ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

สิวสเตียรอยด์มีลักษณะที่เด่นชัดหลายอย่างค่ะ ที่สังเกตได้ง่ายๆ คือ:

  1. มักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์
  2. มักมีสีแดงสด และอาจมีหนองสีขาวอยู่ภายใน
  3. มักเกิดเป็นกลุ่มๆ หรือกระจายเป็นบริเวณกว้าง
  4. ผิวหนังรอบๆ อาจบางลงและมีรอยแตกเป็นลายๆ
  5. อาจมีอาการคัน แสบร้อน หรือระคายเคืองร่วมด้วย
  6. เมื่อบีบหรือแตะ อาจรู้สึกเจ็บมากกว่าสิวธรรมดา

สิ่งสำคัญคือ สิวเหล่านี้มักเกิดในบริเวณที่เคยทายา หรือครีมที่มีสารสเตียรอยด์มาก่อน หรือค่ะ เช่น ใบหน้า ลำคอ หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

หลายคนมักถามหมอว่า สิวมีกลิ่นเหม็นแรงมาก เพราะมีการกดเอง บีบเอง แบบนี้คือสิวสเตียรอยด์ด้วยไหมคะ?

คำถามนี้น่าสนใจมากนะคะ สิวที่มีกลิ่นเหม็นกว่าปกตินั้น มักจะเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรงที่เรียกว่า “สิวหัวช้าง” หรือในทางการแพทย์เรียกว่า “Hidradenitis Suppurativa” ค่ะ

ลักษณะสำคัญของสิวประเภทนี้คือ:

  1. มักเกิดในบริเวณที่มีต่อมเหงื่อและต่อมไขมันมาก เช่น รักแร้ ขาหนีบ ก้น หรือใต้ราวนม
  2. เริ่มจากตุ่มแดงอักเสบ แล้วพัฒนาเป็นก้อนใต้ผิวหนังที่เจ็บมาก
  3. ก้อนเหล่านี้อาจแตกและมีหนองไหลออกมา ซึ่งมักมีกลิ่นเหม็น
  4. อาจเกิดเป็นโพรงใต้ผิวหนังที่เชื่อมต่อกัน
  5. เป็นภาวะเรื้อรัง มักเกิดซ้ำในบริเวณเดิม

สาเหตุของกลิ่นเหม็นมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียในโพรงหนองใต้ผิวหนัง ร่วมกับการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสารคัดหลั่งต่างๆ

สัญญาณที่ดีของการรักษาสิวคือ สิวกดได้น้อยลงทุกๆครั้งที่เข้ารับบริการ

การรักษาสิวทั้ง 2 ประเภทนี้ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์และคนไข้อย่างต่อเนื่อง อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ยาลดการอักเสบ

รักษาสิว ราคา
สิวสเตียรอยด์เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์เป็นเวลานาน