พลาสมาในเลือดคืออะไร?
- พลาสมา เป็นของเหลวสีเหลืองอ่อนในเลือด มีหน้าที่ลำเลียงเซลล์เม็ดเลือดต่าง ๆ สารอาหาร ฮอร์โมน และของเสียไปทั่วร่างกาย
- พลาสมายังช่วยเรื่อง ความดันโลหิต การแข็งตัวของเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน
การแยกพลาสม่า (Plasmapheresis หรือ Plasma Exchange) คืออะไร?
- เป็นการรักษาแบบหนึ่ง โดยเอาพลาสมา (ของเหลวในเลือด) ออกจากร่างกาย เพื่อกำจัดสารที่เป็นอันตรายออก
- ส่วนประกอบเลือดที่เหลือ (เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด) จะคืนกลับเข้าร่างกาย และเติมพลาสมาทดแทนด้วยสารอัลบูมินหรือพลาสมาแช่แข็ง
ใช้รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
- ใช้ในโรคที่มีสารหรือภูมิคุ้มกันผิดปกติหมุนเวียนในพลาสมา เช่น
- TTP (Thrombotic Thrombocytopenic Purpura): ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้เกิดลิ่มเลือดที่อวัยวะสำคัญ
- Hyperviscosity syndrome: เลือดข้นเพราะมีอิมมูโนโกลบูลินสูง มักเกิดจากมะเร็งบางชนิด
- Guillain-Barré syndrome, Myasthenia gravis ฯลฯ: เป็นกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติที่ต้องกำจัดสารเหล่านั้นออกอย่างเร่งด่วน
- ภาวะไขมันในเลือดสูงมากจนตับอ่อนอักเสบ: กรณีนี้ไขมันในเลือดสูงมากจนเห็นเลือดแยกเป็นชั้น ๆ แบบนมข้นหวาน สามารถใช้วิธีนี้ได้บ้าง
ไม่ได้ใช้ในกรณีใด?
- ไม่ใช้เพื่อ “ล้างไขมัน” หรือ “ล้าง LDL” ในคนไข้ที่มีไขมันสูงธรรมดา
- เพราะ LDL ไม่ได้อยู่ในพลาสมา แต่ไประสมในผนังเส้นเลือด
- การแยกพลาสม่า “ไม่ได้ช่วย” ลดไขมันชนิดปกติที่สูง ๆ อยู่ในกระแสเลือดทั่วไป
- ความจำเป็นจริง ๆ จะใช้เฉพาะกรณีมี ไขมันสูงมาก จนตับอ่อนอักเสบ เท่านั้น
ข้อควรระวัง
- ทุกการทำหัตถการทางการแพทย์—including plasmapheresis—มีความเสี่ยง เช่น
- แคลเซียมต่ำในเลือด (เพราะยากันเลือดแข็งและการเติมพลาสมาแช่แข็ง)
- อาการชารอบปาก ชาปลายมือปลายเท้า
- ความดันเปลี่ยนแปลง ฯลฯ
- ไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ว่าสามารถ “ล้างพิษ” ในคนที่มีสุขภาพดี
- ไม่ใช่หัตถการเพื่อชะลอวัย (anti-aging) ตามมาตรฐาน
- จึงไม่ควรเชื่อหรือทำหากไม่มีข้อบ่งชี้/คำแนะนำจากแพทย์
Longevity thrives where science and self-care meet, not at the end of unfounded therapies.