การตัดไหมเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการศัลยกรรมตกแต่งและการรักษาแผลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดจมูก คาง ปาก ตาสองชั้น การดูดไขมัน หรือแม้แต่แผลที่เกิดจากอุบัติเหตุ การตัดไหมอย่างถูกวิธีและถูกเวลาจะช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นหรือรอยแผลที่ไม่สวยงาม



โดยทั่วไป การตัดไหมจะทำหลังจากผ่านไป 5-14 วัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแผลและประเภทของไหมที่ใช้ในการเย็บ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตัดไหมในแต่ละกรณี การตัดไหมเร็วเกินไปอาจทำให้แผลแยกหรือมีการติดเชื้อได้ ในขณะที่การทิ้งไหมไว้นานเกินไปก็อาจส่งผลให้เกิดรอยแผลเป็นที่หนาและเห็นได้ชัดเจน
การตัดไหม หลังทำศัลยกรรมแต่ละจุด
การทำศัลยกรรมเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมในการเสริมความงาม แต่หลังจากการทำศัลยกรรม สิ่งสำคัญคือการดูแลแผลให้หายดี และการตัดไหมก็เป็นขั้นตอนหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้แผลหายสนิท และไม่เกิดแผลเป็น
บริเวณศัลยกรรม | จำนวนเข็มเย็บ (โดยประมาณ) | ระยะเวลาตัดไหม (โดยประมาณ) |
---|---|---|
ตาสองชั้น | 10-20 เข็ม | 5-14 วัน |
เปลือกตาล่าง | 10-20 เข็ม | 7-14 วัน |
จมูก | 20-40 เข็ม | 7-14 วัน |
ปากกระจับ | 10-20 เข็ม | 7-14 วัน |
เสริมคาง | 10-20 เข็ม | 5-14 วัน |
ผ่าไฝ | 3-7 เข็ม | 7-14 วัน |
ตัดกราม | 20-40 เข็ม | 10-14 วัน |
เสริมหน้าอก | 20-40 เข็ม | 14-21 วัน |
ดูดไขมัน | 10-20 เข็ม | 7-10 วัน |
ยกกระชับหน้า | *ขึ้นอยู่กับขอบเขตการผ่าตัด | 14-21 วัน |
ผ่าตัดแปลงเพศ | *ขึ้นอยู่กับขอบเขตการผ่าตัด | 14-21 วัน |
รีวิวตัดไหม เสริมจมูก Semi-Open





รีวิวตัดไหม ตาสองชั้น

ระยะเวลาในการตัดไหม
ระยะเวลาในการตัดไหมหลังทำศัลยกรรมแต่ละจุดนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแผล และความลึกของแผล โดยทั่วไปแล้ว แผลเล็กๆ อาจใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ในขณะที่แผลใหญ่หรือลึก อาจใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะสามารถตัดไหมได้ ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด เพื่อให้ทราบระยะเวลาที่เหมาะสมในการตัดไหม

ตัดไหม เจ็บไหม?
ความเจ็บปวดจากการตัดไหมแผลศัลยกรรมแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น
- บริเวณที่ทำการผ่าตัด: บริเวณที่มีความไวต่อความเจ็บปวดสูง เช่น ใบหน้า จะเจ็บมากกว่าบริเวณที่มีความไวต่อความเจ็บปวดน้อยกว่า เช่น หลัง
- ขนาดและความลึกของแผล: แผลที่ใหญ่และลึกกว่าจะต้องใช้เข็มเย็บมากกว่าและอาจเจ็บมากกว่าแผลที่เล็กและตื้นกว่า
- เทคนิคของแพทย์: แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยที่มีประสบการณ์จะสามารถตัดไหมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดได้
- ความอดทนต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล: บางคนอาจมีความอดทนต่อความเจ็บปวดสูงกว่าคนอื่น
เมื่อแผลเข้าที่ อาจจะมีอาการตึงแผล ดึงรั้งของแผลได้ บางรายบอกเจ็บกว่าตอนเย็บเสร็จใหม่ๆ บางรายบอกเจ็บน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยข้างต้น

ขั้นตอนการตัดไหม
การตัดไหมหลังทำศัลยกรรมนั้น ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการเกิดแผลเป็น โดยขั้นตอนการตัดไหมมีดังนี้
- ทำความสะอาดบริเวณแผลด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ
- ใช้เครื่องมือปลอดเชื้อในการตัดไหม โดยตัดชิดกับผิวหนังให้มากที่สุด
- หลังตัดไหมเสร็จ ทำความสะอาดแผลอีกครั้ง และปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ปลอดเชื้อ
การดูแลแผล หลังตัดไหมแล้ว
หลังจากตัดไหมแล้ว การดูแลแผลก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น โดยควรปฏิบัติดังนี้
- ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ
- เช็ดแผลให้แห้ง และทาครีมหรือขี้ผึ้งที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการแกะเกาแผล หรือการสัมผัสแผลโดยไม่จำเป็น
- หลีกเลี่ยงให้แผลแช่น้ำ โดนน้ำเป็นเวลานาน
- หากมีอาการปวด บวม แดง หรือมีหนอง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ถ้าไม่ตัดไหม จะเกิดอะไรขึ้น?
- การติดเชื้อ: ไหมเย็บเป็นวัสดุแปลกปลอมที่อาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียได้ หากไหมเย็บไม่ได้รับการตัดออกในเวลาที่เหมาะสม แบคทีเรียอาจเจริญเติบโตและทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- การอักเสบ: ไหมเย็บที่ไม่ได้รับการตัดออกอาจทำให้เกิดการอักเสบและบวมบริเวณแผลได้
- การเกิดแผลเป็น: การอักเสบและการติดเชื้อที่เกิดจากไหมเย็บที่ไม่ได้รับการตัดออกอาจนำไปสู่การเกิดแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์ได้
- ความเจ็บปวดและไม่สบายตัว: ไหมเย็บที่ไม่ได้รับการตัดออกอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและไม่สบายตัวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไหมเย็บเริ่มละลายหรือหลุดลุ่ย
- การขัดขวางการรักษา: ไหมเย็บที่ไม่ได้รับการตัดออกอาจขัดขวางกระบวนการรักษาตามธรรมชาติของแผลได้
ตัดไหม กี่วันโดนน้ำได้
หลังจากตัดไหม แผลผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและให้แผลได้หายเร็วขึ้น หากจำเป็นต้องทำความสะอาดบริเวณแผล ควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดเบาๆ และซับให้แห้ง ไม่ควรขยี้หรือถูแผลแรงๆ
หลังจากนั้น สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ควรระวังอย่าให้แผลโดนน้ำนานเกินไป และเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จ หากมีอาการปวด บวม แดง มีไข้ หรือมีหนองไหลออกจากแผล ควรไปพบแพทย์
ชนิดไหมที่ใช้เย็บแผล มีผลต่อการตัดไหม
- ไหมละลาย
ไหมละลายเหมาะกับแผลภายในร่างกาย (เช่น ริมฝีปากด้านใน) หรือแผลสะอาด (เช่น แผลฝีเย็บหลังคลอด) เพราะละลายได้เองโดยเอนไซม์ในร่างกาย แต่ก็อาจทำให้เกิดการอักเสบเล็กน้อย จึงไม่นิยมใช้กับแผลอุบัติเหตุภายนอกที่อาจติดเชื้อได้

- ไหมไม่ละลาย
ไหมไม่ละลายใช้กับแผลทั่วไป (เช่น แผลอุบัติเหตุ) เพราะไม่กระตุ้นการอักเสบ และควบคุมแรงตึงบริเวณแผลได้ดีกว่าไหมละลาย จึงเป็นที่นิยมใช้ในแผลทั่วไปมากกว่า
การผ่าตัดศัลยกรรมใช้ไหมแบบไหน?
- เสริมจมูก: ไหมละลาย
- ปากกระจับ: ไหมละลาย
- ตาสองชั้น: ไหมละลาย
- ดูดไขมัน: ไหมไม่ละลาย
เนื่องจากแผลจากการศัลยกรรมเล็กเหล่านี้เป็นแผลสะอาดที่อยู่ภายในร่างกาย จึงนิยมใช้ไหมละลายเพื่อเย็บแผล ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็นและการติดเชื้อได้ดีกว่าไหมไม่ละลาย

ตัดไหม ราคาเท่าไหร่

ตัดไหมศัลยกรรม | ราคา |
---|---|
ตัดไหมตาบน | 2,500 |
ตัดไหมตาล่าง | 2,500 |
เปิดหัวตา-หางตา (จุดละ) | 1,000 |
ตัดไหม Subbrow | 2,000 |
ตัดไหมจมูก เทคนิค Close | 1,000 |
ตัดไหมจมูก เทคนิค Semi | 1,500 |
ตัดไหมจมูก เทคนิค Open | 2,000 |
ตัดไหมปีกจมูก | 1,500 |
ตัดไหมหลังหู | 1,500 |
ตัดไหมลิฟหน้า / ยกหน้า | 5,000 แม็ก +1,500 บาท |
ตัดไหม Endrotine | 3,500 แม็ก +1,500 บาท |
ตัดไหมปากบน | 2,000 |
ตัดไหมปากล่าง | 2,000 |
ตัดไหมเหงือก / ทุบกราม | 3,500 |
ตัดไหมปลูกผม FUT (เริ่มต้น) | 3,000 |
ตัดไหมคาง | 1,500 |
ตัดไหมจุดเล็ก ๆ ตามร่างกาย (จุดละ) | 1,000 |
การตัดไหมหลังทำศัลยกรรมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และป้องกันการเกิดแผลเป็น อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหมั่นสังเกตอาการของแผลอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการเกิดแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์
ทางคลินิกของเรามีบริการ ตัดไหมหลังปลูกผมแบบ FUT ทำโดยแพทย์ เพื่อความปลอดภัยและลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น เราจะตรวจสภาพแผลและให้คำแนะนำวิธีดูแลแผลที่ถูกต้อง ซึ่งการตัดไหมจะใช้เครื่องมือที่ปลอดเชื้อและดำเนินการอย่างอ่อนโยน
ค่าบริการตัดไหมปลูกผม FUT เริ่มต้นที่ 3,000 บาท โดยจะมีการประเมินแผลและให้คำปรึกษาก่อน ส่งภาพเข้ามาประเมินก่อนได้ค่ะ คลินิกจะไม่รับตัดไหมก่อนครบกำหนด และไม่ควรทิ้งไว้นานเลยกำหนด เพราะอาจจะทำให้ไหมจม ติดเชื้อ หรือดึงไหมออกยากกว่าปกติ ดีเลิฟเวอรี่คลินิกมี 2 สาขา ยินดีให้คำปรึกษาและบริการค่ะ
สาขา พาซิโอ รามคำแหง
📞 064-424-6526
สาขา Crystal Design Center (CDC)
📞 095-236-4546
การตัดไหมถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องอาศัยทั้งดุลยพินิจของหมอและความร่วมมือจากคนไข้ค่ะ หมออยากเน้นว่า คนไข้ควรแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับแผลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นอาการผิดปกติ เช่น เจ็บ ปวด ตึง หรือมีน้ำซึมจากแผล รวมถึงประวัติการดูแลแผลและการใช้ร่างกายบริเวณนั้นๆ ให้ละเอียดที่สุด เพื่อให้หมอประเมินได้ถูกต้องว่าถึงเวลาตัดไหมหรือยัง
ระยะเวลาในการตัดไหม แม้จะมีกรอบวันที่แนะนำตามตำแหน่ง หรือโปรแกรมศัลยกรรมนั้นๆ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ “สภาพจริงของแผล” หากแผลยังไม่สมานดีหรือคนไข้ยังมีข้อกังวล หมออาจพิจารณาเลื่อนการตัดไหมออกไปก่อน ดังนั้น ต้องประเมินว่าแผลดูมีการติดเชื้ออยู่ไหม แผลดูแยกอยู่ ซึ่งอาจจะเกิดจากการขยับที่รุนแรงเพียงครั้งเดียวก็ทำให้แผลปริได้ หรืออาจจะมีโรคประจำตัวเช่นเบาหวาน แผลหายช้า ปริง่ายกว่าคนทั่วไป การตัดไหมออกไปจึงเพิ่มโอกาสให้แผลแยกตัวได้ง่ายค่ะ
Hematoma หรือเลือดคั่งใต้ผิวเป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นหลังศัลยกรรม เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการเกิดพังผืดแข็งบริเวณที่ผ่าตัด โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น กล้ามเนื้อใบหน้า หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องอาจต้องใช้เวลานานกว่าพังผืดจะนิ่มลงหรืออาจต้องแก้ไขเพิ่มเติม ทำให้คนไข้ต้องอดทนและเฝ้าระวังสภาวะแทรกซ้อนนี้เป็นพิเศษ
สำหรับที่คลินิกของหมอเอง ซึ่งมีบริการตัดไหมศัลยกรรมให้กับคนไข้ที่ผ่าตัดมา มักจะพบเจอเคสเลือดคั่งหรือ hematoma บ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่บ่อยนัก ส่วนมากเกิดจากการกระทบกระเทือน หรือคนไข้ขยับแผลเองในช่วงพักฟื้น หลังเจาะเลือดออกและดูแลอย่างใกล้ชิด แผลส่วนใหญ่จะค่อยๆ ดีขึ้นสำคัญที่สุดคือการร่วมมือของคนไข้ในการดูแลตัวเองและมาตามนัดตัดไหม เพื่อให้แผลสวยหายเร็ว ไม่ทิ้งรอยค่ะ
รับค่ะ ทางดีเลิฟเวอรี่คลินิกของเรารับบริการตัดไหมสำหรับผู้ที่ทำศัลยกรรมดึงหน้าและยกกระชับหน้าทั้งในประเทศไทยและจากต่างประเทศ ไม่ว่าคุณจะผ่าตัดที่ไหนหรือเป็นเคสกลับมาจากต่างประเทศ ทางเรามีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งและดูแลเคสหลังการผ่าตัดดึงหน้าทุกประเภท โดยเฉพาะเคสที่มีแผลยาว เช่น ดึงหน้าทั่วไป (Full Facelift), ดึงหน้าส่วนล่าง (Lower Facelift), ดึงคอ, ดึงหางตา, ดึงหน้าผาก หรือยกคิ้ว
นอกจากนี้ เรายังให้บริการดูแลแผลหลังผ่าตัด เช่น ทำแผล ตรวจเช็กแผล ตัดไหม และให้คำแนะนำเรื่องการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรม เพื่อให้แผลหายเร็ว รอยแผลเรียบเนียน และลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น รวมถึงทำ Pico Laser สำหรับเคสที่อยากลดรอยแผลเป็น หากลูกค้ามีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ สามารถปรึกษาหรือส่งรูปประเมินแผลก่อนเข้ารับบริการได้เลยค่ะ
มีให้บริการค่ะ ปกติแล้วเทคนิคการเย็บแผลด้วยแม็ก (surgical staples) ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วและช่วยลดความเจ็บปวด ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และช่วยให้แผลหายได้สวยงามกว่าในบางบริเวณที่เหมาะสมกับวิธีนี้ คลินิกของเรามีบริการตัดไหมพร้อมแม็กเย็บแผล โดยราคาจะขึ้นอยู่กับบริเวณและขนาดของแผลตามข้อมูลในตารางที่จัดเตรียมไว้ หรือถ้าคุณต้องการประเมินก่อน สามารถส่งภาพแผลมาให้เราดูเพื่อประเมินราคาและวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้เลยค่ะ ตัดไหมที่คลินิกดูแลโดยคุณหมอประจำ หรือพยาบาลวิชาชีพค่ะ
ถ้าแผลยังบวมแต่ครบกำหนดตัดไหมแล้ว จริง ๆ การบวมของแผลหลังผ่าตัดถือว่าเป็นเรื่องปกติระดับหนึ่งค่ะ บวมเกิดจากร่างกายกำลังซ่อมแซมฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ยังไม่ใช่สัญญาณว่ามีปัญหาเสมอไป
แต่การตัดไหมจะดูหลายปัจจัย
- วันที่ครบกำหนดตัดไหม ถ้าแผลติดกันดี ไม่มีน้ำเหลือง ไม่มีแดง ไม่มีหนอง ส่วนใหญ่จะสามารถตัดไหมได้เลยค่ะ
- ถ้ายังบวมแต่แผลสวย ไม่ปริ ไม่มีน้ำเหลือง ตัดไหมได้ ไม่ต้องกังวล
- ถ้าบวมมากผิดปกติ เจ็บ กดแล้วเจ็บมาก แดง หรือมีน้ำเหลือง/หนอง อันนี้ควรแจ้งหมอให้ตรวจซ้ำก่อนตัดนะคะ
สรุปคือ ถ้าแผลยังบวมแต่ทุกอย่างปกติครบตามกำหนด ตัดไหมได้ค่ะ ไม่ต้องกังวล แต่ถ้ากังวลใจหรือแผลมีปัญหา ควรให้แพทย์เจ้าของเคสช่วยดูแผลก่อนอีกครั้งเพื่อความมั่นใจนะคะ
ที่ D’ Lovevery Clinic เราให้บริการตัดไหมหลายตำแหน่ง หลายประเภท ดำเนินการโดย แพทย์หรือพยาบาลวิชาชีพเท่านั้น ไม่ใช่เทอราปีส ทุกเคสจะได้รับการ ทำความสะอาดแผลอย่างละเอียดก่อนตัดไหม และมีการ ทายาสมานแผลหลังตัดไหม เพื่อส่งเสริมการสมานของแผล ช่วยลดรอยและดูแลความปลอดภัยของลูกค้าทุกท่าน คลินิกของเรามี 2 สาขา เดินทางสะดวก พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างมืออาชีพ
ค่าบริการตัดไหมเริ่มต้นที่ 1,000 บาท สำหรับการตัดไหมบริเวณจุดเล็ก ๆ หรือกรณีเปิดหัวตา-หางตา ในขณะที่การตัดไหมในตำแหน่งอื่น ๆ เช่น ตาบน ตาล่าง Subbrow ปีกจมูก คาง หรือวิธีเฉพาะ เช่น Endotine และลิฟต์หน้ายกหน้า จะมี ราคาตั้งแต่ 1,500 – 5,000 บาท โดยเฉพาะกรณีตัดไหมที่มีแม็ก จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1,500 บาท จากราคาปกติ ลูกค้าจะได้รับบริการที่ปลอดภัย ใส่ใจทุกขั้นตอน พร้อมยาช่วยสมานแผลทุกเคส
โดยทั่วไปแล้วไหมเย็บแผลที่ศีรษะ หมอมักจะนัดมาตัดออกประมาณ 7 ถึง 10 วันหลังเย็บนะคะ เนื่องจากบริเวณนี้มีเลือดมาเลี้ยงดี ทำให้แผลสมานตัวค่อนข้างเร็วค่ะ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการประเมินลักษณะแผลและการสมานของแผลของคนไข้แต่ละรายโดยแพทย์ที่ทำการรักษาให้ค่ะ ดังนั้น คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและวันนัดตัดไหมที่แพทย์ผู้ดูแลแจ้งไว้เป็นสำคัญที่สุดนะคะ