สรุปให้สั้นๆ สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลการลดน้ำหนัก หรือคุมน้ำหนักให้ตนเองอยู่
ปากกาลดน้ำหนักมีมานานแค่ไหน
ปากกาลดน้ำหนักเริ่มมีอยู่ในตลาดยาประมาณทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มที่ต่างประเทศ ทางอเมริกา ยุโรปจะเป็นที่รู้จักและมีการใช้กันแพร่หลาย แต่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมากในช่วง 5-10 ปีหลัง เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนา ที่มุ่งเน้นไปที่การรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีน้ำหนักเกิน
ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร?
ปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen) เป็นอุปกรณ์ที่บรรจุยาในรูปแบบปากกา ใช้งานง่าย โดยทั่วไปแล้วมันเป็นฮอร์โมนกลุ่ม GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ที่จำเพาะเจาะจง เช่น Semaglutide หรือ Liraglutide ซึ่งใช้ในการรักษาภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
ปากกาลดน้ำหนักทำงานอย่างไร
ปากกาลดน้ำหนักทำงานโดยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ยากลุ่มนี้นี้มักทำงานโดยการ:
- การลดความอยากอาหาร: GLP-1 มีผลทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและกินน้อยลง โดยผลลัพธ์นี้เกิดจากการที่ฮอร์โมนกระตุ้นสมองทำให้รู้สึกอิ่ม
- ชะลอการเริ่มย่อยอาหารในท้อง: ยาจะชะลอการเคลื่อนไหวของอาหารจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้, ทำให้รู้สึกอิ่มยาวนานกว่า
- ควบคุมการผลิตกลูโคสของตับ: ยาช่วยลดระดับกลูโคสในเลือดโดยการเพิ่มความไวของเนื้อเยื่อต่างๆ ต่ออินซูลินและลดการผลิตกลูโคสของตับ
- เสริมสร้างการใช้พลังงาน: GLP-1 ยังสามารถเพิ่มการใช้พลังงานในร่างกาย ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก
การใช้ปากกาลดน้ำหนักจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำและควบคุมดูแลจากแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยสูงสุด
ปากกาลดน้ำหนัก หรือปากกาคุมหิว เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน: หรือมีดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30 ซึ่งถือว่ามีภาวะน้ำหนักเกิน
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่างๆ: เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักและต้องการตัวช่วย: เพื่อประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่ต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ: ช่วยควบคุมความอยากอาหารและพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม
- ผู้ที่ใช้วิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล: เช่น การใช้ยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ผู้ที่ต้องการวิธีลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย: ที่ไม่มีผลข้างเคียงและไม่กลับมาโยโย่
เช็คเบื้องต้น ว่าปากกาคุมหิว เหมาะกับเราไหม
- ผู้ที่มีภาวะอ้วน:
- ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน:
- ดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ระหว่าง 27-29
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก เช่น:
- เบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
- ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่มีนิสัยชอบกินจุกจิก กินไม่หยุด หิวบ่อย:
- และต้องการลดพฤติกรรมการกินเหล่านี้ให้น้อยลง
ปากกาลดความอ้วน Wegovy


Ozempic™ | Wegovy™ | |
---|---|---|
