ในยุคสมัยปัจจุบัน การศัลยกรรมความงามได้กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและค่าใช้จ่ายที่ลดลง ทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาสนใจการศัลยกรรมเพื่อเสริมความงามและเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเน็ตไอดอลหรือผู้มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ ที่มักจะใช้การศัลยกรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์และดึงดูดผู้ติดตาม ซึ่งนำไปสู่ชื่อเสียงและรายได้มหาศาล
อย่างไรก็ตาม การศัลยกรรมก็มีข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่ต้องคำนึงถึง การผ่าตัดแต่ละครั้งจำเป็นต้องมีการเย็บแผลและตัดไหม ซึ่งระยะเวลาในการหายของแผลอาจแตกต่างกันไปตามบริเวณที่ทำศัลยกรรม วันนี้ดีเลิฟเวอรี่คลินิกเลยขอสรุปตัวเลขการตัดไหม ของการทำศัลยกรรมแต่ละบริเวณมาให้ทราบกัน
ประเภทการผ่าตัด | ระยะเวลาตัดไหม |
---|---|
เสริมจมูก | 7-14 วัน |
ตัดปีกจมูก | 5-14 วัน |
ตาสองชั้น | 5-14 วัน |
Upper lips lift | 7-14 วัน |
Sub brow lift | 7-14 วัน |
ผ่าไฝ | 7-14 วัน (ขึ้นอยู่กับขนาดของไฝ) |
เสริมคาง | 7-14 วัน |
เสริมหน้าอก | 10-14 วัน |
ดูดไขมัน | 7-14 วัน |
เสริมสะโพก | 10-14 วัน |
ผ่าตัดแปลงเพศ | 14-21 วัน (ขึ้นอยู่กับขอบเขตการผ่าตัด) |
อุบัติเหตุ บาดแผลที่เเขนขา | 7-14 วัน |
ผ่าตัดหนังหน้าท้อง | 10-14 วัน |
รีวิวตัดไหม หลังเสริมจมูก Semi-Open
*ระยะเวลาตัดไหมขึ้นกับขนาดของเเผล บริเวณที่เกิดบาดแผล และความสามารถในการหายของแผลของแต่ละบุคคล **ระยะเวลาตัดไหม ไม่ใช่ตัวเลขเวลาการเข้าที่ หรือเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการทำศัลยกรรมในแต่ละบริเวณ
หลังตัดไหม กี่วันโดนน้ำได้
โดยทั่วไป หลังจากตัดไหมแล้ว ควรเว้นระยะเวลาประมาณ 1-2 วัน ก่อนที่จะปล่อยให้แผลโดนน้ำ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของการผ่าตัดและคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้
- แผลผ่าตัดเล็ก ๆ เช่น การผ่าไฝ: สามารถโดนน้ำได้หลังจากตัดไหม 1-2 วัน
- แผลผ่าตัดที่ใหญ่กว่า เช่น การผ่าตัดเสริมจมูก ตาสองชั้น หรือเสริมหน้าอก: ควรเว้นระยะเวลาประมาณ 3-7 วัน หลังจากตัดไหม ก่อนปล่อยให้แผลโดนน้ำ
- แผลผ่าตัดที่มีขนาดใหญ่ เช่น การผ่าตัดแปลงเพศ หรือการผ่าตัดหนังหน้าท้อง: อาจต้องใช้เวลานานกว่า 14-21 วัน หลังจากตัดไหม ก่อนที่จะสามารถโดนน้ำได้
แผลศัลยกรรมที่หน้า หลังตัดไหม ล้างหน้าได้ไหม
หลังจากตัดไหมแผลศัลยกรรมบริเวณใบหน้าแล้ว การล้างหน้าควรทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยทั่วไปแล้ว:
- ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการตัดไหม ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าหรือการโดนน้ำบริเวณแผลโดยตรง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคืองของแผล
- หลังจาก 48 ชั่วโมง สามารถเริ่มล้างหน้าได้อย่างอ่อนโยน โดยใช้น้ำสะอาดและอุ่น หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือมีฤทธิ์กัดกร่อน
- ใช้นิ้วมือล้างหน้าเบา ๆ และหลีกเลี่ยงการถูหรือขัดบริเวณแผลโดยตรง
- ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าสะอาดและนุ่ม โดยใช้วิธีซับเบา ๆ ไม่ควรเช็ดถูแรง ๆ
- หลีกเลี่ยงการแช่หน้าในน้ำเป็นเวลานาน หรือการอาบน้ำด้วยน้ำที่มีแรงดันสูง
ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติใด ๆ เช่น มีอาการบวม แดง มีหนอง หรือมีเลือดออกบริเวณแผล ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ตัดไหม คลินิกใกล้บ้านได้ไหม?
ผู้ที่เข้ารับการศัลยกรรมยังจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อติดตามผลและตัดไหมตามนัด ซึ่งโดยปกติแล้วควรทำที่สถานพยาบาลเดิมที่ทำการผ่าตัด แต่หากไม่สะดวก ก็สามารถเลือกคลินิกใกล้บ้านที่ได้มาตรฐานและมีบุคลากรที่ผ่านการอบรมอย่างถูกต้องในการทำความสะอาดแผลและตัดไหมได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ตัดไหม ราคาเท่าไหร่
ประเภทแผล | ราคา/บาท |
---|---|
แผลทั่วไป 2 – 3 เข็ม | 500 |
แผลทั่วไป (เช่น แผลแตก แผลฉีก) 4 – 10 เข็ม | 1,000 |
แผลผ่าตัดเล็ก (เช่น ฝ่าไฝ เสริมจมูก ปากกระจับ ตาสองชั้น เสริมคาง ดูดไขมัน) เกิน 10 เข็ม | 1,000 – 1,500 |
แผลผ่าตัดใหญ่ (เช่น แผลผ่าตัดหนังหน้าท้อง ดึงหน้า เสริมหน้าอก) เกิน 20 เข็ม | 1,500 – 2,500 |
ถึงแม้ว่าการศัลยกรรมจะช่วยเสริมความงามและสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนได้ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมา การตัดสินใจทำศัลยกรรมควรมาจากความต้องการของตนเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงเพื่อตามกระแสหรือเอาอย่างคนอื่น และต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนรอบคอบ รวมถึงปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การศัลยกรรมเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง การมีทัศนคติที่ถูกต้องและเข้าใจข้อจำกัดของศัลยกรรม จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเหมาะสมและไม่เกิดผลเสียต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจในระยะยาว