ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ตารางเปรียบเทียบ Energy base device เพื่อรักษาหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน

หัวข้อeMattrixPicoRed Touch
เทคโนโลยีRF MicroneedlingPicosecond LaserNon-ablative Fractional Laser
หลักการทำงานใช้เข็มขนาดเล็กร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ สร้างการบาดเจ็บแบบควบคุมเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้แสงเลเซอร์ความเร็วระดับพิโกวินาที แตกตัวเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้ลำแสงเลเซอร์แบบแฟรกชันนัล สร้างความร้อนใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ประสิทธิภาพต่อหลุมสิวดีมากสำหรับหลุมสิวลึก-ตื้น เห็นผลชัดเจนเหมาะกับหลุมสิวตื้น-ปานกลางเหมาะกับหลุมสิวตื้น-ปานกลาง
ระยะพักฟื้น3-5 วัน มีรอยแดงและจุดเลือดออก1-2 วัน มีรอยแดง บวมได้เล็กน้อย1-2 วัน มีรอยแดงเล็กน้อย
จำนวนครั้งที่แนะนำ3-4 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์4-6 ครั้ง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์4-6 ครั้ง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์
ข้อควรระวัง– ห้ามทำขณะมีสิวอักเสบ
– ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด
– ไม่เหมาะกับผิวบอบบาง
– ระวังในผู้ที่แพ้แสงง่าย
– ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด
– ระวังในผู้ที่แพ้แสงง่าย
– ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด
ข้อได้เปรียบ– ประสิทธิภาพสูงในการรักษาหลุมสิวลึก
– กระชับรูขุมขน
– เห็นผลชัดเจน
– ฟื้นตัวเร็ว
– เจ็บน้อย
– รักษาได้หลายปัญหาผิว
– ควบคุมง่าย
– เสี่ยงต่ำ
– เหมาะกับผิวบอบบาง
  1. EMattrix เหมาะสำหรับหลุมสิวที่ลึกมากที่สุด แต่มีระยะพักฟื้นนานกว่า
  2. Pico เหมาะกับการรักษาแบบไม่รุนแรง ฟื้นตัวเร็ว แต่อาจต้องทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผล
  3. Red Touch เป็นทางเลือกที่สมดุล เหมาะกับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ไม่รุนแรงมาก

วิวัฒนาการการรักษาหลุมสิวด้วย Energy Base Device

การรักษาปัญหาหลุมสิวและผิวไม่เรียบเนียนได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจาก Red Touch ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Non-ablative Fractional Laser ที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงต้นปี 2000 นับเป็นนวัตกรรมแรกๆ ที่สามารถรักษาปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยการสร้างจุดความร้อนเล็กๆ ใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

ต่อมาในช่วงกลางปี 2000 เทคโนโลยี RF Microneedling อย่าง EMattrix ได้ถูกพัฒนาขึ้น นำเสนอแนวคิดใหม่ในการผสมผสานระหว่างการใช้เข็มขนาดจิ๋วร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ ทำให้สามารถเข้าถึงชั้นผิวได้ลึกและแม่นยำมากขึ้น เป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะในรายที่มีปัญหารุนแรง

และในช่วงปี 2010 เป็นต้นมา เทคโนโลยี Picosecond Laser หรือ Pico ได้เข้ามาปฏิวัติวงการความงามอีกครั้ง ด้วยความสามารถในการปล่อยพลังงานในระดับพิโกวินาที (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ทำให้สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่มีผลข้างเคียงน้อยลง และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

เทคโนโลยีทั้งสามนี้ แม้จะถูกพัฒนาขึ้นในช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่ยังคงความสำคัญและมีบทบาทในการรักษาที่แตกต่างกันจนถึงปัจจุบัน เปรียบเสมือนอาวุธสามชนิดที่มีจุดแข็งเฉพาะตัว การเลือกใช้หรือผสมผสานเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้การรักษาปัญหาผิวมีประสิทธิภาพสูงสุด ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้รับการรักษาในยุคปัจจุบัน

ความสามารถของเทคโนโลยีทั้งสามนี้ไม่ได้อยู่ที่การแข่งขันว่าอันไหนดีกว่ากัน แต่อยู่ที่การเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทำให้แพทย์มีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายมากขึ้น สามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของผู้รับการรักษาแต่ละราย นับเป็นยุคทองของการรักษาปัญหาผิวที่มีทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยควบคู่กันไป

acne-scar-laser-comparison-emattrix-pico-redtouch

อยากรักษาหลุมสิว ทำเครื่องไหนก่อนดี

Red Touch Laser (เริ่มต้น)

    • เหตุผลที่ควรเริ่มจาก Red Touch
      • เป็นการรักษาที่อ่อนโยนต่อผิวที่สุด
      • ความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับผิวบอบบาง
      • เหมาะสำหรับประเมินการตอบสนองของผิว
      • คนไข้ได้เรียนรู้การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์

    Pico Laser (ขั้นกลาง)

      • เหตุผลที่ควรทำต่อจาก Red Touch
        • ประสิทธิภาพสูงขึ้นแต่ยังคงอ่อนโยน
        • สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย
        • เหมาะกับหลุมสิวระดับตื้นถึงปานกลาง
        • ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอไปพร้อมกัน

      eMattrix (ขั้นสุดท้าย)

        • เหตุผลที่ควรทำเป็นขั้นสุดท้าย
          • เป็นการรักษาที่เข้มข้นที่สุด
          • เหมาะกับหลุมสิวลึกที่ยังไม่ตอบสนองต่อการรักษาก่อนหน้า
          • หลังทำต้องการระยะพักฟื้นนานกว่าแบบอื่นๆ
          • คนไข้ควรมีความเข้าใจในการดูแลผิวหลังทำที่ดีแล้ว
          • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด

        ข้อแนะนำเพิ่มเติม

        1. ควรประเมินผลการรักษาหลังทำแต่ละวิธี 2-3 ครั้ง ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้วิธีที่เข้มข้นขึ้น
        2. บางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องทำครบทั้ง 3 วิธี ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิว
        3. อาจพิจารณาใช้การรักษาแบบผสมผสาน (Combination) ในบางกรณี โดยเว้นระยะห่างที่เหมาะสม
        4. ควรมีการถ่ายภาพก่อน-หลังการรักษาทุกครั้งเพื่อติดตามผล
        5. การดูแลผิวพื้นฐานและการป้องกันแสงแดดมีความสำคัญมากในทุกขั้นตอนการรักษา

        ทั้งนี้ การเลือกวิธีการรักษาและลำดับขั้นตอนอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับ

        • ระดับความรุนแรงของหลุมสิว
        • ความไวของผิว
        • ความพร้อมในการพักฟื้น
        • งบประมาณ
        • เป้าหมายการรักษา

        จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล

        เลเซอร์รักษาหลุมสิว ต่างเทคโนโลยี ต่างจุดเด่น รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อการรักษาที่สมบูรณ์