สารออกฤทธิ์: | Semaglutide | Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: | ฉีดใต้ผิวหนัง | ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: | 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม | 1 ปากกา (ขนาด 2.4 mg/1.5 ml) ต่อสัปดาห์ |
ขนาดยาที่ปรับได้: | 0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 2 mg | 0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 1.7 mg, 2.4 mg |
ความถี่ในการฉีด: | อาทิตย์ละ 1 ครั้ง | อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: | – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าแบบปกติ – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่รบกวนการใช้ชีวิต หรืออ่อนเพลียง่าย – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้น้ำหนักกลับมาเหมือนเดิม – ผ่าน อย. | – ลดน้ำหนักได้ดีมากด้วยขนาดยา 2.4 mg – ใช้ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์ได้ – ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงด้านการลดน้ำหนัก – คุมหิว ลดภาวะอยากอาหาร – ผ่าน อย. มีงานวิจัย – ผลข้างเคียงคล้าย Ozempic (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน) |

ปากกาคุมหิว Saxenda VS Ozempic
Saxenda® | Ozempic™ |
---|---|
สารออกฤทธิ์: Liraglutide | สารออกฤทธิ์: Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง | รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: 5 ปากกา (แต่ละด้ามบรรจุ 3 ml) | ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม |
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.6mg, 1.2mg, 1.8mg, 2.4mg, 3.0mg | ขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg |
ความถี่ในการฉีด: ทุกวัน | ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็ว ปลอดภัย – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ | ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ |


ปากกาคุมผิว Trulicity VS Ozempic
Trulicity | Ozempic |
---|---|
สารออกฤทธิ์: Dulaglutide | สารออกฤทธิ์: Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง | รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: 4 ด้าม (แต่ละด้ามบรรจุ 0.5 ml) | ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม |
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.75mg, 1.5mg | ขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg |
ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง | ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: – ควบคุมความอยากอาหาร – ลดน้ำหนัก (โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย) – ฉีดสัปดาห์ละครั้ง – ผลข้างเคียงน้อย – ผ่าน อย. ไทย | ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. ไทย |
ปากกาลดความอ้วน Mounjaro VS Wegovy
Mounjaro (tirzepatide) | Wegovy (semaglutide) | |
---|---|---|
ปีที่ได้รับอนุมัติ Thai FDA | 31 กรกฎาคม 2567 | 3 สิงหาคม 2566 |
วิธีการใช้ | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง |
ช่วงขนาดยา | 2.5 – 15.0 มก. | 0.25 – 2.4 มก. |
เป้าหมายของการออกฤทธิ์ | GLP-1 และ GIP | GLP-1 |
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย | คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก อาเจียน | คลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน ท้องผูก |
