ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ปากกาคุมน้ำหนัก คืออะไร

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

ลดน้ำหนัก

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

รู้จักหมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ใบอนุญาต ว.49465

แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าและการชะลอวัย ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง ติดตามผลการรักษา
เลือกอ่านเนื้อหา
pie title กลุ่มผู้ใช้ยาปากกาลดน้ำหนักในไทย
    "ผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะอ้วน" : 55
    "ผู้ชายวัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะอ้วน" : 35
    "ผู้ป่วยโรคอ้วนและโรคแทรกซ้อน" : 10
อ้างอิง https://mwi.anamai.moph.go.th/web-upload/migrated/files/mwi/n1674_a678ca57e7a05b2bf25b0c2f292597bc_article_20190618122305.pdf

แนวทางมาตรฐานการใช้ปากกาลดน้ำหนัก

  1. เกณฑ์ผู้ใช้
  • BMI ≥30 หรือ BMI ≥27 ร่วมโรคร่วม
  • ประเมิน BMI/โรคร่วมก่อนเริ่มยา
  1. ปรับพฤติกรรมควบคู่
  • โภชนาการ ออกกำลังกาย การนอน/จัดการความเครียด
  • ทำต่อเนื่องตลอดการรักษา
  1. การเริ่มยาและการติดตาม
  • เริ่มขนาดต่ำ ไต่ระดับตามการทนยา
  • นัดติดตามอาการข้างเคียงและน้ำหนัก
  1. เกณฑ์หยุดยา
  • น้ำหนักลด <5% ภายใน 6 เดือน ให้พิจารณาหยุด/ปรับแผน
  1. เฝ้าระวังความปลอดภัย
  • ระบบทางเดินอาหาร ตับอ่อน ตับ/ไต ต่อมไทรอยด์ การมองเห็น
  • แจ้งแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ
  1. หลักการรักษา
  • เป็นการรักษาระยะยาวภายใต้การดูแลแพทย์
  • ไม่ใช่ “ทางลัด” เพื่อลดน้ำหนัก

คำนวณ BMI เพื่อนำข้อมูลปรึกษาแพทย์

เกณฑ์ค่า BMI สำหรับคนไทย (WHO – Asia Pacific)

BMI (kg/m²) เกณฑ์ ความเสี่ยง
น้อยกว่า 18.50 น้ำหนักน้อย / ผอม มากกว่าคนปกติ
18.50 – 22.90 ปกติ (สุขภาพดี) เท่าคนปกติ
23.00 – 24.90 ท้วม / โรคอ้วนระดับ 1 อันตรายระดับ 1
25.00 – 29.90 อ้วน / โรคอ้วนระดับ 2 อันตรายระดับ 2
มากกว่า 30.00 อ้วนมาก / โรคอ้วนระดับ 3 อันตรายระดับ 3

ปากกาลดน้ำหนักมีมานานแค่ไหน

ปากกาลดน้ำหนักเริ่มมีอยู่ในตลาดยาประมาณทศวรรษที่ผ่านมา โดยเริ่มที่ต่างประเทศ ทางอเมริกา ยุโรปจะเป็นที่รู้จักและมีการใช้กันแพร่หลาย แต่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมากในช่วง 5-10 ปีหลัง เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนา ที่มุ่งเน้นไปที่การรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีน้ำหนักเกิน

ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร?
ปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen) เป็นอุปกรณ์ที่บรรจุยาในรูปแบบปากกา ใช้งานง่าย โดยทั่วไปแล้วมันเป็นฮอร์โมนกลุ่ม GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ที่จำเพาะเจาะจง เช่น Semaglutide หรือ Liraglutide ซึ่งใช้ในการรักษาภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน

ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร?

ปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen) เป็นอุปกรณ์ที่บรรจุยาในรูปแบบปากกา ใช้งานง่าย โดยทั่วไปแล้วมันเป็นฮอร์โมนกลุ่ม GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ที่จำเพาะเจาะจง เช่น Semaglutide หรือ Liraglutide ซึ่งใช้ในการรักษาภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน

ปากกาลดน้ำหนักทำงานอย่างไร

ปากกาลดน้ำหนักทำงานโดยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ยากลุ่มนี้นี้มักทำงานโดยการ:

  1. การลดความอยากอาหาร: GLP-1 มีผลทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและกินน้อยลง โดยผลลัพธ์นี้เกิดจากการที่ฮอร์โมนกระตุ้นสมองทำให้รู้สึกอิ่ม
  2. ชะลอการเริ่มย่อยอาหารในท้อง: ยาจะชะลอการเคลื่อนไหวของอาหารจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้, ทำให้รู้สึกอิ่มยาวนานกว่า
  3. ควบคุมการผลิตกลูโคสของตับ: ยาช่วยลดระดับกลูโคสในเลือดโดยการเพิ่มความไวของเนื้อเยื่อต่างๆ ต่ออินซูลินและลดการผลิตกลูโคสของตับ
  4. เสริมสร้างการใช้พลังงาน: GLP-1 ยังสามารถเพิ่มการใช้พลังงานในร่างกาย ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก
ปากกาลดน้ำหนักทำงานโดยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ยากลุ่มนี้นี้มักทำงานโดยการ:

การลดความอยากอาหาร: GLP-1 มีผลทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและกินน้อยลง โดยผลลัพธ์นี้เกิดจากการที่ฮอร์โมนกระตุ้นสมองทำให้รู้สึกอิ่ม
ชะลอการเริ่มย่อยอาหารในท้อง: ยาจะชะลอการเคลื่อนไหวของอาหารจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้, ทำให้รู้สึกอิ่มยาวนานกว่า
ควบคุมการผลิตกลูโคสของตับ: ยาช่วยลดระดับกลูโคสในเลือดโดยการเพิ่มความไวของเนื้อเยื่อต่างๆ ต่ออินซูลินและลดการผลิตกลูโคสของตับ
เสริมสร้างการใช้พลังงาน: GLP-1 ยังสามารถเพิ่มการใช้พลังงานในร่างกาย ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก

การใช้ปากกาลดน้ำหนักจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำและควบคุมดูแลจากแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยสูงสุด

ปากกาลดน้ำหนัก หรือปากกาคุมหิว เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน: หรือมีดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30 ซึ่งถือว่ามีภาวะน้ำหนักเกิน
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่างๆ: เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักและต้องการตัวช่วย: เพื่อประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก
  • ผู้ที่ต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ: ช่วยควบคุมความอยากอาหารและพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม
  • ผู้ที่ใช้วิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล: เช่น การใช้ยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • ผู้ที่ต้องการวิธีลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย: ที่ไม่มีผลข้างเคียงและไม่กลับมาโยโย่
ผู้ที่มีนิสัยชอบกินจุกจิก กินไม่หยุด หิวบ่อย:
และต้องการลดพฤติกรรมการกินเหล่านี้ให้น้อยลง

เช็คเบื้องต้น ว่าปากกาคุมหิว เหมาะกับเราไหม

  1. ผู้ที่มีภาวะอ้วน:
    • ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30
  2. ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน:
    • ดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ระหว่าง 27-29
  3. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
  4. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก เช่น:
    • เบาหวาน
    • ความดันโลหิตสูง
    • ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
    • ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ
  5. ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
  6. ผู้ที่มีนิสัยชอบกินจุกจิก กินไม่หยุด หิวบ่อย:
    • และต้องการลดพฤติกรรมการกินเหล่านี้ให้น้อยลง

