนได้
- แพทย์สามารถให้คำแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม
การฉีดฟิลเลอร์จะต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะเหตุผลต่อไปนี้
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญในกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้า
แพทย์มีความเชี่ยวชาญในโครงสร้างและกล้ามเนื้อของใบหน้า จึงสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ ตรงจุดที่ต้องการ และไม่ทำให้ใบหน้าผิดรูป
- แพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์
แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์จะมีความชำนาญในการเลือกตำแหน่งและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจและดูเป็นธรรมชาติ
- แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนได้
แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ได้ และสามารถแก้ไขได้หากเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น
- แพทย์สามารถให้คำแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม
แพทย์สามารถให้คำแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม เช่น การดูแลรักษาบริเวณที่ฉีด อาการที่อาจเกิดขึ้น และระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์
ฟิลเลอร์ดียังไง?
คุณสมบัติเด่น | การปรับรูปหน้า | ลดอายุผิวหน้า |
---|---|---|
เป็นสารเติมเต็มธรรมชาติ | ช่วยให้ใบหน้าดูเต็มอิ่ม เต่งตึง อ่อนเยาว์ขึ้น ใบหน้าได้สัดส่วน สมส่วนเท่ากันได้ดีขึ้น | ช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย ร่องน้ำหมาก ขมับ คาง ช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียน สดใสขึ้น |
สามารถคงอยู่ได้นาน | ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 6-24 เดือน | ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว |
ปลอดภัย | ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) | ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้และผลข้างเคียง |
ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
- ใต้ตา : เติมเต็มร่องใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใส กระชับ ไม่ลึกหมอง ปริมาณที่ใช้ประมาณ 0.5-1 ซีซี ต่อข้าง
- ร่องแก้ม : เติมเต็มร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเต็มขึ้น แก้มไม่ตอบ ปริมาณที่ใช้ประมาณ 0.5-1 ซีซี ต่อข้าง
- ปาก : เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม ปากดูเซ็กซี่ ปริมาณที่ใช้ประมาณ 1-2 ซีซี
- ขมับ : เติมเต็มขมับ ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง รอยต่อไปหาหน้าผากเต็ม ปริมาณที่ใช้ประมาณ 1-2 ซีซี ต่อข้าง
- *ปัญหาของแต่ละคนแตกต่างกัน ปริมาณขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์

ฟิลเลอร์ ปลอดภัยไหม?
- ลดความเสี่ยงในการฉีดโดนเส้นเลือด เนื่องจากปลายเข็มที่กลมมน ไม่มีคม จึงช่วยลดโอกาสที่เข็มจะแทงทะลุเข้าไปในเส้นเลือด
- ลดอาการบวมช้ำหลังฉีด เนื่องจากปลายเข็มที่กลมมน จะช่วยกระจายแรงจากการฉีดได้ดีกว่าเข็มแหลม ทำให้เนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ ไม่ฉีกขาดมากนัก
- ลดรอยแผลเปิด เนื่องจากปลายเข็มที่กลมมน ช่วยลดโอกาสที่เข็มจะฉีกขาดผิวบริเวณที่ฉีด
- เหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง เช่น บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ขมับ เนื่องจากปลายเข็มที่กลมมน ช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมทิศทางการฉีดได้อย่างแม่นยำ
- *แพทย์ที่มีประสบการณ์จึงจะสามารถใช้เทคนิคเข็มทู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี?
แบรนด์ | ประเทศที่ผลิต |
---|---|
Juvederm | สหรัฐอเมริกา |
Restylane | สวีเดน |
Belotero, Teoxane | สวิตเซอร์แลนด์ |
Variofill, Hyabell | เยอรมนี |
Revanesse | แคนาดา |
Perfectha, Art Filler | ฝรั่งเศส |
MesoFiller | สเปน |
Saypha | ออสเตรีย |
Neuramis, Yvoire, e.p.t.q. , Flore, HYAFILIA, Ultra V HYAL FILLER, Neobelle | เกาหลีใต้ |
Definisse, Neauvia | อิตาลี |
Biohyalux | จีน |
ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ไทย
อยากเห็นไหม ฟิลเลอร์ 1 CC เยอะแค่ไหน?