ผลลดน้ำหนักเฉลี่ย (*แล้วแต่บุคคล) | ลดน้ำหนักเฉลี่ย 22.5% หลัง 72 สัปดาห์ (ขนาด 15 มก.) | ลดน้ำหนักเฉลี่ย 14.9% หลัง 68 สัปดาห์ (ขนาด 2.4 มก.) |
ข้อควรระวัง ปากกาคุมหิว
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์
- ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักสำหรับทุกคน และควรใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
- อาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
Dulaglutide, Semaglutide, Liraglutide เป็นยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonists เป็นยาที่ใช้รักษาเบาหวานและลดน้ำหนัก แต่ก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับยาอื่นๆ โดยสรุปได้ดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย: เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด แต่อาจบรรเทาลงได้เมื่อร่างกายปรับตัว
- ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ: โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาลดน้ำตาลชนิดอื่นร่วมด้วย ควรสังเกตอาการ เช่น เหงื่อออก ใจสั่น หน้ามืด
ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบได้น้อย):
- ตับอ่อนอักเสบ: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ลิ้นปี่ร้าวไปหลัง
- มะเร็งไทรอยด์: ห้ามใช้หากมีประวัติส่วนตัวหรือครอบครัวเป็นมะเร็งชนิดนี้
- นิ่วในถุงน้ำดี: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ชายโครงขวาร้าวไปสะบักขวา
- ชีพจรเต้นเร็ว
- ไตวายเฉียบพลัน: พบได้น้อย มักเกิดในผู้ที่ขาดน้ำร่วมด้วย
- ภาวะเบาหวานขึ้นตาเลวลง: อาจทำให้ตาพร่ามัวหรือตาบอดได้
ข้อควรระวัง:
- ควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
- แจ้งแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ
- ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์หรือเภสัชกร
ปากกาคุมหิว ราคาเท่าไหร่
ชื่อปากกาคุมหิว | ราคา (บาท) |
---|---|
Mounjaro | 25,000 |
Wegovy | 17,000 |
Ozempic | 17,000 |
Trulicity | 14,000 |



ตำแหน่งการฉีดปากกาคุมน้ำหนัก
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดได้แก่
- หน้าท้อง (Abdomen):
- บริเวณรอบ ๆ สะดือแต่ควรห่างจากสะดือประมาณ 2 นิ้ว
- หลีกเลี่ยงการฉีดในบริเวณที่มีแผลหรือแผลเป็น
- ต้นขาด้านหน้า (Front of the Thighs):
- บริเวณกลาง ๆ ด้านหน้าและด้านข้างของต้นขา
- ควรเปลี่ยนจุดฉีดทุกครั้งเพื่อลดการด้านของเนื้อเยื่อ
- ต้นแขน (Upper Arm):
- ด้านหลังของต้นแขนเหนือข้อศอกถึงไหล่
- ต้องมีคนช่วยฉีดถ้าฉีดเองทำไม่ได้
ข้อห้าม
- ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous):
- การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำไม่เหมาะสำหรับยาที่ออกแบบมาให้ใช้แบบ subcutaneous และอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- ห้ามฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular):
- การฉีดเข้ากล้ามเนื้ออาจทำให้ยาไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและอาจเกิดการเจ็บปวดหรือบาดเจ็บได้
การปฏิบัติที่ถูกต้อง
- ล้างมือก่อนและหลังการฉีดยา
- ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณที่ต้องการฉีด
- ใช้เข็มที่สะอาดและปลอดเชื้อ (จำเป็นต้องใช้เข็มใหม่ทุกครั้ง)
- ฉีดยาในมุมที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์


ขั้นตอนการใช้ปากกาคุมหิว Ozempic
เตรียมปากกา
- อ่านฉลากเพื่อยืนยันว่าปากกาของคุณบรรจุ Ozempic®
- ตรวจสอบว่ายาในปากกามีลักษณะใสและไม่มีสี
ติดเข็มใหม่
- ฉีกกระดาษที่ปิดออก
- กดและหมุนเข็มจนแน่น
- ดึงฝาครอบเข็มทั้งสองฝาออก
ตรวจสอบว่ามีตัวยาไหลออกมา
- หมุนตัวเลือกปริมาณจนกว่าตัวนับปริมาณจะแสดงสัญลักษณ์ตรวจสอบการไหล
- กดปุ่มปริมาณค้างไว้จนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดง 0
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีหยดปรากฏที่ปลายเข็ม
เลือกปริมาณการปล่อยยา
- หมุนตัวเลือกปริมาณจนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดงปริมาณที่คุณต้องฉีด (0.25 มก. หรือ 0.5 มก. สำหรับปากกาฉลากแดง, 1 มก. สำหรับปากกาฉลากน้ำเงิน และ 2 มก. สำหรับปากกาฉลากเหลือง)
ฉีดตัวยาเข้าร่างกาย
- สอดเข็มเข้าไปในผิวหนังของคุณ
- กดปุ่มปริมาณค้างไว้
- หลังจากตัวนับปริมาณแสดง 0 ให้ค่อยๆ นับถึง 6
- ถอนเข็มออกจากผิวหนังของคุณ
คำแนะนำหลังฉีด
- ถอนเข็มออกอย่างระมัดระวังและใส่ในภาชนะทิ้งของมีคม
- ใส่ฝาปิดปากกากลับที่ปากกา
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนัก
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของยา นี่คือวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง
- เก็บตัวยาฉีดที่ยังไม่ได้เปิดใช้:
- เก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส
- ห้ามเก็บตัวยาในช่องแช่แข็ง
- หลังจากเปิดใช้แล้ว:
- เก็บที่อุณหภูมิห้อง โดยควรเป็นอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส
- ตัวยาจะมีอายุการใช้งาน 1 เดือนหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
- คำแนะนำเพิ่มเติมในการเก็บรักษา:
- เก็บยาให้พ้นมือเด็ก
- ห้ามใช้ยานี้หากสารละลายขุ่นไม่ใสหรือมีสีปนเปื้อน
- สวมปลอกยาทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- ปากกาสำหรับฉีดแต่ละด้ามให้ใช้กับคนไข้บุคคลเดียวเท่านั้น ห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่น แม้จะมีการเปลี่ยนหัวเข็มก็ตาม
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักตามคำแนะนำนี้จะช่วยให้ตัวยาสามารถคงคุณภาพและประสิทธิภาพในการรักษาได้มากที่สุด
ปากกาลดความอ้วนจริงๆ แล้วใช้งานง่ายมากค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้ไม่เป็น เพราะเราสามารถแนะนำวิธีใช้ให้ครบถ้วนตั้งแต่การเตรียมตัว การดูแลตัวเอง และการฉีดอย่างถูกวิธี เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ หมอจะสอนและคอยดูแลตลอดเวลา หรือจะมาฉีดที่คลินิกก็ได้ คนไข้แค่ต้องเปิดใจและให้ความร่วมมือกับเราในการทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ
ส่วนเรื่องผลลัพธ์นั้น ปากกาลดความอ้วนจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญและลดการสะสมไขมันที่ไม่ต้องการ สิ่งที่สำคัญคือการใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายและการกินอาหารที่เหมาะสม ไม่ยากหรือซับซ้อนเลยค่ะ หมอเชื่อว่าหากคุณตั้งใจและมั่นใจ หมอจะช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเวลาไม่นานค่ะ
เติมได้ค่ะ แต่หมอแนะนำแบบนี้ เราต้องให้น้ำหนักและสภาพผิวคงที่ก่อน เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
หลังจากน้ำหนักคงที่ประมาณ 3-6 เดือน ค่อยมาปรึกษาเรื่องการฉีดฟิลเลอร์อีกทีนะคะ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
Mounjaro เป็นยาฉีดสัปดาห์ละครั้งตัวใหม่ (ผ่านการรับรอง อย. แล้ว) ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 แล้วก็มีผลช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย จุดเด่นของยานี้คือออกฤทธิ์ได้สองทาง ทำให้ลดน้ำตาลและน้ำหนักได้มากกว่ายากลุ่มเดิมอย่าง Ozempic หรือ Wegovy ซึ่งออกฤทธิ์แค่ทางเดียวค่ะ อีกทั้ง Mounjaro ยังสามารถปรับขนาดยาขึ้นทีละน้อยได้ตามอาการและความเหมาะสม ทำให้หมอปรับแผนการรักษาได้ยืดหยุ่นขึ้นกับแต่ละคนไข้
ถ้าคนไข้ลองเปรียบเทียบกับ Ozempic หรือ Wegovy นะคะ Mounjaro จะเด่นกว่าตรงที่ช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่า (จากการศึกษาล่าสุด) และเลือกขนาดยาได้หลากหลายมากกว่า ผลข้างเคียงหลัก ๆ อย่างคลื่นไส้หรือท้องเสียยังมีโอกาสเกิดคล้าย ๆ กัน หมอแนะนำว่าการเลือกชนิดยา ควรให้แพทย์ประเมินจากสุขภาพของคนไข้ เป้าหมายในการรักษา และความปลอดภัยเป็นสำคัญนะคะ
ในโปรแกรม D’ RESIZE ของ D’ Lovevery Clinic สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงค่ะ โดยเน้นการลดแบบค่อยเป็นค่อยไป ได้ผลดีในระยะยาว ไม่เน้นลดฮวบเหมือนยาลดไขมันที่ขายออนไลน์ทั่วไป ซึ่งอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงรุนแรงทั้งใจสั่น หงุดหงิด วิตกกังวล หรือร้ายแรงถึงขั้นช็อก รวมถึงปัญหาโยโย่หลังหยุดยาอีกด้วย
ในโปรแกรมนี้ สามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 10-30% ภายใน 3 เดือน เช่น หากน้ำหนักเริ่มต้นที่ 80 กก. จะลดลงได้ประมาณ 8-12 กก. ภายใน 3 เดือน และเมื่อใช้ยาอย่างต่อเนื่อง น้ำหนักจะลดลงได้อีกประมาณ 10% การลดน้ำหนักจึงเกิดขึ้นอย่างมั่นคง ไม่กลับมาโยโย่เหมือนการอดอาหารหรือกินยาลดน้ำหนักทั่วไป เพราะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินในระยะยาว ส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ยาวนานยิ่งขึ้น
กระบวนการให้เข้าใจง่ายคือ เมื่อเรากินน้อยลง ขนาดกระเพาะจะเล็กลง ไขมันช่องท้องถูกนำมาใช้มากขึ้น น้ำหนักและรอบเอวจะค่อย ๆ ลดลง พฤติกรรมการกินดีขึ้น และสุขภาพโดยรวมก็จะดีขึ้นอย่างยั่งยืนค่ะ
อาการแบบนี้ หมออยากอธิบายว่า มันไม่ใช่ “หิวจริง” ที่ร่างกายขาดพลังงานนะคะ แต่จะเป็นลักษณะของ “ความอยากอาหาร” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “craving” บางคนอาจเรียกว่าการกินตามอารมณ์ (emotional eating) ก็ได้ค่ะ
เวลาร่างกายหิวจริง เราจะรู้สึกท้องร้อง รู้สึกอ่อนแรง หรือต้องหาอะไรใส่ท้องเพื่อเติมพลังงานให้ร่างกาย แต่ถ้าหิวแบบที่หมอบอกไปเมื่อกี้ มักจะเกิดขึ้นสั้น ๆ เป็นความอยากกินอะไรบางอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น ของหวาน ของทอด หรือขนมต่าง ๆ ไม่ได้มาจากความต้องการอาหารจริง ๆ ของร่างกาย แต่เกิดจากสิ่งกระตุ้นรอบตัว อย่างความเครียด อารมณ์ หรือแม้แต่กลิ่นอาหารค่ะ
แบบนี้พบได้บ่อยในวัยรุ่น วัยทำงาน หรือสาว ๆ ที่อยู่ในช่วงก่อนมีประจำเดือน เพราะฮอร์โมนมีผลต่ออารมณ์และความอยากอาหารค่ะ
ดังนั้นถ้าคนไข้รู้สึกอยากกินอะไรขึ้นมาช่วงสั้น ๆ แต่ถ้าไม่ได้กินแล้วก็หายเอง สบายใจได้ค่ะ ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นโรคอะไร หากอยากควบคุมน้ำหนัก หรือควบคุมสุขภาพ หมอแนะนำให้ลองสังเกตความหิวของตัวเอง ถ้ารอประมาณ 10-15 นาทีแล้วมันหายไป ก็แสดงว่าเป็นความอยากมากกว่าหิวจริงค่ะ
หมอสรุปตารางเปรียบเทียบการฉีด Ozempic ขนาด 0.5 mg และ 1 mg พร้อมแนวทางการฉีดใน 1 เดือนให้แล้วนะคะ
จากตาราง เราจะเห็นว่า
- ทั้งสองขนาดยาฉีดสัปดาห์ละครั้งเหมือนกัน
- ขนาด 0.5 mg จะใช้ยาน้อยกว่า ทำให้ 1 ปากกาใช้ได้นานกว่า
- ขนาด 1 mg จะใช้ยามากกว่า ทำให้ 1 ปากกาหมดเร็วกว่า
สำหรับแนวทางการฉีด หมอแนะนำให้ฉีดในวันเดียวกันของทุกสัปดาห์ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและการควบคุมระดับยาในร่างกายค่ะ สงสัยตรงไหนเพิ่มเติม ทักไลน์มาปรึกษาหมอและทีมผู้ช่วยหมอได้เลยค่ะ