Calcium Hydroxyapatite คืออะไร จำเป็นต่อผิวแค่ไหน
จริงๆ แล้วผิวของเราต้องการการดูแลแบบองค์รวมค่ะ (คำนี้น่าจะเหมาะสม เป็นกลางที่สุดแล้ว) ทั้ง HA Filler, การป้องกันแสงแดด และความชุ่มชื้น แต่ที่น่าสนใจคือ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) เป็นสารที่มีความต่างออกไปมากๆ ค่ะ
จากงานวิจัยหลายตัว พบว่า CaHA ไม่ได้แค่เติมเต็มเหมือน Filler ทั่วไป แต่ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวหนังหลายด้านพร้อมกัน ได้แก่
- เพิ่มการสร้างคอลลาเจนใหม่
- กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอย ทำให้ผิวได้รับสารอาหารดีขึ้น
- เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวผ่านการกระตุ้น elastin
ดูแลผิวแบบองค์รวม คือยังไง
แต่หมอต้องเน้นย้ำนะคะว่า การดูแลผิวที่ดีต้องทำแบบองค์รวม จะบอกว่าโปรแกรมเดียว ดีสุด พอแล้ว อาจจะเป็นแนวคิดที่ไม่เป็นผลดีต่อผิวมากนัก
- ป้องกันแสงแดดด้วยครีมกันแดดทุกวัน
- รักษาความชุ่มชื้น เติมเต็มส่วนที่พร่อง มีร่องลึก ด้วย Hyaluronic acid
- กระตุ้นคอลลาเจนด้วย Biostimulator
- และเพิ่มความแข็งแรงของผิวด้วย CaHA
ผิวแต่ละชั้นต้องการการบำรุง ปกป้องแบบไหน
ชั้น Epidermis
- เป็นชั้นที่ต้องการการปกป้องจาก UV และความชุ่มชื้นพื้นฐาน
- การรักษา: Sunscreen, Moisturizer
ชั้น Dermis
- เป็นชั้นที่ต้องการความชุ่มชื้นลึกและการกระตุ้นคอลลาเจน
- การรักษา: HA, Skinboosters, PDRN
ชั้น Subcutaneous
- เป็นชั้นที่ต้องการการเติมเต็มและการยกกระชับ
- การรักษา: Fillers, CaHA, Thread Lift
ทุกโปรแกรมความงาม ล้วนแล้วแต่เป็นแค่เครื่องมือของแพทย์
โปรแกรมความงามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดหรือวิธีการที่ใช้มานาน ล้วนเป็นเพียง “เครื่องมือ” ในการรักษาค่ะ เปรียบเสมือนพู่กันของจิตรกร – จะวาดภาพออกมาสวยหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพู่กันอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับศิลปินผู้ใช้พู่กันนั้น
สิ่งสำคัญที่สุดคือ
- การวินิจฉัยที่แม่นยำของแพทย์
- ประสบการณ์ในการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
- ความเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของคนไข้
- การวางแผนการรักษาแบบองค์รวม
แม้ว่าจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามามากมาย แต่ไม่มีวิธีการรักษาใดที่เป็น “one-size-fits-all” ค่ะ ความสำเร็จของการรักษาขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการประเมินและเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ ให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย
สุดท้ายนี้ การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจึงสำคัญกว่าการเลือกโปรแกรมการรักษาค่ะ