Picosure PRO vs Discovery Pico
| คุณสมบัติ | PicoSure Pro | Discovery Pico |
|---|---|---|
| ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา | อิตาลี |
| ความยาวคลื่น | 755 นาโนเมตร พร้อม Focus Lens Array | 532/1064 นาโนเมตร พร้อมหัว Fractional HP |
| การฟื้นฟู | เหมาะสำหรับรอยดำฝ้ากระ ปรับสีผิว | หน้ากระจ่างใส ลดจุดด่างดำและหลุมสิว |
| เหมาะกับผิวแบบไหน | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย | ผิวมันหรือมีปัญหาหลุมสิว |
| Downtime | พักฟื้นน้อย แดงเล็กน้อย 1-2 วัน | มีรอยเจาะเล็ก ๆ ดูแลผิว 5-7 วัน |
| ผลลัพธ์ที่คาดหวัง | ผิวเรียบเนียน จุดด่างดำและฝ้าดูจางลง | รอยหลุมสิวและเม็ดสีผิดปกติดีขึ้น |
| ระยะเวลาในการรักษา | ประมาณ 20-30 นาที/ครั้ง | ประมาณ 30-40 นาที/ครั้ง |
| ความถี่ในการรักษา | 3-4 สัปดาห์/ครั้ง | 6-8 สัปดาห์/ครั้ง |
| ความปลอดภัย | ผ่านการรับรอง US FDA | ผ่านการรับรองมาตรฐานยุโรป CE |
PicoSure Pro และ Discovery Pico สามารถรักษารอยโรคเหล่านี้ได้เหมือนกัน เนื่องจากทั้งคู่เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Picosecond Laser ซึ่งมีจุดเด่นในการปล่อยพลังงานแสงที่ความเร็วสูงมากจนกระทบกับชั้นผิวในระดับที่สามารถทำลายเม็ดสี (pigment) โดยไม่ส่งผลเสียต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ดี
รอยโรคที่เหมาะกับการทำ Pico Laser
สีผิวสม่ำเสมอ ผิวกระจ่างใส
- ช่วยลดปัญหาเม็ดสีและปรับสมดุลโทนสีผิว
ริ้วรอย หลุมสิวตื้นขึ้น
- กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูอิ่มฟู ลดริ้วรอยและหลุมสิวตื้น
รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน
- กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและรูขุมขนกระชับ
ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง
- ทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ เช่น ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
กำจัดเม็ดสี รอยสัก รอยแผลเป็น
- ทำลายเม็ดสีที่เกิดจากหมึกสัก และปรับโครงสร้างการสร้างคอลลาเจนเพื่อลดรอยแผลเป็น
ข้อควรรู้
แม้ทั้ง 2 เครื่องจะรักษาปัญหาผิวเหล่านี้ได้เหมือนกัน แต่ Discovery Pico อาจมีข้อได้เปรียบเล็กน้อยในกรณีที่ต้องการความหลากหลายของความยาวคลื่น (532/1064 นาโนเมตร) ซึ่งเหมาะกับการรักษาเม็ดสีหลายชนิด รวมถึงรอยสัก ทั้งนี้ผลลัพธ์ต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับแผนการออกแบบการรักษาโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ค่ะ