คำถามที่ว่า “ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด” อาจจะไม่มีใครตอบได้ชัดเจน ปัญหาของแต่ละคนจะเหมาะสมกับเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นแพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องเลือกฟิลเลอร์ที่สามารถแก้ปัญหาได้เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและเป็นธรรมชาติ

ทำไมบางคนกลัวฟิลเลอร์
1. ความกังวลเรื่องความปลอดภัย
คนอายุ 40 ขึ้นไป มักมีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่าคนอายุน้อย จึงมีความรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความงามที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ จึงมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของฟิลเลอร์มากขึ้น โดยเฉพาะข่าวคราวเกี่ยวกับการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น หน้าเบี้ยว ตาบอด ติดเชื้อ เป็นต้น
2. ความกังวลเรื่องผลลัพธ์
คนอายุ 40 ขึ้นไป มักมีประสบการณ์ชีวิตที่มากขึ้น จึงมีความต้องการที่ชัดเจนและซับซ้อนกว่าคนอายุน้อย ต้องการผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องการผลลัพธ์ที่มากเกินไปจนดูไม่เป็นตัวของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ จึงมีความกังวลว่าหากฉีดฟิลเลอร์แล้วอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือดูหลอกตา
นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟิลเลอร์ เช่น คิดว่าฟิลเลอร์เป็นสารอันตราย มีผลข้างเคียงสูง
- ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ เช่น ไม่ทราบว่าฟิลเลอร์มีประเภทและยี่ห้อที่แตกต่างกัน แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
- กลัวเข็ม
สำหรับปัญหาการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน เคยเกิดขึ้นจริงในอดีต และทำให้เกิดข่าวคราวมากมาย จนสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน ส่งผลให้คนจำนวนไม่น้อยเกิดความกลัวและลังเลที่จะฉีดฟิลเลอร์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ปัญหาดังกล่าวได้ลดลงไปมาก เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาตรการควบคุมและกำกับดูแลอย่างเข้มงวดมากขึ้น เช่น มีการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง มีการกำกับดูแลคลินิกความงามที่ให้บริการฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น
ดังนั้น หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ และเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ
ช่องทาง | รายละเอียด |
---|---|
เว็บไซต์ขององค์การอาหารและยา (อย.) | ตรวจสอบเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตให้ฉีดฟิลเลอร์ |
สายด่วน อย. 1556 | สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์และคลินิกที่ฉีดฟิลเลอร์ |
เว็บไซต์ของแพทยสภา | ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาเวชศาสตร์ตกแต่ง |
เว็บไซต์ของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย | ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรศัลยแพทย์ตกแต่ง |
เว็บไซต์ของสมาคมเวชกรรมศาสตร์ผิวหนังแห่งประเทศไทย | ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง |
วิธีสังเกตฟิลเลอร์ปลอม หรืออาจจะได้มาตรฐาน หรือร้ายแรงสุด ไม่ได้ฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์คือ ราคาถูกเกินจริง และมีขายตามเว็บไซต์ที่ไม่ใช่เว็บคลินิกหรือสถานพยาบาล

ฉีดฟิลเลอร์ คลินิกไหนดี

- คลินิกควรมีเลขใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง (สังเกตที่ป้ายตัวเลขสีเขียวๆที่หน้าคลินิก)
- แจ้งชื่อแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ ทั้งชื่อจริง นามสกุลจริง ตรวจสอบในเว็บแพทยสภาได้
- คลินิกมีหลักฐานยืนยันว่าใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ จากตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง
- คลินิกอยู่ในสถานที่ที่น่าเชื่อถือ สะอาด ได้มาตรฐาน
- รีวิวผลลัพธ์การรักษา ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ ที่เห็นแพทย์ บรรยากาศการรักษา ความประทับใจของผู้มารับบริการ
- แจ้งราคา หรือโปรโมชั่นที่ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนเข้ารับบริการ
ฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่
ตารางราคาฟิลเลอร์ที่มีการค้นหาเยอะในประเทศไทย
ยี่ห้อ | หน่วย | ราคา (บาท) |
---|---|---|
Juvederm | 1.0 | 18,000 – 25,000 |