ปากกาลดความอ้วน Wegovy

wegovy ปากกาลดความอ้วน ใช้ยังไง ราคาเท่าไหร่
ปากกา wegovy ลดความอ้วน ราคาเท่าไหร่ ใช้ยังไง
Ozempic™Wegovy™
สารออกฤทธิ์:SemaglutideSemaglutide
รูปแบบการฉีด:ฉีดใต้ผิวหนังฉีดใต้ผิวหนัง
ขนาดบรรจุ:1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม1 ปากกา (ขนาด 2.4 mg/1.5 ml) ต่อสัปดาห์
ขนาดยาที่ปรับได้:0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 2 mg0.25 mg, 0.5 mg, 1 mg, 1.7 mg, 2.4 mg
ความถี่ในการฉีด:อาทิตย์ละ 1 ครั้งอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
ข้อดี:– ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าแบบปกติ
– เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา
– คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก
– ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค
– ไม่รบกวนการใช้ชีวิต หรืออ่อนเพลียง่าย
– ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง
– หลังหยุดยา ไม่ทำให้น้ำหนักกลับมาเหมือนเดิม
– ผ่าน อย.
– ลดน้ำหนักได้ดีมากด้วยขนาดยา 2.4 mg
– ใช้ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์ได้
– ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงด้านการลดน้ำหนัก
– คุมหิว ลดภาวะอยากอาหาร
– ผ่าน อย. มีงานวิจัย
– ผลข้างเคียงคล้าย Ozempic (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน)

ปากกาคุมหิว Saxenda VS Ozempic

Saxenda®Ozempic™
สารออกฤทธิ์: Liraglutideสารออกฤทธิ์: Semaglutide
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนังรูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง
ขนาดบรรจุ: 5 ปากกา (แต่ละด้ามบรรจุ 3 ml)ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.6mg, 1.2mg, 1.8mg, 2.4mg, 3.0mgขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg
ความถี่ในการฉีด: ทุกวันความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
ข้อดี:
– ลดน้ำหนักได้เร็ว ปลอดภัย
– คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก
– ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค
– ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ
– ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง
– หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม
– ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ
ข้อดี:
– ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า
– เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา
– คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก
– ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค
– ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ
– ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง
– หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม
– ผ่าน อย. มีผลวิจัยรองรับ
trulicity ราคา
ปากกาคุมหิว trulicity

ปากกาคุมผิว Trulicity VS Ozempic

TrulicityOzempic
สารออกฤทธิ์: Dulaglutideสารออกฤทธิ์: Semaglutide
รูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนังรูปแบบการฉีด: ฉีดใต้ผิวหนัง
ขนาดบรรจุ: 4 ด้าม (แต่ละด้ามบรรจุ 0.5 ml)ขนาดบรรจุ: 1 ปากกา และ เข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง 4 เข็ม
ขนาดยาที่ปรับได้: 0.75mg, 1.5mgขนาดยาที่ปรับได้: 0.25mg, 0.5mg, 1mg, 2mg
ความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้งความถี่ในการฉีด: อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
ข้อดี:
– ควบคุมความอยากอาหาร
– ลดน้ำหนัก (โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย)
– ฉีดสัปดาห์ละครั้ง
– ผลข้างเคียงน้อย
– ผ่าน อย. ไทย
ข้อดี:
– ลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า
– เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม และไม่มีเวลา
– คุมหิวได้ดี ลดการกินจุกจิก
– ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่โยโย่เอฟเฟค
– ไม่มีอาการใจสั่น หรือนอนไม่หลับ
– ทำให้อิ่มนาน ทานอาหารน้อยลง
– หลังหยุดยา ไม่ทำให้อ้วนกว่าเดิม
– ผ่าน อย. ไทย

ปากกาลดความอ้วน Mounjaro VS Wegovy

Mounjaro (tirzepatide)Wegovy (semaglutide)
ปีที่ได้รับอนุมัติ Thai FDA31 กรกฎาคม 25673 สิงหาคม 2566
วิธีการใช้ฉีดสัปดาห์ละครั้งฉีดสัปดาห์ละครั้ง
ช่วงขนาดยา2.5 – 15.0 มก.0.25 – 2.4 มก.
เป้าหมายของการออกฤทธิ์GLP-1 และ GIPGLP-1
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก อาเจียนคลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน ท้องผูก
ผลลดน้ำหนักเฉลี่ย (*แล้วแต่บุคคล)ลดน้ำหนักเฉลี่ย 22.5% หลัง 72 สัปดาห์ (ขนาด 15 มก.)ลดน้ำหนักเฉลี่ย 14.9% หลัง 68 สัปดาห์ (ขนาด 2.4 มก.)

ข้อควรระวัง ปากกาคุมหิว

  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์
  • ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักสำหรับทุกคน และควรใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
  • อาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

Dulaglutide, Semaglutide, Liraglutide เป็นยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonists เป็นยาที่ใช้รักษาเบาหวานและลดน้ำหนัก แต่ก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับยาอื่นๆ โดยสรุปได้ดังนี้

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:

  • คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย: เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด แต่อาจบรรเทาลงได้เมื่อร่างกายปรับตัว
  • ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ: โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาลดน้ำตาลชนิดอื่นร่วมด้วย ควรสังเกตอาการ เช่น เหงื่อออก ใจสั่น หน้ามืด

ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบได้น้อย):

  • ตับอ่อนอักเสบ: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ลิ้นปี่ร้าวไปหลัง
  • มะเร็งไทรอยด์: ห้ามใช้หากมีประวัติส่วนตัวหรือครอบครัวเป็นมะเร็งชนิดนี้
  • นิ่วในถุงน้ำดี: มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องใต้ชายโครงขวาร้าวไปสะบักขวา
  • ชีพจรเต้นเร็ว
  • ไตวายเฉียบพลัน: พบได้น้อย มักเกิดในผู้ที่ขาดน้ำร่วมด้วย
  • ภาวะเบาหวานขึ้นตาเลวลง: อาจทำให้ตาพร่ามัวหรือตาบอดได้

ข้อควรระวัง:

  • ควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
  • แจ้งแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ
  • ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์หรือเภสัชกร

ปากกาคุมหิว ราคาเท่าไหร่

โปรแกรมปากกาคุมหิว คุมน้ำหนักราคา (บาท)
Mounjaro25,000
Wegovy17,000
Ozempic17,000
Trulicity14,000
ปากกา Mounjaro 2-5mg ราคาเท่าไหร่ ซื้อที่ไหน คลินิก กรุงเทพ

MOUNJARO 2.5 MG เหมาะกับคนที่ใช้ครั้งแรก

  • 1 ชุด 25,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
  • 2 ชุด 46,000.-
  • 3 ชุด 63,000.-

MOUNJARO 5 MG

  • 1 ชุด 29,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
  • 2 ชุด 54,000.-
  • 3 ชุด 75,000.-
ปากกา wegovy ลดความอ้วน ราคาเท่าไหร่

WEGOVY 0.5 MG เหมาะกับคนที่ใช้ครั้งแรก

  • 1 ชุด 17,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
  • 2 ชุด 30,000.-
  • 3 ชุด 39,000.-

WEGOVY 1 MG

  • 1 ชุด 19,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
  • 2 ชุด 34,000.-
  • 3 ชุด 45,000.-
ปากกา ozempic ราคาเท่าไหร่ กรุงเทพ ซื้อที่ไหน

OZEMPIC 0.5 MG เหมาะกับคนที่ใช้ครั้งแรก

  • 1 ชุด 17,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
  • 2 ชุด 30,000.-
  • 3 ชุด 39,000.-

OZEMPIC 1 MG

  • 1 ชุด 19,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
  • 2 ชุด 34,000.-
  • 3 ชุด 45,000.-

ตำแหน่งการฉีดปากกาคุมน้ำหนัก

ฉีดปากกาลดน้ำหนักตรงจุดไหน

ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดได้แก่

  1. หน้าท้อง (Abdomen):
    • บริเวณรอบ ๆ สะดือแต่ควรห่างจากสะดือประมาณ 2 นิ้ว
    • หลีกเลี่ยงการฉีดในบริเวณที่มีแผลหรือแผลเป็น
  2. ต้นขาด้านหน้า (Front of the Thighs):
    • บริเวณกลาง ๆ ด้านหน้าและด้านข้างของต้นขา
    • ควรเปลี่ยนจุดฉีดทุกครั้งเพื่อลดการด้านของเนื้อเยื่อ
  3. ต้นแขน (Upper Arm):
    • ด้านหลังของต้นแขนเหนือข้อศอกถึงไหล่
    • ต้องมีคนช่วยฉีดถ้าฉีดเองทำไม่ได้

