ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

Pico Laser ไม่ได้มีแบบเดียวหรอคะ ทำไมหลายรุ่น หลายคลื่น หลายแบบ

หมอเข้าใจความรู้สึกของคนไข้เลยค่ะ ที่เห็นข้อมูล Pico Laser เยอะแยะไปหมด บางที่บอกว่ารักษาได้ทุกอย่างในเครื่องเดียว บางที่บอกว่าเฉพาะทางแค่เรื่องเดียว ทำให้งงว่าอะไรคือความจริงกันแน่ ไหนจะความยาวคลื่นนุ่นนี่นั่นอีก เอาเป็นว่าหมอสรุปให้เข้าใจง่ายๆดังนี้นะคะ

picosecond ราคาเท่าไหร่ แบบไหนดี
pico ราคาเท่าไหร่ แบบไหนดี cdc คลินิกใกล้ฉัน

ข้อมูล Pico Laser เยอะแยะไปหมด บางที่บอกว่ารักษาได้ทุกอย่างในเครื่องเดียว บางที่บอกว่าเฉพาะทางแค่เรื่องเดียว ทำให้งงว่าอะไรคือความจริงกันแน่ เครื่อง Pico Laser แม้จะเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน แต่ประสิทธิภาพการรักษาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 6 ประการ

  1. Wavelength (ช่วงคลื่น) – ความยาวคลื่นแสงที่แตกต่างกันจะเข้าถึงชั้นผิวได้ต่างกัน ต้องเลือกให้เหมาะกับปัญหาผิวที่ต้องการรักษา
  2. Frequency (ความถี่) – บ่งบอกถึงความถี่ในการปล่อยพลังงานแสง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษาและการฟื้นตัวของผิว
  3. Fluence (ระดับพลังงาน) – ความเข้มข้นของพลังงานต่อพื้นที่ ต้องปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการรักษา
  4. Technique (เทคนิค) – วิธีการใช้งานที่แตกต่างกันส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษา ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์
  5. Spot size (ขนาดหน้าสัมผัส) – พื้นที่หน้าตัดของลำแสงที่ยิงลงบนผิว ต้องเลือกให้เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการรักษา

เปรียบเทียบให้ Pico Laser ก็เหมือนรถยนต์นี่แหละค่ะ ที่มีหลายประเภท แต่ละแบบถูกออกแบบมาใช้งานต่างกัน

  • รถเก๋ง – เน้นความนุ่มนวล คล่องตัว
    เหมือน Pico บางรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับผิวบอบบาง ต้องการความละเอียดอ่อน
  • รถกระบะ – แรงดี รับหนักได้เยอะ
    เหมือน Pico ที่เน้นพลังสูง เหมาะกับปัญหาผิวที่ต้องใช้พลังมากๆ เช่น รอยแผลเป็นลึก
  • รถตู้ – อเนกประสงค์ ทำได้หลายอย่าง
    คล้าย Pico ที่มีหัวให้เลือกหลายแบบ ปรับแต่งใช้งานได้หลากหลายกับผิว รอยโรคต่างๆ

Picosecond เป็นชื่อเทคโนโลยี ไม่ใช่ยี่ห้อ

ถูกต้องค่ะ! Picosecond หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Pico เป็นเทคโนโลยีการปล่อยพลังงานแสงเลเซอร์ที่มีความเร็วในระดับพิโกวินาที (1 พิโกวินาที = 1 ในล้านล้านวินาที)

เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ

  • Picosecond คือเทคโนโลยี เหมือน “ระบบไฮบริด” ในรถยนต์
  • ส่วนแบรนด์ต่างๆ เช่น PicoSure, PicoWay, Discovery Pico เป็นเหมือน “Toyota” “Honda” “Mercedes” ที่นำเทคโนโลยีไฮบริดไปใช้

แต่ละแบรนด์จะมีการพัฒนาและปรับแต่งเทคโนโลยี Picosecond ในแบบของตัวเอง เช่น

  • ปรับความเร็วในการปล่อยพลังงาน
  • เพิ่มความหลากหลายของความยาวคลื่น
  • ออกแบบหัวเลเซอร์พิเศษ

ช่วงคลื่นหลักของ Pico มี 4 แบบ

532 nm (สีเขียว)

  • เข้าถึงผิวชั้นตื้น
  • ดีกับฝ้า กระแดด รอยแดง
  • เหมาะกับรอยสักสีแดง สีส้ม สีน้ำตาล

755 nm (สีแดง)

  • เข้าถึงผิวชั้นกลาง
  • เหมาะกับจุดด่างดำ
  • ดีกับรอยสักสีฟ้า สีเขียว

1064 nm (ไม่มีสี)

  • เข้าถึงผิวชั้นลึก
  • รักษารอยสักสีดำ
  • กระตุ้นคอลลาเจน
  • ปลอดภัยกับผิวเอเชีย

1320 nm (ไม่มีสี)

  • ลงลึกที่สุด
  • เน้นกระชับรูขุมขน
  • ช่วยเรื่องความกระจ่างใส

บางเครื่องมีครบทุกคลื่น บางเครื่องมีบางคลื่น ขึ้นอยู่กับการออกแบบและวัตถุประสงค์การใช้งานค่ะ

เพราะฉะนั้น เวลาเราพูดถึง Pico แต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน แม้จะใช้เทคโนโลยี Picosecond เหมือนกันค่ะ ที่คนไข้สับสนก็เพราะแต่ละบริษัทพยายามโฆษณาจุดเด่นของตัวเอง บางทีก็เกินจริงไปหน่อย เหมือนโฆษณารถที่บอกว่ารถของเขาดีที่สุด ทำได้ทุกอย่าง

ความจริงคือ ไม่มี Pico ตัวไหนที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับทุกคนหรอกค่ะ แต่จะมีตัวที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปัญหาผิวของแต่ละคน เหมือนการเลือกรถที่ต้องดูว่าเราจะเอาไปใช้งานแบบไหน (แต่จะต้องไม่ใช่ของปลอม ลอกเลียนแบบนะคะ เพราะจะไม่ได้อยู่ในมาตรฐานที่เรากำลังคุยกันตอนนี้เลยค่ะ ปลอมคือปลอม)

หมอเลยอยากให้คนไข้เข้ามาปรึกษาก่อน ให้หมอช่วยดูว่าปัญหาผิวของคุณเป็นยังไง แล้วค่อยเลือก Pico ที่เหมาะกับปัญหาผิวเรานะคะ 😊

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย