สรุปให้สั้นๆ สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลการลดน้ำหนัก หรือคุมน้ำหนักให้ตนเองอยู่
ปากกาลดน้ำหนักมีมานานแค่ไหน
ปากกาลดน้ำหนักเริ่มมีอยู่ในตลาดยาประมาณทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มที่ต่างประเทศ ทางอเมริกา ยุโรปจะเป็นที่รู้จักและมีการใช้กันแพร่หลาย แต่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมากในช่วง 5-10 ปีหลัง เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนา ที่มุ่งเน้นไปที่การรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีน้ำหนักเกิน
ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร?
ปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen) เป็นอุปกรณ์ที่บรรจุยาในรูปแบบปากกา ใช้งานง่าย โดยทั่วไปแล้วมันเป็นฮอร์โมนกลุ่ม GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ที่จำเพาะเจาะจง เช่น Semaglutide หรือ Liraglutide ซึ่งใช้ในการรักษาภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
ปากกาลดน้ำหนักทำงานอย่างไร
ปากกาลดน้ำหนักทำงานโดยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ยากลุ่มนี้นี้มักทำงานโดยการ:
- การลดความอยากอาหาร: GLP-1 มีผลทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและกินน้อยลง โดยผลลัพธ์นี้เกิดจากการที่ฮอร์โมนกระตุ้นสมองทำให้รู้สึกอิ่ม
- ชะลอการเริ่มย่อยอาหารในท้อง: ยาจะชะลอการเคลื่อนไหวของอาหารจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้, ทำให้รู้สึกอิ่มยาวนานกว่า
- ควบคุมการผลิตกลูโคสของตับ: ยาช่วยลดระดับกลูโคสในเลือดโดยการเพิ่มความไวของเนื้อเยื่อต่างๆ ต่ออินซูลินและลดการผลิตกลูโคสของตับ
- เสริมสร้างการใช้พลังงาน: GLP-1 ยังสามารถเพิ่มการใช้พลังงานในร่างกาย ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก
การใช้ปากกาลดน้ำหนักจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำและควบคุมดูแลจากแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยสูงสุด
ปากกาลดน้ำหนัก หรือปากกาคุมหิว เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน: หรือมีดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30 ซึ่งถือว่ามีภาวะน้ำหนักเกิน
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่างๆ: เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักและต้องการตัวช่วย: เพื่อประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่ต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ: ช่วยควบคุมความอยากอาหารและพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม
- ผู้ที่ใช้วิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล: เช่น การใช้ยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ผู้ที่ต้องการวิธีลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย: ที่ไม่มีผลข้างเคียงและไม่กลับมาโยโย่
เช็คเบื้องต้น ว่าปากกาคุมหิว เหมาะกับเราไหม
- ผู้ที่มีภาวะอ้วน:
- ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน:
- ดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ระหว่าง 27-29
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก เช่น:
- เบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
- ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่มีนิสัยชอบกินจุกจิก กินไม่หยุด หิวบ่อย:
- และต้องการลดพฤติกรรมการกินเหล่านี้ให้น้อยลง
ปากกาลดความอ้วน Wegovy


Ozempic™ | Wegovy™ | |
---|---|---|
สารออกฤทธิ์: | Semaglutide | Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: | ฉีดใต้ผิวหนัง | ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: | 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม | 1 ปากกา (ขนาด 2.4 mg/1.5 ml) ต่อสัปดาห์ |
ขนาดยาที่ปรับได้: | 0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 2 mg | 0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 1.7 mg, 2.4 mg |
ความถี่ในการฉีด: | อาทิตย์ละ 1 ครั้ง | อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: | – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าแบบปกติ – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่รบกวนการใช้ชีวิต หรืออ่อนเพลียง่าย – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้น้ำหนักกลับมาเหมือนเดิม – ผ่าน อย. | – ลดน้ำหนักได้ดีมากด้วยขนาดยา 2.4 mg – ใช้ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์ได้ – ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงด้านการลดน้ำหนัก – คุมหิว ลดภาวะอยากอาหาร – ผ่าน อย. มีงานวิจัย – ผลข้างเคียงคล้าย Ozempic (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน) |

ปากกาคุมหิว Saxenda VS Ozempic
Saxenda® | Ozempic™ |
---|---|
สารออกฤทธิ์: Liraglutide | สารออกฤทธิ์: Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง | รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: 5 ปากกา (แต่ละด้ามบรรจุ 3 ml) | ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม |
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.6mg, 1.2mg, 1.8mg, 2.4mg, 3.0mg | ขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg |
ความถี่ในการฉีด: ทุกวัน | ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็ว ปลอดภัย – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ | ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ |


ปากกาคุมผิว Trulicity VS Ozempic
Trulicity | Ozempic |
---|---|
สารออกฤทธิ์: Dulaglutide | สารออกฤทธิ์: Semaglutide |
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง | รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง |
ขนาดบรรจุ: 4 ด้าม (แต่ละด้ามบรรจุ 0.5 ml) | ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม |
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.75mg, 1.5mg | ขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg |
ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง | ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง |
ข้อดี: – ควบคุมความอยากอาหาร – ลดน้ำหนัก (โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย) – ฉีดสัปดาห์ละครั้ง – ผลข้างเคียงน้อย – ผ่าน อย. ไทย | ข้อดี: – ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า – เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา – คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก – ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค – ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ – ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง – หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม – ผ่าน อย. ไทย |
ปากกาลดความอ้วน Mounjaro VS Wegovy
Mounjaro (tirzepatide) | Wegovy (semaglutide) | |
---|---|---|
ปีที่ได้รับอนุมัติ Thai FDA | 31 กรกฎาคม 2567 | 3 สิงหาคม 2566 |
วิธีการใช้ | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง |
ช่วงขนาดยา | 2.5 – 15.0 มก. | 0.25 – 2.4 มก. |
เป้าหมายของการออกฤทธิ์ | GLP-1 และ GIP | GLP-1 |
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย | คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก อาเจียน | คลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน ท้องผูก |
ผลลดน้ำหนักเฉลี่ย (*แล้วแต่บุคคล) | ลดน้ำหนักเฉลี่ย 22.5% หลัง 72 สัปดาห์ (ขนาด 15 มก.) | ลดน้ำหนักเฉลี่ย 14.9% หลัง 68 สัปดาห์ (ขนาด 2.4 มก.) |
ข้อควรระวัง ปากกาคุมหิว
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์
- ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักสำหรับทุกคน และควรใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
- อาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
Dulaglutide, Semaglutide, Liraglutide เป็นยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonists เป็นยาที่ใช้รักษาเบาหวานและลดน้ำหนัก แต่ก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับยาอื่นๆ โดยสรุปได้ดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย: เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด แต่อาจบรรเทาลงได้เมื่อร่างกายปรับตัว
- ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ: โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาลดน้ำตาลชนิดอื่นร่วมด้วย ควรสังเกตอาการ เช่น เหงื่อออก ใจสั่น หน้ามืด
ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบได้น้อย):
- ตับอ่อนอักเสบ: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ลิ้นปี่ร้าวไปหลัง
- มะเร็งไทรอยด์: ห้ามใช้หากมีประวัติส่วนตัวหรือครอบครัวเป็นมะเร็งชนิดนี้
- นิ่วในถุงน้ำดี: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ชายโครงขวาร้าวไปสะบักขวา
- ชีพจรเต้นเร็ว
- ไตวายเฉียบพลัน: พบได้น้อย มักเกิดในผู้ที่ขาดน้ำร่วมด้วย
- ภาวะเบาหวานขึ้นตาเลวลง: อาจทำให้ตาพร่ามัวหรือตาบอดได้
ข้อควรระวัง:
- ควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
- แจ้งแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ
- ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์หรือเภสัชกร
ปากกาคุมหิว ราคาเท่าไหร่
ชื่อปากกาคุมหิว | ราคา (บาท) |
---|---|
Mounjaro | 25,000 |
Wegovy | 17,000 |
Ozempic | 17,000 |
Trulicity | 14,000 |



ตำแหน่งการฉีดปากกาคุมน้ำหนัก
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดได้แก่
- หน้าท้อง (Abdomen):
- บริเวณรอบ ๆ สะดือแต่ควรห่างจากสะดือประมาณ 2 นิ้ว
- หลีกเลี่ยงการฉีดในบริเวณที่มีแผลหรือแผลเป็น
- ต้นขาด้านหน้า (Front of the Thighs):
- บริเวณกลาง ๆ ด้านหน้าและด้านข้างของต้นขา
- ควรเปลี่ยนจุดฉีดทุกครั้งเพื่อลดการด้านของเนื้อเยื่อ
- ต้นแขน (Upper Arm):
- ด้านหลังของต้นแขนเหนือข้อศอกถึงไหล่
- ต้องมีคนช่วยฉีดถ้าฉีดเองทำไม่ได้
ข้อห้าม
- ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous):
- การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำไม่เหมาะสำหรับยาที่ออกแบบมาให้ใช้แบบ subcutaneous และอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- ห้ามฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular):
- การฉีดเข้ากล้ามเนื้ออาจทำให้ยาไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและอาจเกิดการเจ็บปวดหรือบาดเจ็บได้
การปฏิบัติที่ถูกต้อง
- ล้างมือก่อนและหลังการฉีดยา
- ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณที่ต้องการฉีด
- ใช้เข็มที่สะอาดและปลอดเชื้อ (จำเป็นต้องใช้เข็มใหม่ทุกครั้ง)
- ฉีดยาในมุมที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์


ขั้นตอนการใช้ปากกาคุมหิว Ozempic
เตรียมปากกา
- อ่านฉลากเพื่อยืนยันว่าปากกาของคุณบรรจุ Ozempic®
- ตรวจสอบว่ายาในปากกามีลักษณะใสและไม่มีสี
ติดเข็มใหม่
- ฉีกกระดาษที่ปิดออก
- กดและหมุนเข็มจนแน่น
- ดึงฝาครอบเข็มทั้งสองฝาออก
ตรวจสอบว่ามีตัวยาไหลออกมา
- หมุนตัวเลือกปริมาณจนกว่าตัวนับปริมาณจะแสดงสัญลักษณ์ตรวจสอบการไหล
- กดปุ่มปริมาณค้างไว้จนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดง 0
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีหยดปรากฏที่ปลายเข็ม
เลือกปริมาณการปล่อยยา
- หมุนตัวเลือกปริมาณจนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดงปริมาณที่คุณต้องฉีด (0.25 มก. หรือ 0.5 มก. สำหรับปากกาฉลากแดง, 1 มก. สำหรับปากกาฉลากน้ำเงิน และ 2 มก. สำหรับปากกาฉลากเหลือง)
ฉีดตัวยาเข้าร่างกาย
- สอดเข็มเข้าไปในผิวหนังของคุณ
- กดปุ่มปริมาณค้างไว้
- หลังจากตัวนับปริมาณแสดง 0 ให้ค่อยๆ นับถึง 6
- ถอนเข็มออกจากผิวหนังของคุณ
คำแนะนำหลังฉีด
- ถอนเข็มออกอย่างระมัดระวังและใส่ในภาชนะทิ้งของมีคม
- ใส่ฝาปิดปากกากลับที่ปากกา
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนัก
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของยา นี่คือวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง
- เก็บตัวยาฉีดที่ยังไม่ได้เปิดใช้:
- เก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส
- ห้ามเก็บตัวยาในช่องแช่แข็ง
- หลังจากเปิดใช้แล้ว:
- เก็บที่อุณหภูมิห้อง โดยควรเป็นอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส
- ตัวยาจะมีอายุการใช้งาน 1 เดือนหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
- คำแนะนำเพิ่มเติมในการเก็บรักษา:
- เก็บยาให้พ้นมือเด็ก
- ห้ามใช้ยานี้หากสารละลายขุ่นไม่ใสหรือมีสีปนเปื้อน
- สวมปลอกยาทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- ปากกาสำหรับฉีดแต่ละด้ามให้ใช้กับคนไข้บุคคลเดียวเท่านั้น ห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่น แม้จะมีการเปลี่ยนหัวเข็มก็ตาม
การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักตามคำแนะนำนี้จะช่วยให้ตัวยาสามารถคงคุณภาพและประสิทธิภาพในการรักษาได้มากที่สุด
ถ้าคนไข้สั่งยาแบบปากกาจากต่างจังหวัด สิ่งที่อยากแนะนำจริงๆ เพื่อประหยัดค่าส่ง และไม่มีปัญหาเรื่องยาหมดอายุ สามารถพิจารณาแบบนี้ได้เลยค่ะ
- Ozempic
- ถ้าใช้ขนาด 0.5 mg/สัปดาห์: สั่งล่วงหน้า 2-3 ชุดพอค่ะ ใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือน
- แต่ถ้าใช้ขนาด 1.0 mg/สัปดาห์: สั่งทีละ 2 ชุดจะดีกว่า ใช้ได้ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ เพราะหลังเปิดใช้ยาจะเก็บได้ 6 สัปดาห์เท่านั้นค่ะ
- Saxenda
- ถ้าเริ่มต้นหรือใช้อยู่ขนาด 0.6 mg/วัน (สูงสุด): สั่งล่วงหน้า 2-3 ชุดก็พอค่ะ ใช้ได้ประมาณ 30 วัน
- ถ้าเริ่มต้นหรือใช้อยู่ขนาด 3.0 mg/วัน (สูงสุด): สั่งล่วงหน้า 2 ชุดก็พอค่ะ ใช้ได้ประมาณ 12 วัน
- เท่านี้จะปลอดภัยต่อยาหมดอายุ และไม่เสี่ยงใช้ไม่ทันค่ะ เพราะยานี้เก็บได้แค่ 30 วันหลังเปิดใช้งาน
- Trulicity
- ใช้ 1 แท่งต่อสัปดาห์ แนะนำสั่งล่วงหน้าได้ถึง 3 ชุด (1ชุดมี 4 แท่ง) เก็บในตู้เย็นได้นาน ไม่ต้องกลัวหมดอายุค่ะ
หลักการสำคัญของอาการปวดหลังจากน้ำหนักตัวมาก คือ กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลังต้องรับน้ำหนักเกินกว่าที่จะรับไหว ส่งผลให้เกิดแรงกดและการสึกหรอที่ข้อต่อกระดูก กล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องก็จะอ่อนแอ ทำให้การทรงตัวเสียสมดุล จึงเกิดอาการปวดเมื่อย ปวดร้าว หรือจนถึงหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วและเส้นประสาทถูกกดทับในที่สุดค่ะ
ต้นตอของน้ำหนักตัวมากเกิดจากอาหาร การขยับตัวน้อย พักผ่อนไม่พอ ความเครียด ยาบางอย่าง หรือปัญหาสุขภาพ การแก้ต้องเริ่มสังเกตตัวเอง ปรับอาหาร เพิ่มกิจกรรม จัดการความเครียดและตรวจสุขภาพบ้าง ค่อยๆ แก้ไปแต่ละสาเหตุ ความสม่ำเสมอและความเข้าใจตัวเองคือหัวใจของการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน
ใช่ค่ะ พอเราอายุมากขึ้น ร่างกายเราจะเผาผลาญพลังงานน้อยลง กล้ามเนื้อก็มักจะลดลงตามอายุ ทำให้การลดน้ำหนักอาจจะยากขึ้นกว่าวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาวอยู่บ้างค่ะ
และถ้าเกิน 50 ขึ้นไปแล้วมันไม่ได้ยากแค่ระบบภายใน แต่เป็นทั้ง “ระบบเผาผลาญที่ช้าลง” และ “การเคลื่อนไหวที่ลดลง” รวมกัน
เพราะฉะนั้นถ้าจะลดน้ำหนักจริง ๆ หมอจะแนะนำให้เน้นอาหารที่เหมาะสม ควบคู่กับออกกำลังกายเท่าที่ร่างกายไหว (ไม่จำเป็นต้องหนักหรือวิ่งเร็วแบบเด็ก ๆ ก็ได้ค่ะ เดิน ยืดเหยียด ว่ายน้ำ โยคะ ก็ช่วยทั้งช่วยเผาผลาญและเสริมกล้ามเนื้อได้)
ถ้าเจอปัญหาเรื่องสุขภาพหรือข้อจำกัดในการออกกำลังกาย หมอช่วยแนะนำแบบเฉพาะบุคคลได้เลยค่ะ หมอเข้าใจ และพร้อมช่วยปรับแผนให้เหมาะกับอายุและสุขภาพของแต่ละคนค่ะ
Ozempic 0.5mg กับ 1mg ราคาไม่เท่ากันค่ะ ขนาดบ่งบอกของปริมาณยาที่คุณหมอจะสั่งจ่ายตามรายละเอียดของคนไข้แต่ละรายต่างกันไป มีรายละเอียดเพิ่มเติมดังข้อมูลด้านล่างนี้ค่ะ ดูราคา คลิก
หมอต้องขอตอบว่าไม่ได้เลยนะคะ ปากกาลดน้ำหนักเป็นยาที่ต้องได้รับการสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น เพราะมีทั้งยาแท้และยาปลอมระบาดในท้องตลาดค่ะ
การเริ่มใช้ยานี้ คนไข้จำเป็นต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อน เพื่อดูว่าเหมาะสมกับการใช้ยาหรือไม่ และต้องเริ่มที่ขนาดยาเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัยสำหรับคนไข้
หมอเป็นห่วงสุขภาพของคนไข้นะคะ ถ้าคนไข้สนใจการใช้ยาลดน้ำหนักจริงๆ หมอแนะนำให้มาปรึกษาแพทย์โดยตรงดีกว่าค่ะ จะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดค่ะ
ปรึกษาคุณหมอต้าร์ หรือทีมแพทย์ D’ Lovevery Clinic สำหรับการปรึกษาทั่วไปกับหมอไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ และไม่มีเรียกเก็บค่าปรึกษาก่อนเข้ามาปรึกษาค่ะ
จะมีค่าปรึกษาเฉพาะกรณีพิเศษเท่านั้น คือการปรึกษาเรื่องปากกาคุมหิวและปากกาลดน้ำหนัก (1,000 บาท) เพราะต้องใช้เวลาในการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และวางแผนการรักษาอย่างละเอียดค่ะ
คนไข้สามารถนัดปรึกษาเรื่องทั่วไปได้เลยนะคะ หมอยินดีให้คำแนะนำค่ะ 🌟
ไขมันในช่องท้อง หรือ Visceral Fat เป็นไขมันที่สะสมอยู่ลึกในช่องท้องและจะล้อมรอบอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ตับ และไต สาเหตุหลักของการมีไขมันในช่องท้องสูงได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและน้ำตาลสูง ขาดการออกกำลังกาย ความเครียดเรื้อรัง และการดื่มแอลกอฮอล์ จากข้อมูลของ Harvard T.H. Chan School of Public Health ระบุชัดว่าไขมันชนิดนี้สัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อสุขภาพ เช่น น้ำตาลในเลือดสูง (เบาหวาน), โรคหัวใจและหลอดเลือด, ความดันโลหิตสูง, และ ไขมันพอกตับ ซึ่งต่างจากไขมันชนิดอื่นเพราะมันจะไปรบกวนระบบทำงานของอวัยวะภายในโดยตรง
ขณะเดียวกัน ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) จะสะสมอยู่ตรงชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งโดยมากพบที่ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้องใต้ผิว ตัวนี้จะทำให้รูปร่างดูแน่นหรือมีเซลลูไลท์ แต่ ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของอวัยวะภายในโดยตรง ความรุนแรงด้านสุขภาพต่ำกว่า visceral fat เยอะ ที่มาโดยหลักคือ การได้รับแคลอรีเกินกว่าที่ใช้ กรรมพันธุ์ และฮอร์โมนเพศ เช่น พบมากในผู้หญิงช่วงอายุกลางคนเป็นต้นไป ถึงแม้จะไม่ทำให้เกิดภาวะที่อันตรายในทันที แต่ถ้าสะสมมาก ก็อาจเกิดปัญหาด้านรูปร่างและความมั่นใจ การลดไขมันทั้งสองชนิดนั้นแนะนำ เน้นควบคุมอาหาร ออกกำลังกายแบบแอโรบิก และฝึกเวทเทรนนิ่งอย่างสม่ำเสมอ เพราะได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยว่าเป็นวิธีที่เห็นผลดีที่สุดในระยะยาว
ปากกาลดความอ้วนจริงๆ แล้วใช้งานง่ายมากค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้ไม่เป็น เพราะเราสามารถแนะนำวิธีใช้ให้ครบถ้วนตั้งแต่การเตรียมตัว การดูแลตัวเอง และการฉีดอย่างถูกวิธี เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ หมอจะสอนและคอยดูแลตลอดเวลา หรือจะมาฉีดที่คลินิกก็ได้ คนไข้แค่ต้องเปิดใจและให้ความร่วมมือกับเราในการทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ
ส่วนเรื่องผลลัพธ์นั้น ปากกาลดความอ้วนจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญและลดการสะสมไขมันที่ไม่ต้องการ สิ่งที่สำคัญคือการใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายและการกินอาหารที่เหมาะสม ไม่ยากหรือซับซ้อนเลยค่ะ หมอเชื่อว่าหากคุณตั้งใจและมั่นใจ หมอจะช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเวลาไม่นานค่ะ