ข้อห้าม

  • ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous):
    • การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำไม่เหมาะสำหรับยาที่ออกแบบมาให้ใช้แบบ subcutaneous และอาจทำให้เกิดอันตรายได้
  • ห้ามฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular):
    • การฉีดเข้ากล้ามเนื้ออาจทำให้ยาไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและอาจเกิดการเจ็บปวดหรือบาดเจ็บได้

การปฏิบัติที่ถูกต้อง

  • ล้างมือก่อนและหลังการฉีดยา
  • ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณที่ต้องการฉีด
  • ใช้เข็มที่สะอาดและปลอดเชื้อ (จำเป็นต้องใช้เข็มใหม่ทุกครั้ง)
  • ฉีดยาในมุมที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
ขั้นตอนการฉีด ozempic
ขั้นตอนการใช้งาน มีความคล้ายกันในทุกยี่ห้อ
ปากกาคุมน้ำหนัก ใช้ยังไง

ขั้นตอนการใช้ปากกาคุมหิว Ozempic

เตรียมปากกา

  • อ่านฉลากเพื่อยืนยันว่าปากกาของคุณบรรจุ Ozempic®
  • ตรวจสอบว่ายาในปากกามีลักษณะใสและไม่มีสี

ติดเข็มใหม่

  • ฉีกกระดาษที่ปิดออก
  • กดและหมุนเข็มจนแน่น
  • ดึงฝาครอบเข็มทั้งสองฝาออก

ตรวจสอบว่ามีตัวยาไหลออกมา

  • หมุนตัวเลือกปริมาณจนกว่าตัวนับปริมาณจะแสดงสัญลักษณ์ตรวจสอบการไหล
  • กดปุ่มปริมาณค้างไว้จนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดง 0
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีหยดปรากฏที่ปลายเข็ม

เลือกปริมาณการปล่อยยา

  • หมุนตัวเลือกปริมาณจนกระทั่งตัวนับปริมาณแสดงปริมาณที่คุณต้องฉีด (0.25 มก. หรือ 0.5 มก. สำหรับปากกาฉลากแดง, 1 มก. สำหรับปากกาฉลากน้ำเงิน และ 2 มก. สำหรับปากกาฉลากเหลือง)

ฉีดตัวยาเข้าร่างกาย

  • สอดเข็มเข้าไปในผิวหนังของคุณ
  • กดปุ่มปริมาณค้างไว้
  • หลังจากตัวนับปริมาณแสดง 0 ให้ค่อยๆ นับถึง 6
  • ถอนเข็มออกจากผิวหนังของคุณ

คำแนะนำหลังฉีด

  • ถอนเข็มออกอย่างระมัดระวังและใส่ในภาชนะทิ้งของมีคม
  • ใส่ฝาปิดปากกากลับที่ปากกา

การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนัก

การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของยา นี่คือวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง

  • เก็บตัวยาฉีดที่ยังไม่ได้เปิดใช้:
    • เก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส
    • ห้ามเก็บตัวยาในช่องแช่แข็ง
  • หลังจากเปิดใช้แล้ว:
    • เก็บที่อุณหภูมิห้อง โดยควรเป็นอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส
    • ตัวยาจะมีอายุการใช้งาน 1 เดือนหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
  • คำแนะนำเพิ่มเติมในการเก็บรักษา:
    • เก็บยาให้พ้นมือเด็ก
    • ห้ามใช้ยานี้หากสารละลายขุ่นไม่ใสหรือมีสีปนเปื้อน
    • สวมปลอกยาทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
    • ปากกาสำหรับฉีดแต่ละด้ามให้ใช้กับคนไข้บุคคลเดียวเท่านั้น ห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่น แม้จะมีการเปลี่ยนหัวเข็มก็ตาม

การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนักตามคำแนะนำนี้จะช่วยให้ตัวยาสามารถคงคุณภาพและประสิทธิภาพในการรักษาได้มากที่สุด

นัดหมายเพื่อปรึกษาและเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงของคุณ

เริ่มต้นเส้นทางสู่รูปร่างและสุขภาพที่ดีกว่ากับโปรแกรม Mounjaro ที่ D’ Lovevery Clinic วันนี้ ทีมแพทย์ของเราพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณโดยเฉพาะ

ติดต่อเราได้ที่

  • สาขาพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง (ซอย 127/3 ติดกับศูนย์ Tesla) ติดต่อ 064-424-6526
  • สาขา Crystal Design Center (CDC) (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ติดต่อ 095-236-4546

ยาฉีดลดน้ำหนัก…ใช้ยังไง? เริ่มต้นโดสเท่าไหร่? ต้องปรับยาอย่างไร? แล้วถ้ารู้สึกว่ายาไม่แรงพอ จะปรับเพิ่มขนาดเองเลยได้ไหม?

