หลายคนคงเคยได้ยินว่ามีคำโฆษณาว่า “ฉีดฟิลเลอร์ ไม่บวม ไม่ช้ำ” แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า มันเป็นไปได้จริงเหรอ? วันนี้หมอจะมาทำให้ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
มือเบาของหมอ ความจริงหรือแค่คำโฆษณา?
ในฐานะหมอที่ฉีดฟิลเลอร์มาหลายพันเคส หมอขอบอกเลยว่า “มือเบา” นี่มีจริงค่ะ แต่ไม่ใช่แค่เรื่องของพรสวรรค์นะคะ มันเป็นเรื่องของประสบการณ์และการฝึกฝนมากกว่า
หมอที่มีประสบการณ์จะรู้ว่าต้องใช้แรงแค่ไหน ฉีดลึกแค่ไหน และฉีดในมุมไหนถึงจะทำให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด และลดโอกาสการเกิดรอยช้ำได้มากที่สุด
“ประสบการณ์ไม่ได้การันตีความสำเร็จ แต่มันช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก โดยเฉพาะในการทำหัตถการที่ละเอียดอ่อนอย่างการฉีดฟิลเลอร์”
เทคนิคเข็มทู่ ไม่ใช่หมอทุกคนฉีดได้ดี
เทคนิคการใช้เข็มทู่เป็นเรื่องหมอปรับรูปหน้า ฉีดฟิลเลอร์ทุกท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าช่วยเรื่องอะไร มันช่วยลดการฉีกขาดของเส้นเลือดฝอยได้ดี ทำให้โอกาสเกิดรอยช้ำน้อยลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีรอยช้ำเลยนะคะ เพราะสุดท้ายหมอผู้ฉีดก็เป็นผู้กำหนดจุด ออกแรง และปล่อยยาอยู่ดี
เข็มปลายทู่ไม่ได้ใช้กับทุกบริเวณ บางตำแหน่งก็ยังต้องเป็นเข็มปกติ
บริเวณที่ฉีดก็สำคัญ
ต้องบอกว่าแต่ละบริเวณที่ฉีดก็มีโอกาสบวมช้ำไม่เท่ากันค่ะ เช่น บริเวณใต้ตามักจะบวมช้ำง่ายกว่าบริเวณอื่นๆ เพราะผิวบางและมีเส้นเลือดฝอยเยอะ ส่วนริมฝีปากก็มักจะบวมได้ง่าย แต่มักไม่ค่อยช้ำ ส่วนคางกับขมับ ถือว่าเสี่ยงน้อยมากที่จะเกิดการบวมช้ำหนัก อาจมีแค่รอยเข็มเข้า แทบจะมองไม่ออกว่านั่นคือรอยเข็ม
ผิวแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ผิวของแต่ละคนก็ตอบสนองต่อการฉีดไม่เหมือนกันค่ะ คนที่ผิวบางหรือแพ้ง่ายมักจะมีโอกาสบวมช้ำได้ง่ายกว่า ไม่ว่าหมอจะพยายามเบามือแค่ไหนก็ตาม ในขณะที่บางคนผิวแข็งแรง ฉีดยังไงก็แทบไม่มีรอยเลย หมอที่ประสบการณ์สูง จะต้องบอกคนไข้อย่างตรงไปตรงมาว่ารับได้กับเรื่องนี้ก่อนรับบริการไหม
ถึงแม้ผิวจะบางมาก เส้นเลือดฝอยชัด ส่วนใหญ่ก็หายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ
สรุป เป็นไปได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย
การฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่บวมไม่ช้ำเลย มันเป็นไปได้ค่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความชำนาญของหมอ เทคนิคที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และสภาพผิวของคนไข้ ดังนั้นหมอจึงใช้เวลากับคนไข้ตอนเข้ามาปรึกษาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เราได้เข้าใจตรงกัน ก่อนรับบริการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ทุกบริเวณ