ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

ทำ HIFU Botox Filler วันเดียวกัน หน้าจะบวมไปไหมคะ

ตอบ:

สำหรับคนไข้ที่อยากทำหลายอย่างในวันเดียวเพื่อจัดเต็มทั้ง HIFU, Botox และ Filler หมอเข้าใจคนไข้นะ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มีโอกาสมาทำบ่อยๆ หรืออยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ นานๆมาที ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบครบจบ ในฐานะหมอ เดี๋ยวหมอจะอธิบายว่าแต่ละอย่างทำงานยังไง และถ้าจะทำในวันเดียวกันมีอะไรต้องคำนึงถึงบ้าง พร้อมเรียงลำดับให้เข้าใจง่ายค่ะ

hifu รีวิว
ฟิลเลอร์ restylane ราคา

การแบ่งลำดับขั้นตอนแบบเหมาะสม

ถ้าต้องทำทั้งหมดในวันเดียวกัน หมอจะแนะนำเรียงตามนี้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดผลข้างเคียงค่ะ

  1. HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)
    • ควรเริ่มจาก HIFU ก่อน เพราะเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้การส่งคลื่นเสียงเข้าไปทำงานชั้นใต้ผิวโดยไม่ต้องฉีดอะไรเข้าไป จึงไม่มีผลกระทบต่อการฉีด Botox หรือ Filler ที่จะทำตามมาค่ะ
    • หลังทำ หน้าอาจจะแดงเล็กน้อยแต่จะหายได้ใน 1-2 ชั่วโมง และไม่ทำให้ผิวบวมเสียจากการทำในลำดับต่อไปค่ะ
    • ทำไมต้องทำก่อน? เพราะ HIFU กระตุ้นผิวทั่วหน้าได้ลึกสุด หากทำ Filler ก่อนแล้วมาทำ HIFU อาจมีผลต่อ Filler ที่เพิ่งฉีดค่ะ
  2. Botox (โบท็อกซ์)
    • ลำดับถัดมา แนะนำให้ฉีด Botox เพราะเป็นการลดริ้วรอยหรือปรับกรอบหน้าให้ดูเรียวขึ้นด้วยการลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ไม่ได้ทำให้หน้าบวมทันทีหลังฉีด จึงไม่กวนการทำ Filler ที่ต้องลงดีเทลอย่างประณีต
    • ข้อควรระวัง: ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือถูนานช่วงที่ฉีด Botox ไปแล้ว เพื่อให้ Botox กระจายตัวอย่างเหมาะสมค่ะ
  3. Filler (ฟิลเลอร์เติมเต็มใบหน้า)
    • ขั้นตอนสุดท้ายคือ Filler เพราะเป็นการฉีดสารเติมเต็มผิว เช่น บริเวณร่องแก้ม ใต้ตา หรือปาก การทำ Filler เป็นขั้นตอนที่เน้นดีเทลและปรับสมดุลใบหน้าให้ดูสมูท ซึ่งควรทำหลัง HIFU และ Botox เพราะต้องการความโฟกัสและนิ่งขึ้นค่ะ

HIFU Botox Filler วันเดียวกัน จะบวมไหม

  • โดยปกติ HIFU ไม่ทำให้หน้าบวมชัดเจนค่ะ ส่วน Botox เองก็ไม่ได้ทำให้เกิดอาการบวมหลังฉีด แต่ Filler อาจทำให้มีอาการบวมได้เล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด เช่น ใต้ตาหรือปาก ขึ้นกับปริมาณและบริเวณที่ฉีด รวมถึงลักษณะผิวของคนไข้เองค่ะ หากทำวันเดียวทั้ง 3 อย่าง อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 1-2 วันแรกโดยเฉพาะบริเวณที่ทำ Filler แต่ไม่ต้องกังวล อาการจะดีขึ้นเองค่ะ

ถ้าแบ่งทำได้ จะลดโอกาสบวมช้ำได้มากกว่า

  1. สัปดาห์ที่ 1: ทำ HIFU ก่อน เพื่อยกกระชับหน้า รอ 1 สัปดาห์ให้ผิวนิ่งก่อน
  2. สัปดาห์ที่ 2: ทำ Botox เพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า
  3. สัปดาห์ที่ 3: ปิดท้ายด้วย Filler เพื่อเติมเต็มผิวในส่วนที่ต้องการ

การแบ่งระยะเวลาจะช่วยให้ผลลัพธ์แต่ละอย่างชัดเจนขึ้น ลดการบวมของหน้าจากการทำพร้อมกันค่ะ

สวยแบบเฉพาะบุคคล

ทำ HIFU, Botox และ Filler ในวันเดียวกันได้ค่ะ หากจัดลำดับให้เหมาะสมตามที่หมอแนะนำ จะช่วยลดอาการบวมลงได้มาก แต่ถ้าคนไข้มีเวลา หมอแนะนำแบ่งทำในช่วงเวลาต่างกันเพื่อผลลัพธ์เต็มที่และค่อยเป็นค่อยไป เพราะหมอยึดแนวทางการรักษาแบบ “สวยแบบเฉพาะบุคคล” (Personalized Beauty) ในการดูแลคนไข้ทุกเคส เพื่อให้ผลลัพธ์เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละคนและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของคนไข้ค่ะ

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แค่เติมฟิลเลอร์คางก็ช่วยให้หน้าสมส่วนขึ้นได้
มาดูรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ไขหน้าเหนื่อย เห็นความต่างทันทีหลังทำ
ใต้ตาลึก เป็นแอ่ง น้องบอกจะเลี้ยงปลาทองได้อยู่แล้วนะคะหมอ! จัดการได้ด้วยฟิลเลอร์
ตรวจฮอร์โมนเพศชาย Male Sex Hormone
IPL รักษารอยสิว คืออะไร กี่ครั้งรอยสิวหาย ราคาเท่าไหร่ คำถามที่พบบ่อย
D’ Aura Bright ทรีทเมนท์สำหรับคนอยากหน้าใส แต่ไม่อยากฉีดสารใดๆเข้าหน้า