วันนี้หมอจะมา สรุปวิธีใช้ Wegovy แบบง่ายๆ ให้อ่านกันค่ะ
หมออยากให้ทุกคนใช้อย่างถูกวิธี ปลอดภัย และเห็นผลดีที่สุดนะคะ
อย่าลืมว่าแม้ยานี้จะใช้สะดวก แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เสมอค่ะ
ไม่แนะนำให้ปรับขนาดยาเอง เพราะอาจมีผลข้างเคียงหรืออันตรายได้นะคะ

ต่อไปนี้คือแนวทางเบื้องต้นที่หมอจัดเรียงให้สำหรับคนที่สนใจหรือกำลังจะเริ่มใช้ Wegovy รับรองเข้าใจง่ายและใช้งานได้จริงค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

คำถามว่า Wegovy หรือตัว Ozempic อะไร ‘ดีกว่า’ หรือช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่า ขึ้นกับวัตถุประสงค์การใช้งานและข้อบ่งใช้ค่ะ

  • Wegovy ได้รับการจดทะเบียนโดยตรงสำหรับ “ใช้เพื่อลดน้ำหนัก” โดยเฉพาะ ปริมาณยาที่ใช้จะสูงกว่าตัว Ozempic และมีงานวิจัยระบุว่าช่วยให้น้ำหนักลดได้มากกว่าการใช้ Ozempic ในขนาดยาทั่วไปของการรักษาเบาหวาน
  • Ozempic แม้จะเป็นตัวยาเดียวกัน (semaglutide) แต่ปริมาณยาน้อยกว่า เน้นรักษาเบาหวาน ลด HbA1c และอาจมีน้ำหนักลดเป็นผลพลอยได้ในคนบางกลุ่มเท่านั้น

ดังนั้น ถ้าเป้าหมายหลักคือ “ลดน้ำหนัก” Wegovy จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะขนาดยามากกว่าและผ่านการศึกษาสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่ทั้งสองอย่างนี้ต้องใช้ด้วยคำแนะนำและการตรวจติดตามจากแพทย์เท่านั้น และยังต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องอาหารและการออกกำลังกายร่วมด้วยเสมอค่ะ

เลือกอะไร “ดีกว่า” ขึ้นอยู่กับข้อบ่งใช้ปัญหาสุขภาพเฉพาะบุคคล การมาพูดคุยรับคำแนะนำกับแพทย์ ประเมินสุขภาพ น้ำหนัก โรคประจำตัวโดยละเอียดก่อน จะเป็นการดีที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ไม่คิดว่าจะได้ตอบคำถามอะไรแบบนี้เลยค่ะ 🙂 แต่คนไข้สงสัยจริงจังมาก คลินิกหมอมีตรวจการขาดวิตามิน ตรวจฮอร์โมน เลยได้รับคำถามเกี่ยวกับเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้หมอสรุปให้ทีละประเด็นค่ะ

ประเด็นที่ 1 เลือดแต่ละกรุ๊ปมีรสชาติต่างกันไหม ที่บอกว่ายุงชอบเลือดกรุ๊ปนั้นกรุ๊ปนี้เป็นพิเศษ นั้นจริงไหม?

ประเด็นที่ 2 คนเป็นเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง คือเลือดต้องหวานใช่ไหม?

หลายคนก็บอกว่าเลือดมีกลิ่นคล้ายเหล็กขึ้นสนิม บางคนก็บอกคล้ายช้อนสแตนเลส ไปดูรายละเอียดกันค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

“อ๋อ… การวัดรอบเอวหารด้วยส่วนสูงที่คนไข้ถาม จริง ๆ แล้วมันเป็นวิธีง่าย ๆ ที่หมอใช้ดูว่าเรามีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับไขมันในช่องท้องหรือเปล่า อย่างเช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูงค่ะ

วิธีนี้หมอจะดูว่าไขมันที่สะสมอยู่ตรงพุงของเรามันเยอะเกินไปไหม เพราะไขมันตรงนี้อันตรายกว่าที่อื่นนะคะ มันส่งผลต่ออวัยวะภายในโดยตรงเลย ถ้าค่าที่ได้จากการหารรอบเอวด้วยส่วนสูงเกิน 0.5 หมอจะถือว่าเริ่มมีความเสี่ยงแล้วค่ะ แต่ถ้าเกิน 0.6 นี่ต้องระวังมาก ๆ เลย เพราะความเสี่ยงจะสูงขึ้นไปอีก

ข้อดีของการวัดแบบนี้คือมันง่ายมากค่ะ แค่ใช้สายวัดรอบเอวแล้วก็รู้ส่วนสูงของเรา ก็สามารถประเมินสุขภาพเบื้องต้นได้เลย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อนอะไร คนไข้ลองวัดดูเองที่บ้านก็ได้นะคะ ถ้าค่ามันเกิน หมอแนะนำให้เริ่มปรับพฤติกรรม เช่น ลดอาหารหวาน มัน เค็ม แล้วก็ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงได้ค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ถ้าอยากให้กรอบหน้าชัดและดูยกกระชับจริง ๆ วิธีที่ได้ผลยั่งยืนและปลอดภัยที่สุดคือ “การลดน้ำหนัก” เพราะแม้หัตถการต่าง ๆ เช่น ร้อยไหม เครื่องยกกระชับ หรือศัลยกรรม จะช่วยได้ในระยะสั้น แต่ไขมันใต้ผิวหน้ายังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ใบหน้าไม่ชัด เมื่อสามารถลดไขมันโดยรวมได้ กรอบหน้าจะเห็นผลชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าการใช้เทคโนโลยีใด ๆ — หากอยากรู้ว่าทำไมและมีทางเลือกอะไรอีกบ้าง อ่านรายละเอียดด้านล่างเลยค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

การผ่าตัดกระเพาะอาหาร (Bariatric surgery) จะเหมาะกับคนไข้ที่ “น้ำหนักตัวเยอะมาก” หรือที่เราเรียกว่ามีภาวะ อ้วนระดับรุนแรง ซึ่งปกติจะดูจากค่า BMI (ดัชนีมวลกาย) ถ้า BMI มากกว่า 35-40 ขึ้นไป ร่วมกับมีโรคอื่น ๆ อย่างเช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ หรือปัญหาสุขภาพอะไรที่เกี่ยวข้องกับความอ้วนค่ะ

อีกกรณีที่เหมาะคือ ผู้ที่พยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเองแล้วไม่ได้ผล — ลองคุมอาหาร ออกกำลังกายแล้วแต่น้ำหนักก็ยังลงไม่ได้ หรือขึ้น ๆ ลง ๆ กลับมาอ้วนอีก จนหมอตรวจวินิจฉัยแล้วว่าถ้ายังปล่อยไว้จะเสี่ยงกับโรคเยอะขึ้น

พูดง่าย ๆ คือ

  • เหมาะกับคนที่อ้วนมาก + มีปัญหาสุขภาพ หรือโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับความอ้วน
  • และผ่านการประเมินจากหมอว่าต้องได้รับการรักษาแบบผ่าตัดจริง ๆ

คนที่ผอม หรือแค่น้ำหนักเกินเล็กน้อย ยังไม่เหมาะนะคะ

ใครที่สงสัยว่าตัวเองเหมาะหรือไม่ แนะนำให้ไปพูดคุย รับการประเมินกับหมอดีกว่าค่ะ เพราะการผ่าตัดเป็นการรักษาที่มีขั้นตอนและต้องดูแลตัวเองต่อเนื่องค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ในกลุ่มวิตามินบำรุงผิว บำรุงร่างกาย หรือสารเติมเต็ม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ Biostimulator ส่วนนี้ “ไม่ได้ห้าม” โดยตรง แต่แนะนำแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนทำหัตถการ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดค่ะ

“ไทรอยด์” หรือโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์นั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคสำคัญที่ต้องระวังเรื่องการใช้ยา หรือการฉีดสารต่างๆ โดยเฉพาะด้านการลดหุ่น “ปากกาลดน้ำหนัก” หรือยาคุมหิวต่างๆ นะคะ

เหตุผลที่คนเป็นไทรอยด์ “ห้ามใช้ปากกาลดน้ำหนัก” หรือสิ่งที่ไปคุมความอยากอาหาร ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม
เพราะว่ายาลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์เกี่ยวกับระบบเมตาบอลิซึม ฮอร์โมน และประสาท ซึ่งไทรอยด์เองก็เป็นต่อมควบคุมระบบเผาผลาญของร่างกายอยู่แล้วค่ะ ถ้าไปกระตุ้นหรือไปรบกวนมากขึ้น เสี่ยงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย — เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนอย่างรุนแรง บางรายอาจเกิดอาการช็อกหรือไทรอยด์วิกฤตได้ด้วย (Thyroid storm) ซึ่งถือว่า “อันตรายมาก ๆ” เลยนะคะ

ประเภทของปากกาลดน้ำหนัก เช่น เซมากลูไทด์ (semaglutide), ลิรากลูไทด์ (liraglutide) รวมถึงยากินหรือยาฉีดควบคุมความอยากอาหารทุกยี่ห้อ กลุ่มนี้ “ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด” หากมีโรคไทรอยด์ โดยเฉพาะ Hyperthyroidism (ไทรอยด์เป็นพิษ) และผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ หรือเนื้องอกต่อมไร้ท่อด้วยค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ในโปรแกรม D’ RESIZE ของ D’ Lovevery Clinic สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงค่ะ โดยเน้นการลดแบบค่อยเป็นค่อยไป ได้ผลดีในระยะยาว ไม่เน้นลดฮวบเหมือนยาลดไขมันที่ขายออนไลน์ทั่วไป ซึ่งอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงรุนแรงทั้งใจสั่น หงุดหงิด วิตกกังวล หรือร้ายแรงถึงขั้นช็อก รวมถึงปัญหาโยโย่หลังหยุดยาอีกด้วย

ในโปรแกรมนี้ สามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 10-30% ภายใน 3 เดือน เช่น หากน้ำหนักเริ่มต้นที่ 80 กก. จะลดลงได้ประมาณ 8-12 กก. ภายใน 3 เดือน และเมื่อใช้ยาอย่างต่อเนื่อง น้ำหนักจะลดลงได้อีกประมาณ 10% การลดน้ำหนักจึงเกิดขึ้นอย่างมั่นคง ไม่กลับมาโยโย่เหมือนการอดอาหารหรือกินยาลดน้ำหนักทั่วไป เพราะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินในระยะยาว ส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ยาวนานยิ่งขึ้น

กระบวนการให้เข้าใจง่ายคือ เมื่อเรากินน้อยลง ขนาดกระเพาะจะเล็กลง ไขมันช่องท้องถูกนำมาใช้มากขึ้น น้ำหนักและรอบเอวจะค่อย ๆ ลดลง พฤติกรรมการกินดีขึ้น และสุขภาพโดยรวมก็จะดีขึ้นอย่างยั่งยืนค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

Let your elegant form be a present reality, not a forgotten memory.

★★ ความประทับใจ ★★

google
Asami Ai
Asami Ai
21/10/2025
google
Ann Suphassorn
Ann Suphassorn
07/09/2025
google
tippayavaree boonhom
tippayavaree boonhom
18/01/2025
Nutty Michael Williams (นุช)
Nutty Michael Williams (นุช)
05/01/2025
Mintra Jaisaneh
Mintra Jaisaneh
04/01/2025
google
pamalyn leelyn
pamalyn leelyn
30/12/2024
facebook
Pam Patcharaporn
Pam Patcharaporn
แนะนำเลย
29/12/2024