ผิวแบบไหนที่ต้องเติมเต็มหลายโปรแกรมระดับนี้
ผิวแบบไหนกันนะ ที่สมควรได้รับการดูแลและฟื้นฟูทุกมิติด้วยโปรแกรมสุดครบขนาดนี้? คำตอบง่ายมากค่ะ…ก็ผิวที่ผ่านร้อนผ่านหนาว มีปัญหาหลากหลาย ทั้งความหย่อนคล้อย ความหมองคล้ำ ร่องลึก หรือแม้แต่ผิวที่ขาดน้ำและสุขภาพโดยรวม! เพราะผิวที่ดูกระจ่างใส เนียนละเอียด กระชับ และดูอ่อนเยาว์ ไม่ใช่เรื่องที่ได้มาโดยบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของการดูแลที่ถูกต้อง
ลำดับการฉีด Profhilo, Filler, Sculptra, Radiesse ในวันเดียวกัน
Filler (ฟิลเลอร์) – ฉีดก่อน
- เหตุผล: Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์แบบทันที ช่วยเติมเต็มและปรับโครงหน้า หากทำก่อน จะสามารถวางตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ และไม่มีผลต่อการกระจายตัวของ Profhilo
- ใช้ในบริเวณที่ต้องการโครงหน้า เช่น คาง ร่องแก้ม หรือขมับ
Sculptra หรือ Radiesse (สารกระตุ้นคอลลาเจน) – ทำถัดมา
- เหตุผล: Collagen stimulators มีการออกฤทธิ์ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว และควรได้รับตำแหน่งการฉีดที่แน่นอนก่อน Profhilo
- มักใช้ฉีดเพื่อสร้างโครงสร้างและความยืดหยุ่นของผิว เช่น บริเวณโหนกแก้ม หรือกรอบหน้า
Profhilo (ฉีดเป็นลำดับสุดท้าย)
- เหตุผล: Profhilo ช่วยในการปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับ และยืดหยุ่นทั่วทั้งใบหน้า ฉีดหลังสุดเพื่อเสริมคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยไม่รบกวนผลลัพธ์ของตัวอื่น
- ใช้ฉีดในบริเวณกว้าง เช่น ใบหน้าเต็มวงหรือที่คอ
ข้อควรระวังเมื่อฉีดในวันเดียวกัน
- ควรหลีกเลี่ยงการฉีดซ้อนทับในจุดเดียวกันของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการฟกช้ำ บวม หรือตำแหน่งผลิตภัณฑ์เคลื่อนผิดรูป
- ควรใช้เวลาพักระหว่างขั้นตอนเพื่อตรวจสอบตำแหน่งการฉีดว่าเหมาะสมหรือไม่
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลและให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ในกรณีที่ไม่ได้ฉีดในวันเดียวกัน
- อาจเริ่มการรักษาด้วย Profhilo ก่อนเพื่อปรับคุณภาพและความยืดหยุ่นของผิว แล้วเว้นช่วงประมาณ 2-4 สัปดาห์ก่อนฉีด Filler, Sculptra หรือ Radiesse เพื่อสร้างโครงหน้าเพิ่มเติม
- หรือในบางกรณี ฉีด Filler, Sculptra หรือ Radiesse ก่อน แล้วจึงใช้ Profhilo เป็นขั้นตอนเสริมความเนียนและกระชับในภายหลัง
บางเคสฉีดวันเดียวกันอาจจะไม่เหมาะสมที่สุด
ไม่ใช่ทุกเคสที่เหมาะสำหรับการฉีดในวันเดียวกันค่ะ การฉีดหลายโปรแกรมพร้อมกัน เช่น Profhilo, Filler, Sculptra, หรือ Radiesse ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อน เพื่อวางแผนตามความต้องการและสภาพผิวของแต่ละคน โดยคำนึงถึง
- ความเหมาะสมของการฉีด: สภาพผิว ปัญหาผิว และบริเวณที่ต้องการรักษา
- ความปลอดภัย: เพื่อลดโอกาสเกิดอาการบวม ฟกช้ำ หรือปัญหาจากตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ที่ซ้อนทับ
- ผลลัพธ์สูงสุด: บางกรณีควรแยกการรักษาออกเป็นหลายครั้งเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด เพื่อเลือกโปรแกรมการดูแลผิวที่ช่วยเสริมกันและให้ผลลัพธ์ดีที่สุดในแบบของคุณค่ะ