ตารางเปรียบเทียบ Energy base device เพื่อรักษาหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน
หัวข้อ | eMattrix | Pico | Red Touch |
---|---|---|---|
เทคโนโลยี | RF Microneedling | Picosecond Laser | Non-ablative Fractional Laser |
หลักการทำงาน | ใช้เข็มขนาดเล็กร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ สร้างการบาดเจ็บแบบควบคุมเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน | ใช้แสงเลเซอร์ความเร็วระดับพิโกวินาที แตกตัวเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน | ใช้ลำแสงเลเซอร์แบบแฟรกชันนัล สร้างความร้อนใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน |
ประสิทธิภาพต่อหลุมสิว | ดีมากสำหรับหลุมสิวลึก-ตื้น เห็นผลชัดเจน | เหมาะกับหลุมสิวตื้น-ปานกลาง | เหมาะกับหลุมสิวตื้น-ปานกลาง |
ระยะพักฟื้น | 3-5 วัน มีรอยแดงและจุดเลือดออก | 1-2 วัน มีรอยแดง บวมได้เล็กน้อย | 1-2 วัน มีรอยแดงเล็กน้อย |
จำนวนครั้งที่แนะนำ | 3-4 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์ | 4-6 ครั้ง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ | 4-6 ครั้ง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ |
ข้อควรระวัง | – ห้ามทำขณะมีสิวอักเสบ – ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด – ไม่เหมาะกับผิวบอบบาง | – ระวังในผู้ที่แพ้แสงง่าย – ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด | – ระวังในผู้ที่แพ้แสงง่าย – ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด |
ข้อได้เปรียบ | – ประสิทธิภาพสูงในการรักษาหลุมสิวลึก – กระชับรูขุมขน – เห็นผลชัดเจน | – ฟื้นตัวเร็ว – เจ็บน้อย – รักษาได้หลายปัญหาผิว | – ควบคุมง่าย – เสี่ยงต่ำ – เหมาะกับผิวบอบบาง |
- EMattrix เหมาะสำหรับหลุมสิวที่ลึกมากที่สุด แต่มีระยะพักฟื้นนานกว่า
- Pico เหมาะกับการรักษาแบบไม่รุนแรง ฟื้นตัวเร็ว แต่อาจต้องทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผล
- Red Touch เป็นทางเลือกที่สมดุล เหมาะกับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ไม่รุนแรงมาก
วิวัฒนาการการรักษาหลุมสิวด้วย Energy Base Device
การรักษาปัญหาหลุมสิวและผิวไม่เรียบเนียนได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจาก Red Touch ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Non-ablative Fractional Laser ที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงต้นปี 2000 นับเป็นนวัตกรรมแรกๆ ที่สามารถรักษาปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยการสร้างจุดความร้อนเล็กๆ ใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ต่อมาในช่วงกลางปี 2000 เทคโนโลยี RF Microneedling อย่าง EMattrix ได้ถูกพัฒนาขึ้น นำเสนอแนวคิดใหม่ในการผสมผสานระหว่างการใช้เข็มขนาดจิ๋วร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ ทำให้สามารถเข้าถึงชั้นผิวได้ลึกและแม่นยำมากขึ้น เป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะในรายที่มีปัญหารุนแรง
และในช่วงปี 2010 เป็นต้นมา เทคโนโลยี Picosecond Laser หรือ Pico ได้เข้ามาปฏิวัติวงการความงามอีกครั้ง ด้วยความสามารถในการปล่อยพลังงานในระดับพิโกวินาที (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ทำให้สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่มีผลข้างเคียงน้อยลง และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
เทคโนโลยีทั้งสามนี้ แม้จะถูกพัฒนาขึ้นในช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่ยังคงความสำคัญและมีบทบาทในการรักษาที่แตกต่างกันจนถึงปัจจุบัน เปรียบเสมือนอาวุธสามชนิดที่มีจุดแข็งเฉพาะตัว การเลือกใช้หรือผสมผสานเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้การรักษาปัญหาผิวมีประสิทธิภาพสูงสุด ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้รับการรักษาในยุคปัจจุบัน
ความสามารถของเทคโนโลยีทั้งสามนี้ไม่ได้อยู่ที่การแข่งขันว่าอันไหนดีกว่ากัน แต่อยู่ที่การเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทำให้แพทย์มีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายมากขึ้น สามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของผู้รับการรักษาแต่ละราย นับเป็นยุคทองของการรักษาปัญหาผิวที่มีทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยควบคู่กันไป
อยากรักษาหลุมสิว ทำเครื่องไหนก่อนดี
Red Touch Laser (เริ่มต้น)
- เหตุผลที่ควรเริ่มจาก Red Touch
- เป็นการรักษาที่อ่อนโยนต่อผิวที่สุด
- ความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับผิวบอบบาง
- เหมาะสำหรับประเมินการตอบสนองของผิว
- คนไข้ได้เรียนรู้การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์
Pico Laser (ขั้นกลาง)
- เหตุผลที่ควรทำต่อจาก Red Touch
- ประสิทธิภาพสูงขึ้นแต่ยังคงอ่อนโยน
- สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย
- เหมาะกับหลุมสิวระดับตื้นถึงปานกลาง
- ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอไปพร้อมกัน
eMattrix (ขั้นสุดท้าย)
- เหตุผลที่ควรทำเป็นขั้นสุดท้าย
- เป็นการรักษาที่เข้มข้นที่สุด
- เหมาะกับหลุมสิวลึกที่ยังไม่ตอบสนองต่อการรักษาก่อนหน้า
- หลังทำต้องการระยะพักฟื้นนานกว่าแบบอื่นๆ
- คนไข้ควรมีความเข้าใจในการดูแลผิวหลังทำที่ดีแล้ว
- ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- ควรประเมินผลการรักษาหลังทำแต่ละวิธี 2-3 ครั้ง ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้วิธีที่เข้มข้นขึ้น
- บางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องทำครบทั้ง 3 วิธี ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิว
- อาจพิจารณาใช้การรักษาแบบผสมผสาน (Combination) ในบางกรณี โดยเว้นระยะห่างที่เหมาะสม
- ควรมีการถ่ายภาพก่อน-หลังการรักษาทุกครั้งเพื่อติดตามผล
- การดูแลผิวพื้นฐานและการป้องกันแสงแดดมีความสำคัญมากในทุกขั้นตอนการรักษา
ทั้งนี้ การเลือกวิธีการรักษาและลำดับขั้นตอนอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับ
- ระดับความรุนแรงของหลุมสิว
- ความไวของผิว
- ความพร้อมในการพักฟื้น
- งบประมาณ
- เป้าหมายการรักษา
จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล