ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

การกดสิว คือ กระบวนการที่ใช้เครื่องมือหรือมือใด ๆ กดหรือบีบเอาสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนที่เกิดจากการสะสมของน้ำมันหรือเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเกิดขึ้นในรูปแบบของสิวหรือสิวหัวดำ สิ่งนี้เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้รักษาสิว

ข้อดีของการกดสิว

  1. การล้างสิวหัวดำและสิวหัวขาว: ช่วยกำจัดสิวที่มีหัวที่ชัดเจนออกจากผิวหนัง ซึ่งช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและการอักเสบ
  2. ทำความสะอาดรูขุมขน: การกดสิวช่วยล้างรูขุมขนที่อุดตัน ซึ่งสามารถลดการเกิดสิวใหม่ได้
  3. รูปลักษณ์ดีขึ้น: ช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสุขภาพดี
กดสิว ทั่วหน้า ราคา 350

ข้อเสียของการกดสิวไม่ถูกวิธี

  1. การติดเชื้อ: ถ้ากดสิวไม่ถูกวิธีหรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
  2. การเป็นแผลเป็น: กดสิวด้วยความแรงเกินไป หรือกดสิวที่ยังไม่พร้อม อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
  3. เกิดสิวเพิ่มเติม: การกดสิวอาจทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายและทำให้เกิดสิวใหม่
  4. การอักเสบ: การกดสิวอาจทำให้ผิวหนังรอบ ๆ บริเวณนั้นเกิดการอักเสบ
กดสิวเอง

กดสิว เหมาะกับสิวประเภทไหนมากที่สุด

การกดสิวเหมาะสำหรับสิวที่มีหัวขาวหรือหัวดำ ซึ่งมักจะเรียกว่า “สิวอุดตัน” (Comedonal Acne) ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่:

สิวหัวปิด (Whiteheads)

  • สิวประเภทนี้เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่ปิดสนิท
  • มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน
  • ไม่มีการอักเสบหรือเจ็บปวด

สิวหัวดำ (Blackheads)

  • เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่เปิด
  • หัวของสิวจะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม
  • เมื่อสัมผัสกับอากาศ ส่วนบนของสิวจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้มีสีคล้ำ

การกดสิวเหล่านี้ช่วยกำจัดสิ่งอุดตันออกจากรูขุมขนได้ค่อนข้างง่าย และมีความเสี่ยงต่ำในการเกิดการติดเชื้อหรือการอักเสบ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรกดสิวที่มีการอักเสบหรือสิวอักเสบ เช่น สิวหนอง หรือสิวผด เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น

สิวเสี้ยน ควรกดออกไหม

ควรใช้วิธีการดูดด้วยสูญญากาศ มากกว่าการกด เพราะบริเวณที่กดลำบาก เสี่ยงต่อการเกิดแผล

ถ้าไม่กดสิว สิวจะหายไปเองไหม

โดยทั่วไปแล้ว สิวสามารถหายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องกดหรือแกะเกา ระยะเวลาที่สิวจะหายนั้นขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของสิว รวมถึงปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อายุ ฮอร์โมน และพันธุกรรม แต่ถ้ามีความรุนแรงของสิว เรื้อรัง จำเป็นต้องมีการเคลียร์สิว หรือใช้การรักษาวิธีอื่นๆร่วมด้วย เพื่อลดปริมาณสิวหรือไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงที่มากขึ้น

  1. สิวอุดตัน (Whiteheads และ Blackheads) มักจะหายไปได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์
  2. สิวอักเสบ (สิวหนอง หรือ Papules และ Pustules) อาจใช้เวลานานกว่าในการหาย ประมาณ 4-8 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น
  3. สิวอักเสบรุนแรง (Nodules และ Cysts) อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนในการหายไป และอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้

กดสิวเอง ได้ไหม

ไม่แนะนำให้กดสิวด้วยมือตัวเอง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังได้หลายประการ ดังนี้

  1. การแพร่กระจายของแบคทีเรีย: มือที่ไม่สะอาดอาจมีแบคทีเรียและเชื้อโรค เมื่อกดสิว แบคทีเรียเหล่านี้อาจแพร่กระจายไปยังผิวหนังบริเวณอื่น ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น
  2. การอักเสบและการติดเชื้อ: การกดสิวอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้หากมีแบคทีเรียเข้าสู่แผล
  3. แผลเป็นและรอยดำ: การกดสิวอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อผิวหนัง ส่งผลให้เกิดแผลเป็นหรือรอยดำที่อาจคงอยู่เป็นเวลานาน
  4. ความเจ็บปวดและการระคายเคือง: การกดสิวอาจทำให้เกิดความเจ็บปวด ระคายเคือง และความไม่สบายผิว
  5. ประสิทธิภาพในการรักษาที่ลดลง: การกดสิวอาจขัดขวางกระบวนการรักษาตามธรรมชาติของร่างกาย และอาจทำให้สิวหายช้าลง

กดสิวที่ไหนดี

การกดสิวในคลินิกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการกดสิวโดยเฉพาะมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับการกดสิวด้วยตนเอง ได้แก่

  1. ความปลอดภัยและสุขอนามัย: ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อและเทคนิคที่ถูกสุขอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
  2. ความเชี่ยวชาญ: ผู้เชี่ยวชาญมีความรู้และประสบการณ์ในการระบุประเภทของสิวและใช้เทคนิคที่เหมาะสมในการกดสิวแต่ละประเภท ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นและรอยดำ
  3. ความสะดวกสบายและประสิทธิภาพ: ผู้เชี่ยวชาญสามารถกดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
  4. ลดการระคายเคืองและความเสียหายต่อผิว: เทคนิคที่ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญช่วยลดการระคายเคืองและความเสียหายต่อผิวที่อาจเกิดขึ้นจากการกดสิวด้วยตนเอง
  5. คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผิวและการรักษาสิวที่เหมาะสมสำหรับสภาพผิวของคุณ ช่วยป้องกันการเกิดสิวในอนาคตและปรับปรุงสุขภาพผิวโดยรวม
มือที่ไม่สะอาดอาจทำลายผิวสวยของคุณ เพราะการกดสิวด้วยตัวเองอาจนำไปสู่ปัญหาผิวที่ใหญ่กว่าเดิม