สิวสเตียรอยด์มีลักษณะที่เด่นชัดหลายอย่างค่ะ ที่สังเกตได้ง่ายๆ คือ:
- มักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์
- มักมีสีแดงสด และอาจมีหนองสีขาวอยู่ภายใน
- มักเกิดเป็นกลุ่มๆ หรือกระจายเป็นบริเวณกว้าง
- ผิวหนังรอบๆ อาจบางลงและมีรอยแตกเป็นลายๆ
- อาจมีอาการคัน แสบร้อน หรือระคายเคืองร่วมด้วย
- เมื่อบีบหรือแตะ อาจรู้สึกเจ็บมากกว่าสิวธรรมดา
สิ่งสำคัญคือ สิวเหล่านี้มักเกิดในบริเวณที่เคยทายา หรือครีมที่มีสารสเตียรอยด์มาก่อน หรือค่ะ เช่น ใบหน้า ลำคอ หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
หลายคนมักถามหมอว่า สิวมีกลิ่นเหม็นแรงมาก เพราะมีการกดเอง บีบเอง แบบนี้คือสิวสเตียรอยด์ด้วยไหมคะ?
คำถามนี้น่าสนใจมากนะคะ สิวที่มีกลิ่นเหม็นกว่าปกตินั้น มักจะเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรงที่เรียกว่า “สิวหัวช้าง” หรือในทางการแพทย์เรียกว่า “Hidradenitis Suppurativa” ค่ะ
ลักษณะสำคัญของสิวประเภทนี้คือ:
- มักเกิดในบริเวณที่มีต่อมเหงื่อและต่อมไขมันมาก เช่น รักแร้ ขาหนีบ ก้น หรือใต้ราวนม
- เริ่มจากตุ่มแดงอักเสบ แล้วพัฒนาเป็นก้อนใต้ผิวหนังที่เจ็บมาก
- ก้อนเหล่านี้อาจแตกและมีหนองไหลออกมา ซึ่งมักมีกลิ่นเหม็น
- อาจเกิดเป็นโพรงใต้ผิวหนังที่เชื่อมต่อกัน
- เป็นภาวะเรื้อรัง มักเกิดซ้ำในบริเวณเดิม
สาเหตุของกลิ่นเหม็นมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียในโพรงหนองใต้ผิวหนัง ร่วมกับการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสารคัดหลั่งต่างๆ
การรักษาสิวทั้ง 2 ประเภทนี้ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์และคนไข้อย่างต่อเนื่อง อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ยาลดการอักเสบ