รีจูรัน คือสารอะไร?
รีจูรันคือ ฟิลเลอร์ไหม คำถามที่พบบ่อยมากๆ อันที่จริงไม่ใช่ค่ะ REJURAN อยู่ในกลุ่มของการฉีดเมโสหน้าใส Rejuran คือ สารสกัดเข้มข้น Polynucleotide (PN) จาก DNA ปลาแซลมอน ที่มีฤทธิ์ในการ ฟื้นฟูผิวหน้า และยังช่วยปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นผิว ทำให้ผิวอ่อนเยาว์และมีคุณภาพผิวที่ดีอย่างเป็นธรรมชาติ
รีจูรัน คือสารอะไร ปลอดภัยไหม
รีจูรัน สกัดมาจาก “DNA ของปลาแซลมอน” ผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยีชีวภาพที่เรียกว่า PN (Polynucleotide) ซึ่งเป็นเทคนิคการสกัดสารพันธุกรรมระดับสูง ช่วยให้ได้สาร HA ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับ HA ในร่างกายมนุษย์มากที่สุดจึงมีความปลอดภัยสูงมาก รีจูรัน ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลีใต้ (KFDA) และ อย. ไทย ว่ามีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีตกค้าง และมีผลข้างเคียงน้อย

ข้อดีของรีจูรัน
รีจูรันช่วยแก้ปัญหาผิวแก่ก่อนวัย กระตุ้นให้ผิวสร้างเซลล์ใหม่ ทําให้ผิวชุ่มชื้น เต็มอิ่ม และแข็งแรงขึ้น เมื่อใช้ต่อเนื่องจะช่วยลดริ้วรอยและทําให้ผิวเรียบเนียน แบ่งผลลัพธ์การรักษาที่คาดหวังได้ 3 กลุ่ม ดังนี้
ผิวหน้าเนียนใส:
- รูขุมขนกระชับ เรียบเนียน
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- ลดรอยแดง รอยดำ
- ลดเลือนริ้วรอย ร่องตื้น
ผิวอ่อนเยาว์:
- ย้อนวัยให้ผิวเด็ก เงาใส
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน
- เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่นให้ผิว
- ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว
ผิวสุขภาพดี:
- ปรับสมดุลผิว ลดการเกิดสิวในอนาคต
- เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าฉ่ำวาว
- ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส
หน้าฉ่ำวาว ชุ่มชื้น
ผิวหน้าเนียน รูขุมขนเล็กลง
คืนความสมดุลของผิว ลดความมัน
ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวและริ้วรอยเล็กๆ
ข้อสังเกต ก่อนทำ
- ของไม่ได้คุณภาพ ลอกเลียนแบบ ปลอม เยอะ ต้องตรวจสอบสถานพยาบาลให้แน่ใจ และต้องได้พบแพทย์ก่อนรับบริการทุกครั้ง
- ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับกลุ่ม Mesotherapy หลายๆตัว
- ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ต้องทำซ้ำบ่อย
- ไม่ได้เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจ
รีจูรัน เหมาะกับใคร
รีจูรันเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแก่ก่อนวัย รอยย่น ริ้วรอย หลุมสิว ผิวแห้งกร้าน และผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใส
- ผู้ที่มีปัญหาผิว
- รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องตื้น
- ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว (มีรุ่นสำหรับเติมหลุมสิวโดยเฉพาะ)
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์



ขั้นตอนการฉีดรีจูรัน
- ปรึกษาแพทย์: ก่อนการฉีดรีจูรัน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมของการฉีด
- ทำความสะอาดผิวหน้า: ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าและสบู่ที่อ่อนโยน จากนั้นเช็ดหน้าให้แห้ง
- แปะยาชา: เพื่อความสบายผิว แพทย์จะแปะยาชาบริเวณที่จะฉีดรีจูรัน ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- ฉีดรีจูรัน: แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดรีจูรันเข้าไปบริเวณผิวหนังชั้นกลาง โดยจะฉีดในปริมาณที่เหมาะสมตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- นวดเบาๆ: หลังจากฉีดรีจูรันเสร็จ แพทย์จะนวดเบาๆ บริเวณที่ฉีดเพื่อให้ตัวยาซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
- ประคบเย็น: หลังจากฉีดรีจูรันเสร็จ แพทย์จะประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเพื่อลดอาการบวมและรอยแดง
- ทาครีมกันแดด: หลังจากฉีดรีจูรันควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า: หลังจากฉีดรีจูรันควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าด้วยมือที่ไม่สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: หลังจากฉีดรีจูรันควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น





เทคนิคการฉีดก็สำคัญ ที่คลินิกใช้รีจูรันที่มีความหนืดสูง ฉีดเข้าไปบริเวณ เส้นเอ็นแท้และเส้นเอ็นเทียม ที่ติดอยู่กับ
กระดูกและผิวหนังบนใบหน้า เพื่อ ซ่อมแซมและพยุงเส้นเอ็นให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สามารถฉีดได้ทั้งบริเวณขมับ หน้าแก้ม โหนกแก้ม ร่องแก้มและร่องน้ำหมาก
รีจูรันมีกี่รุ่น
Rejuran มีหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย รุ่นต่างๆ ได้แก่ Rejuran Healer, Rejuran S, Rejuran I, และ Rejuran HB. แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะสมกับประเภทผิวและปัญหาผิวที่แตกต่างกัน
- Rejuran Healer เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวโดยรวม ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดการอักเสบของผิว
- Rejuran S (Scar) มีสารสำคัญที่เข้มข้นกว่ารุ่น Healer ออกแบบมาเพื่อการรักษาและลดเลือนรอยแผลเป็นทั้งจากสิวและการผ่าตัด
- Rejuran I (Eye) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการดูแลรอบดวงตาโดยเฉพาะ ช่วยลดรอยคล้ำและริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
- Rejuran HB มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid เพิ่มเติม ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและเต่งตึงมากขึ้น รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับผิว

Rejuran Healer เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวโดยรวม ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดการอักเสบของผิว

Rejuran S (Scar) มีสารสำคัญที่เข้มข้นกว่ารุ่น Healer ออกแบบมาเพื่อการรักษาและลดเลือนรอยแผลเป็นทั้งจากสิวและการผ่าตัด

Rejuran I (Eye) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการดูแลรอบดวงตาโดยเฉพาะ ช่วยลดรอยคล้ำและริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น

Rejuran HB มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid เพิ่มเติม ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและเต่งตึงมากขึ้น รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับผิว
Rejuran ราคาเท่าไหร่
Rejuran Healer 2CC | 11,990.- | ฟื้นฟูผิวทั่วไป เติมน้ำให้ผิว ลดเลือนริ้วรอย รูขุมขนกว้าง |
Rejuran S 1CC | 12,999.- | รักษาหลุมสิว รอยแผลเป็น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน |
Rejuran i 1CC | 11,999.- | ฟื้นฟูรอบดวงตา ลดเลือนริ้วรอย รอยคล้ำใต้ตา |
Rejuran HB 1CC | 11,999.- | เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเพราะมีส่วนผสม Hyaluronic Acid |

รีจูรัน นิยมฉีดจุดไหนบ้าง
บริเวณ | รายละเอียด |
---|---|
ใบหน้า | ฉีดกระจายทั่วใบหน้า หรือเฉพาะจุด ขึ้นกับปัญหาของแต่ละบุคคล |
คอ | ช่วยให้ผิวคออิ่มน้ำ ลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น |
หลังมือ | ช่วยให้มือไม่แห้งกร้าน ดูสุขภาพดี |
บริเวณอื่นๆ | หน้าอก ลำตัว (ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ) |
หมายเหตุ:
- ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการฉีดรีจูรัน
- แพทย์จะพิจารณาบริเวณที่เหมาะสมกับการฉีดให้ตรงกับปัญหาผิวของคนไข้แต่ละบุคคล
รีจูรัน ต้องฉีดกี่ CC ถึงจะเห็นผล
ปริมาณการฉีดรีจูรันที่เห็นผล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- ปัญหาผิว:
- กรณีที่มีปัญหาผิวไม่มาก เช่น รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน อาจจะฉีด 2-3 CC ต่อครั้ง
- กรณีที่มีปัญหาผิวมาก เช่น หลุมสิว รอยแผลเป็น ริ้วรอยลึก อาจจะฉีด 4-5 CC ต่อครั้ง
- บริเวณที่ฉีด:
- บริเวณใบหน้าที่มีเนื้อที่กว้าง เช่น หน้าผาก แก้ม อาจจะฉีด 3-4 CC ต่อครั้ง
- บริเวณใบหน้าที่มีเนื้อที่แคบ เช่น ใต้ตา ร่องปาก อาจจะฉีด 1-2 CC ต่อครั้ง
- สภาพผิว:
- คนที่มีผิวบาง อาจจะฉีดปริมาณน้อยลง
- คนที่มีผิวหนา อาจจะฉีดปริมาณมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดรีจูรัน 1 ครั้ง จะใช้ปริมาณ 2-5 CC ทั้งนี้ แพทย์ผู้มีประสบการณ์จะพิจารณาปริมาณการฉีดที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละบุคคล
รีจูรัน จะเริ่มเห็นผลเมื่อไหร่
- ผิวจะเริ่มชุ่มชื้น อิ่มฟู ขึ้นภายใน 1-2 อาทิตย์
- รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียนขึ้น ภายใน 2-4 อาทิตย์
- รอยแดง รอยดำ จางลง ภายใน 4-6 อาทิตย์
- ริ้วรอย ร่องตื้น ดูเลือนลง ภายใน 2-3 เดือน
ผลลัพธ์หลังฉีด REJURAN
หลังฉีด | ผลลัพธ์ |
---|---|
ครั้งที่ 1 (3-5 วัน) | ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เรียบเนียนขึ้น |
ครั้งที่ 2 (2-4 สัปดาห์) | ผิวเต่งตึงขึ้น, ริ้วรอยลดลง, รูขุมขนกระชับขึ้น |
ครั้งที่ 3 (4-6 สัปดาห์) | ผิวยกกระชับขึ้น, ผิวแน่นขึ้น, ผิวแข็งแรงขึ้น |
ครั้งที่ 4 (6-8 สัปดาห์) | ผลลัพธ์ชัดเจน, ผิวยกกระชับ, รูขุมขนกระชับ, ผิวเรียบเนียน, สีผิวสม่ำเสมอ, ริ้วรอยลดลง, ผิวสุขภาพดี แข็งแรงขึ้น |
รีจูรันเห็นผลชัดเจน
- ควรฉีดอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 3-5 ครั้ง
- เว้นระยะห่าง ประมาณ 1-2 เดือนต่อครั้ง
- ดูแลตัวเอง ทานอาหาร ทานน้ำ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
รีจูรัน อยู่ได้นานกี่เดือน
หลังจากฉีด Rejuran ผู้รับการรักษาจะรู้สึกได้ว่าผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ผิวดูอิ่มฟูขึ้น ริ้วรอยดูลดลง และผิวดูกระชับขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของปัญหาผิวที่เป็นอยู่ โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
Rejuran และฟิลเลอร์ที่เป็น Skin Booster ตัวไหนดีกว่ากัน?
Rejuran และฟิลเลอร์ต่างเป็น Skin Booster ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ แต่มีข้อแตกต่างกันในเรื่องของกลไกการทำงานและผลลัพธ์ที่ได้

Rejuran กับ โปรแกรมอื่นๆ
- เป็นสารสกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกับ DNA ของมนุษย์
- ช่วยฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- ช่วยให้ผิวแลดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น และเปล่งปลั่ง
- ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

รีจูรัน ต่างจากฟิลเลอร์ที่เป็น Skin Booster
- เป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้เติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า
- ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนและเต่งตึง
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า Rejuran
- อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำ บวมแดง หรือการติดเชื้อ

Rejuran กับ Exosome แตกต่างกันอย่างไร
Exosome และ Rejuran เป็นสองวิธีการบำรุงผิวที่ได้รับความนิยม แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของส่วนประกอบและวิธีการทำงาน
Exosome เป็นตัวกลางสำคัญในการสื่อสารระหว่างเซลล์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและบำรุงเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น Exosome ยังช่วยให้ผิวที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรง ลดปัญหาสิว และปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้นโดยรวม โดยทั่วไป Exosome มีส่วนประกอบของโพลีนิวคลีโอไทด์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว
Rejuran หรือที่รู้จักในชื่อ Rejuran Healer เพราะมีมาให้บริการเป็นรุ่นแรก เป็นการรักษาที่ใช้ DNA จากปลาแซลมอน ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
หากพิจารณาถึงความแตกต่าง สิ่งที่โดดเด่นของ Exosome คือการทำงานในระดับโมเลกุลเพื่อช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงและซ่อมแซมตัวเอง ในขณะที่ Rejuran มุ่งเน้นไปที่การใช้สารบำรุงจากธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทั้งสองวิธีมีข้อดีที่เด่นชัดแตกต่างกัน และสามารถเลือกใช้ตามความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคลได้
ฉีด Rejuran เจ็บไหม
โปรแกรม | ความรู้สึก | วิธีการ | จุดเด่น |
---|---|---|---|
รีจูรัน | ปานกลาง | ฉีดตัวยาด้วยเข็มขนาดเล็ก | ฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย รอยสิว |
เมโส | ปานกลาง | ฉีดตัวยาด้วยเข็มขนาดเล็ก | เติมน้ำให้ผิว กระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ |
ฟิลเลอร์ | น้อย | ฉีดตัวยาด้วยเข็มขนาดเล็ก หรือเข็มทู่ | เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า |
เลเซอร์ | น้อย-มาก | ยิงเลเซอร์ลงบนผิว | กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย รอยสิว รอยแผลเป็น |
ไฮฟู | น้อย-ปานกลาง | ยิงคลื่นเสียงความถี่สูงลงบนผิว | ยกกระชับ ปรับรูปหน้า |
หมายเหตุ:
- ระดับความเจ็บเป็นเพียงค่าประมาณ ขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บของแต่ละบุคคล
- แพทย์อาจใช้ยาชาทาหรือฉีดก่อนทำหัตถการเพื่อลดความรู้สึก
การดูแลหลังฉีด Rejuran
- งดแต่งหน้าหลังจากฉีด Rejuran 24 ชั่วโมง
- เช็ดทำความสะอาดหรือล้างหน้าได้ตามปกติ
- ทาครีมบำรุงผิวได้ตามปกติ
- หลังจากฉีดมาครบ 24 ชั่วโมงแล้ว อาจยังมีรอยแดงอยู่ สามารถแต่งหน้าอ่อนๆ ได้
- รอยแดงจากเข็มจะค่อยๆ หายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้แล้วแต่ผิวของแต่ละบุคคลด้วย

สรุปรีจูรันดีไหม
Rejuran เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น มีริ้วรอยและจุดด่างดำ ฟิลเลอร์ที่เป็น Skin Booster เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยลึก หรือต้องการปรับรูปหน้า
ผิวกระจก ไม่ได้มีแค่รีจูรัน
ผิวกระจก ผิวฉ่ำวาว เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี เปล่งปลั่ง มีออร่า โดยมีหลายวิธีที่จะช่วยให้ได้ผิวกระจก ผิวฉ่ำวาว ได้แก่

- การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า: การทำทรีตเมนต์ผิวหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ได้ผิวกระจก ผิวฉ่ำวาว โดยการทำทรีตเมนต์ผิวหน้าจะช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออกไป และช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งมากขึ้น
- การทำเลเซอร์: การทำเลเซอร์เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในการช่วยให้ได้ผิวกระจก ผิวฉ่ำวาว โดยการทำเลเซอร์จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออกไป และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และเปล่งปลั่งมากขึ้น
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวก็สามารถช่วยให้ได้ผิวกระจก ผิวฉ่ำวาว ได้เช่นกัน โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด เซราไมด์ และวิตามินซี ซึ่งจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งมากขึ้น
เหตุผลที่สรรพคุณของ Made แตกต่างกันในแต่ละที่เป็นเพราะ Made ไม่ใช่สูตรตายตัวค่ะ หมอต้องปรับแต่งสูตรให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของคนไข้ในแต่ละเคส เช่น บางคนอาจต้องการดีท็อกซ์สิว บางคนเน้นฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย หรือปรับสมดุลผิว นอกจากนี้ คุณภาพของวัตถุดิบและเทคนิคของหมอในแต่ละคลินิกเองก็อาจแตกต่างกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เหมือนกันค่ะ เพราะฉะนั้น การปรึกษาหมอเพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวและเลือกสูตรที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ
ถ้ามีรอยดำสิวตื้น ๆ หรือเพิ่งเกิดใหม่ หมอแนะนำเริ่มจาก ฉีดหน้าใส ก่อน เพราะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยดำได้เร็วและราคาไม่แพง แต่ถ้ารอยดำเข้ม ฝังลึก หรือไม่หายด้วยวิธีอื่น หมอจะแนะนำ Pico Laser เพราะจัดการรอยลึกได้ตรงจุด พร้อมช่วยให้ผิวเรียนเนียนขึ้นด้วยค่ะ ทั้งสองวิธีสำคัญต้องทากันแดดทุกวันช่วยปกป้องผิวไม่ให้รอยดำเข้มขึ้นนะคะ
ไม่ใช่เรื่องแปลกไปนะคะ ความจริงแล้วคอเหี่ยวก่อนหน้าทั้งที่โดนแดดน้อยกว่า เพราะผิวบริเวณคอบางกว่า มีคอลลาเจนน้อยกว่า แล้วก็แทบไม่มีต่อมไขมันเหมือนผิวหน้า เวลาที่เราดูแลผิวหน้ากันอย่างดี—ทาครีม ทาเซรั่ม ลงกันแดด—แต่ส่วนใหญ่จะลืมดูแลผิวคอไปค่ะ คอก็เลยขาดการบำรุงสะสมไว้นาน ๆ พออายุมากขึ้นผิวตรงคอเลยหย่อนคล้อยเร็วกว่าหน้านั่นเอง
อีกอย่างหนึ่ง เวลาทำกิจกรรมเช่นก้มหน้าดูโทรศัพท์ หรือเล่นมือถือบ่อย ๆ ก็ทำให้เกิดรอยพับลึกที่คอ (เรียกว่า tech neck) ซึ่งไปเร่งให้คอเหี่ยวไวขึ้นอีก ดังนั้นหมอแนะนำว่าต่อไปนี้ดูแลผิวหน้าท่าไหน ก็ขยับลงมาทาครีมและกันแดดที่คอด้วยนะคะ จะช่วยให้คอดูอ่อนวัยใกล้เคียงกับผิวหน้าค่ะ
การซื้อเครื่องนวดหน้ามาใช้เองที่บ้านในยุคนี้ ถือว่าสะดวกมากๆ ค่ะ เพราะเทคโนโลยีความงามที่เน้นใช้ง่ายและปลอดภัยมีให้เลือกหลายรุ่น ตัวเครื่องถ้าผ่านมาตรฐานคุณภาพ ตรวจสอบแล้ว ก็จะไม่แตกต่างกันมากนักค่ะ แต่หัวใจสำคัญจริงๆ จะอยู่ที่ “ตัวยา” หรือครีมบำรุงที่ใช้ร่วมมากกว่า ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับผิวตัวเอง การเลือกผิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น แพ้ ระคายเคือง หรือไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยเฉพาะถ้าซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีมาตรฐานหรือไม่มีคำแนะนำที่ถูกต้อง
แต่ถ้าเข้าคลินิกเพื่อรับโปรแกรมทรีทเมนท์ หมอสามารถตรวจสภาพผิวจริงๆ แนะนำตัวยา วิตามิน และปรับระดับความเข้มข้นที่เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคนได้ ตรงนี้ช่วยลดโอกาสเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงต่างๆ ได้มากกว่าแน่นอนค่ะ ถ้าเน้นความสะดวกและอยากทำเองที่บ้านก็แนะนำให้เลือกเครื่องและผลิตภัณฑ์ให้ดี ผ่านการทดสอบและได้มาตรฐานจะดีที่สุด และถ้ามีปัญหาผิว หรืออยากเน้นผลลัพธ์แบบมืออาชีพ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเข้าคลินิกจะปลอดภัยและคุ้มค่ากว่าค่ะ
คนมักจะเข้าใจผิดว่า Rejuran เป็นฟิลเลอร์ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ Rejuran จัดเป็นกลุ่มเมโสเพื่อฟื้นฟูผิว ตัวยาทำมาจากสารสกัดที่เรียกว่า Polynucleotide หรือโพลีนิวคลีโอไทด์ ที่ได้มาจาก DNA ของปลาแซลมอนธรรมชาติค่ะ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวจะดูใส วาว สุขภาพดี แบบ Glass Skin
ส่วนฟิลเลอร์จะต่างกันเลยค่ะ เพราะเป็นสารเติมเต็มที่มี HA หรือ Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบหลัก หมอจะฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังในชั้นต่างๆ เพื่อเติมเต็มร่องลึก หรือปรับรูปหน้าให้สวยได้สัดส่วนตามที่เราต้องการ แต่มีฟิลเลอร์บางตัวที่เน้นความชุ่มชื้น จะทำให้ผิวชุ่มชื้นได้เช่นเดียวกัน แต่พื้นฐานสารที่เติมเข้าไปก็ยังเป็น HA
พูดง่ายๆ คือ ใครหน้าสวย ได้รูปอยู่แล้ว แค่อยากผิวฉ่ำน้ำ Rejuran ก็จะช่วยได้มากกว่า แต่ถ้าอยากเติมเต็มร่องลึก หรือปรับรูปหน้า อยากได้หน้ายาวขึ้น ละมุน หวานขึ้น ก็ต้องเป็นฟิลเลอร์นะคะ บางคนก็ทำทั้งสองอย่างร่วมกันก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนเลย
หน้าม้า ป้องกันแสงยูวีไม่ได้เลยค่ะ 🙂
คนไข้ไม่ต้องกังวลเรื่องเปลืองครีมกันแดดเลยนะคะ เพราะจริงๆ แล้วการทาครีมกันแดดไม่ได้เปลืองขนาดนั้นค่ะ ใช้แค่ปริมาณประมาณ 2 ข้อนิ้วมือก็เพียงพอสำหรับทั้งหน้าแล้ว หรือต่อให้ใช้เยอะแค่ไหนก็คุ้ม เพราะหน้าเราผิวเราสำคัญที่สุด มันช่วยปกป้องผิวจากปัญหาระยะยาวได้เยอะมากๆ ค่ะ
แต่หมอแอบคิดว่าคนไข้ส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้กังวลเรื่องเปลืองหรอกค่ะ น่าจะมองว่า เสียเวลาทา มากกว่าใช่ไหมคะ? 😄 ถ้าเป็นแบบนั้น หมอแนะนำให้ลองปรับวิธีดูค่ะ เช่น ใช้กันแดดที่เป็นแบบเนื้อบางเบา ซึมไว หรือแบบที่เป็นกันแดดผสมบำรุงในตัวเดียว จะช่วยลดขั้นตอนและทำให้สะดวกขึ้นค่ะ
อย่าลืมนะคะ การทาครีมกันแดดเป็นการลงทุนกับผิวในระยะยาวค่ะ ป้องกันปัญหาผิวที่อาจต้องเสียเงินและเวลาแก้ไขทีหลังเยอะกว่าเดิมอีกค่ะ
สำหรับการทำ Pico Laser นะคะ คนไข้บางท่านอยากลองก่อน ถ้าทำแค่ 1-2 ครั้ง ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนจะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้แต่ละคนค่ะ เช่น ถ้าคนไข้มีปัญหาเรื่องรอยดำ รอยแดง หรือจุดด่างดำจากสิว จะเริ่มเห็นว่าผิวดูใสขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้นหลังทำไป 1-2 ครั้งค่ะ
แต่ถ้าเป็นปัญหาผิวอื่นๆเช่น รูขุมขนเล็กลง หรือผิวเรียบเนียนขึ้น อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยนะคะ เพราะผลลัพธ์ในเรื่องนี้มักจะชัดเจนขึ้นหลังทำต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้งค่ะ เนื่องจากเลเซอร์จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งต้องใช้เวลาให้ผิวฟื้นฟูและปรับตัวค่ะ ยิ่งถ้าบอกว่าอยากรักษาหลุมสิวเลย อาจจะใช้จำนวนครั้งที่มากกว่านี้อีก ตามปัญหาและประเภทหลุมสิวค่ะ
ถ้าให้หมอสรุปว่าปัญหาผิวไหนจะใช้จำนวนครั้งน้อยแต่เห็นผลลัพธ์ได้ดีคือเรื่องรอยดำ จุดด่างดำ หรือกลุ่มรอยดำรอยแผลเป็นค่ะ และอย่าลืมดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ด้วยนะคะ เช่น ทาครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด จะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นค่ะ
จำนวนครั้งค่อนข้างตอบได้ยาก เพราะผิวแต่ละคนที่มาก็แตกต่างกัน บางคนผิวแห้ง ขาดการบำรุงมานานมาก อาจจะใช้ปริมาณตัวยา และจำนวนครั้งที่ต่อเนื่องมากกว่า แต่ถ้าสุขภาพผิวดี ต้องการบำรุงให้ดีขึ้นอีก แบบนี้อาจจะใช้จำนวนครั้งรักษาที่น้อยกว่า ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคลลเป็นหลักค่ะ
Rejuran ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
- ฉีดครั้งที่ 1 จะเริ่มรู้สึกได้ว่าผิวนุ่ม และเรียบเนียนขึ้น หลังฉีด 3-7 วัน
- ฉีดครั้งที่ 2 ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเต่งตึง รูขุมขนกระชับ หลังฉีด 2 สัปดาห์ – 1 เดือน
- ฉีดครั้งที่ 3 จะรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น ตึงกระชับ ผิวใสเปล่งประกาย
- ฉีดครั้งที่ 4 ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ ผิวไร้ริ้วรอย ชุ่มฉ่ำเต่งตึงได้ชัดเจนขึ้น