เมโสแฟต กับทำเทอมาจ ทำหน้าเล็กลง?
เมโสแฟต กับ ทำเทอมาจ จริงๆ แล้วเป็นคนละวิธีการและมีจุดประสงค์ที่ต่างกันค่ะ แต่ทั้งสองอย่างสามารถช่วยให้หน้าเล็กลงได้ในบางกรณี ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้และผลลัพธ์ที่ต้องการค่ะ
เหมือนกันตรงไหน
- ช่วยให้หน้าเล็กลงได้
ทั้งสองวิธีสามารถช่วยลดขนาดใบหน้าได้ แต่กลไกการทำงานต่างกันค่ะ - เหมาะกับคนที่อยากปรับรูปหน้า
ถ้าคนไข้รู้สึกว่าหน้าดูใหญ่จากไขมันหรือความหย่อนคล้อย ทั้งสองวิธีสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งค่ะ
ต่างกันตรงไหน
- กลไกการทำงาน
- เมโสแฟต: เป็นการใช้ตัวยาเข้าไปสลายไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง หรือกรอบหน้า ไขมันจะถูกขับออกทางระบบน้ำเหลืองค่ะ
- เทอมาจ: ใช้คลื่นวิทยุ (RF) กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ไม่ได้สลายไขมันโดยตรง แต่ช่วยให้ผิวดูเฟิร์มขึ้นค่ะ
- ผลลัพธ์
- เมโสแฟต: ลดไขมันเฉพาะจุดได้ชัดเจนกว่า เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเยอะ เช่น แก้มป่อง เหนียงหนา
- เทอมาจ: ช่วยยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย เหมาะกับคนที่ผิวเริ่มหย่อนคล้อยหรือมีปัญหาแก้มห้อยมากกว่าไขมัน
- ระยะเวลาการเห็นผล
- เมโสแฟต: เห็นผลใน 2-4 สัปดาห์หลังฉีด แต่ต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- เทอมาจ: เห็นผลยกกระชับทันทีหลังทำ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี
ฉีดแฟตสลายไขมัน vs เทอมาจ
หัวข้อ | เมโสแฟตสลายไขมัน | เทอมาจ |
---|---|---|
กลไกการทำงาน | ส่งตัวยาเพื่อสลายไขมันเฉพาะจุด ไขมันจะถูกขับออกทางระบบน้ำเหลือง | ใช้คลื่นวิทยุ (RF) กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย |
เหมาะกับปัญหา | ไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้มป่อง เหนียงหนา | ผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน |
ผลลัพธ์ | ลดไขมันเฉพาะจุด ทำให้หน้าดูเล็กลง | ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวดูเฟิร์มและกระชับขึ้น |
ระยะเวลาการเห็นผล | เห็นผลใน 2-4 สัปดาห์หลังทำ ต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน | เห็นผลทันทีหลังทำ และดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน |
ความเจ็บปวด | เจ็บเล็กน้อย อาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำเล็กน้อยหลังทำ | รู้สึกอุ่นๆ หรือร้อนใต้ผิวขณะทำ อาจมีอาการแดงเล็กน้อยหลังทำ |
ระยะเวลาการทำ | ใช้เวลา 15-30 นาที | ใช้เวลา 30-60 นาที |
การพักฟื้น | ไม่ต้องพักฟื้น แต่ควรดื่มน้ำเยอะๆ และเลี่ยงอาหารมันเพื่อช่วยขับไขมันออก | ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ |
ความถี่ในการทำ | ทำซ้ำทุก 2-4 สัปดาห์จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ | ทำปีละ 1 ครั้ง หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิว |
ข้อจำกัด | ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก แต่ไขมันน้อย | ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเยอะ แต่ผิวไม่ได้หย่อนคล้อย |
ราคาโดยประมาณ | ราคาต่อครั้งไม่สูงมาก แต่ต้องทำหลายครั้ง (ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้) | ราคาสูงกว่า แต่ทำเพียง 1-2 ครั้งต่อปี |
ทำทั้งคู่ได้ไหม
- ถ้าคนไข้มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้มป่องหรือเหนียงเยอะ เมโสแฟต อาจจะเหมาะกว่า
- ถ้าคนไข้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือกรอบหน้าไม่ชัดเจน เทอมาจ จะตอบโจทย์มากกว่า
- ในบางกรณีสามารถทำทั้งสองอย่างร่วมกันได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