Restylane | 1.0 | 12,000 – 18,000 |
Belotero | 1.0 | 10,000 – 15,000 |
Neuramis | 1.0 | 7,000 – 10,000 |
Flore | 1.0 | 7,000 – 10,000 |
E.P.T.Q. | 1.0 | 7,000 – 10,000 |
หมายเหตุ:
- ราคาข้างต้นเป็นราคาโดยประมาณ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก
- ราคาฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาด ยี่ห้อ และเทคนิคการฉีด
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

- งดยาบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์ ยาบางชนิด เช่น ยาแก้อักเสบ ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามินบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดยาเหล่านี้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ได้ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดการทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดก่อนฉีดฟิลเลอร์ การทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกาย การเล่นกีฬา อาจทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ได้ ควรงดทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 1 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
- แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัว หากมีประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้หรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการกด บีบ นวดแรงๆ บริเวณที่ฉีดอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้ เป็นเวลา 7-14 วัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวได้นานขึ้น ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
- รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ แพทย์อาจให้ยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะ เพื่อลดอาการบวมช้ำและป้องกันการติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- เข้าติดตามการรักษา หลังทำฉีดฟิลเลอร์ตามที่แพทย์แนะนำ
- หลังฉีดฟิลเลอร์อาจรู้สึกชาบริเวณที่ฉีด เป็นปกติ เพราะตัวฟิลเลอร์มียาชา หรือแพทย์อาจจะมีการฉีดยาชา แต่จะหายได้เองใน 40-60 นาที

การฉีด ฟิลเลอร์เปิดหางตา เหมาะกับสาวๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองมีปัญหา หางตาตก ตาดูเศร้า หรือดวงตาดูเล็กไม่สดใส โปรแกรมนี้ช่วยยกหางตาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ดวงตาดูเฉี่ยว สดใส และมั่นใจยิ่งขึ้น ไม่ต้องพักฟื้นนานและเห็นผลทันทีหลังทำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับโหงวเฮ้ง หรืออยากให้ตาดูโฉบเฉี่ยวขึ้นอย่างปลอดภัย
หากเติม ฟิลเลอร์เบ้าตาบน ควบคู่กับฟิลเลอร์เปิดหางตา จะช่วยแก้ปัญหา เบ้าตาลึก ตาโหล ตาหมอง ให้ดูเต็มขึ้น ตาดูกลมโต สดใส ดูอ่อนเยาว์ ยิ่งขึ้น เมื่อทั้งสองเทคนิคนี้ทำพร้อมกัน จะช่วย ปรับสมดุลรูปตาให้สวยละมุน และดูเป็นธรรมชาติแบบ Personalized case by case เหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการ ความสวย โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมใหญ่
ขมับเว้า หรือขมับตอบ ทำให้ใบหน้าแลดูโทรมหรือไม่อ่อนเยาว์ ปัญหานี้พบได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น ไขมันบริเวณขมับลดลง หรือมีโครงสร้างกระดูกใบหน้าที่เว้าเดิม วิธีเพิ่มน้ำหนักดีขึ้นในบางราย แต่ถ้าขมับตอบจนใบหน้าดูไม่สมส่วน การ เติมฟิลเลอร์ขมับ เป็นทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยเติมเต็มให้หน้าอิ่มเอิบ ดูอ่อนวัยขึ้นทันที
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจรักษา ควรส่งภาพถ่าย หรือเข้ามาให้แพทย์ประเมินใบหน้าก่อน เพราะบางครั้งใบหน้าแลดูขมับเว้า อาจเกิดจาก “โหนกแก้มสูง” ไม่ใช่ขมับตอบจริง ๆ ซึ่งทั้งสองปัญหานี้วิธีแก้แตกต่างกัน การเติมฟิลเลอร์ที่จุดเหมาะสมจะช่วยปรับรูปหน้าได้ตรงจุดมากกว่า ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการปรับรูปหน้าที่เหมาะกับคุณค่ะ
ลองนึกภาพ หรือส่องกระจกและทำตามหมอนะคะ หน้าเรา มุมปากเรา และลองทำตามดู
- ลองยิ้มหรือทำหน้าธรรมชาติ แล้วแตะที่ข้างมุมปากลากนิ้วลงมาถึงขอบคาง ร่องนี้คือ “ร่องน้ำหมาก”
- ตำแหน่งนี้คือจุดที่หมอจะฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม เพื่อช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น
- ใครมีมาก มีน้อย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลักๆคืออายุที่เพิ่มขึ้น
การแก้ไข หมอจะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเติมบริเวณข้างมุมปากที่เป็นร่องลงไปถึงข้างคาง ทำให้ร่องดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และมุมปากดูยกขึ้น ไม่ดูเศร้าค่ะ
- หลังฉีดจะเห็นทันทีว่าร่องน้ำหมากดูตื้นขึ้น
- ใช้ 1-3 cc แล้วแต่บุคคล
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-18 เดือน ขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแล
ช่วง 5 ปีหลังมานี้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า “สายฉีด” ออกมาจนนับกันไม่หวาดไม่ไหว เดี๋ยวนี้แบรนด์ใหม่ทยอยเปิดตัว แค่เฉพาะ Skin Boosters+Biostimulator ก็นับได้เกือบ 20 แบรนด์ บางแบรนด์เคลมว่าผิวอิ่มน้ำทันที บางแบรนด์บอกกระตุ้นคอลลาเจนลึก ๆ จะเลือกตัวไหนดี
จริง ๆ แล้วหลัก ๆ ขอให้มองแยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ “Skin Boosters” เน้นเติมน้ำ เติมความชุ่มชื้นทันที เหมาะกับสายต้องการผิวใสฉ่ำวาวไว ๆ หมอเรียกว่าใช้หน้าด่วน อะไรแบบนั้น กับ “Biostimulators” ที่ไปกระตุ้นเซลล์ให้สร้างคอลลาเจนเอง ผลลัพธ์จะค่อย ๆ มาแต่ชัดในแง่ฟื้นฟูผิวและลดริ้วรอยระยะยาว เลือกตามความต้องการของผิวเราดีที่สุดค่ะ
ในประสบการณ์ของหมอ มากกว่า 60% ของคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาหา “พังผืด” ใต้ผิวหน้า คือกลุ่มผู้ที่มีอายุกว่า 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเมื่อย้อนถามลึกๆ มักเป็นกลุ่มที่ “เคย” ไปฉีดสารเติมเต็มสมัยก่อนมาแล้วกว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์รุ่นเก่า, ซิลิโคนเหลว หรือผ่านเทรนด์ร้อยไหมแบบจัดเต็มที่ฮิตกันช่วงหนึ่ง บางคนร้อยเข้าไปนับร้อยเส้น หรือใช้ไหมทองคำที่ขณะนั้นยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยชัดเจน มีวิธีประเมินได้เองเบื้องต้น แต่ถ้าให้แน่ใจและเจอทางออกที่เหมาะสมแนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดค่ะ
- คลำดูเอง
- เจอก้อนแข็งใต้ผิว ไม่ขยับตามเนื้อ กดแล้วตึง ไม่ยืดหยุ่นเหมือนบริเวณอื่น
- สังเกตหน้าเปลี่ยน
- รอยยิ้มขยับไม่คล่อง หน้าเบี้ยว หรือบางจุดบุ๋ม เวลากลิ้งผิวมีบางส่วนติด
- อาการผิดปกติหลังผ่านไปนาน
- หลังหัตถการ 10-20 ปี หน้าแข็งๆ เปลี่ยนแปลกๆ
- ให้แพทย์ประเมิน
- ตรวจคลำ หรือตรวจด้วย ultrasound เพื่อความแม่นยำ
ถ้าคนไข้เพิ่งไปฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ แล้วเพิ่งมารู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ ไม่ต้องกังวลมาก เพราะจากข้อมูลทางการแพทย์ยังไม่มีหลักฐานว่าเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ค่ะ แต่ควรงดฉีดทุกชนิดในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร สำหรับทีมแพทย์ของดีเลิฟเวอรี่คลินิก ซักประวัติก่อนรับบริการ ถ้าคนไข้มีตั้งครรภ์จะไม่แนะนำทุกกรณีค่ะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมปรึกษาหมอประจำตัวหรือแพทย์ผู้ฝากครรภ์ได้เลยนะคะ
ไม่ใช่เรื่องแปลกไปนะคะ ความจริงแล้วคอเหี่ยวก่อนหน้าทั้งที่โดนแดดน้อยกว่า เพราะผิวบริเวณคอบางกว่า มีคอลลาเจนน้อยกว่า แล้วก็แทบไม่มีต่อมไขมันเหมือนผิวหน้า เวลาที่เราดูแลผิวหน้ากันอย่างดี—ทาครีม ทาเซรั่ม ลงกันแดด—แต่ส่วนใหญ่จะลืมดูแลผิวคอไปค่ะ คอก็เลยขาดการบำรุงสะสมไว้นาน ๆ พออายุมากขึ้นผิวตรงคอเลยหย่อนคล้อยเร็วกว่าหน้านั่นเอง
อีกอย่างหนึ่ง เวลาทำกิจกรรมเช่นก้มหน้าดูโทรศัพท์ หรือเล่นมือถือบ่อย ๆ ก็ทำให้เกิดรอยพับลึกที่คอ (เรียกว่า tech neck) ซึ่งไปเร่งให้คอเหี่ยวไวขึ้นอีก ดังนั้นหมอแนะนำว่าต่อไปนี้ดูแลผิวหน้าท่าไหน ก็ขยับลงมาทาครีมและกันแดดที่คอด้วยนะคะ จะช่วยให้คอดูอ่อนวัยใกล้เคียงกับผิวหน้าค่ะ
“หน้าผากเหน่ง” ในฐานะหมอฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า หมายถึงหน้าผากที่กว้างและเรียบเนียน ดูมีมิติและสมส่วน ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะที่สวยงามและเสริมให้ใบหน้าดูดี ความรู้สึกหมอคือคำเชิงบวกนะคะ 🙂
ถ้าอยากมีหน้าผากเหน่ง สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้ดูนูนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หรือการเติมไขมันตัวเอง (Fat Grafting) ซึ่งช่วยให้หน้าผากดูนุ่มนวลและเต็มมากขึ้นโดยใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเอง นอกจากนี้ในบางกรณีอาจมีตัวเลือกผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก ทุกวิธีมีข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับสภาพใบหน้าแต่ละบุคคลค่ะ