| คุณสมบัติ | คอลลาเจน (ชนิดทา) | เปปไทด์ |
|---|---|---|
| ขนาดโมเลกุล | ใหญ่ (มากกว่า 300 kDa) | เล็กมาก |
| การซึมผ่านผิว | อยู่แค่บนชั้นผิวหนังกำพร้า (Stratum Corneum) ไม่สามารถซึมสู่ชั้นผิวแท้ได้ | ซึมซาบสู่ผิวได้ง่ายและล้ำลึก |
| กลไกการทำงาน | ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) โดยการเคลือบผิวไว้ด้านบน | ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณ (Signal Molecule) สั่งการให้เซลล์ผิวทำงาน |
| ผลลัพธ์หลัก | ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวชั้นนอกชั่วคราว | – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน%%BR%%- ชะลอการสลายของคอลลาเจนเดิม%%BR%%- ลดเลือนริ้วรอย%%BR%%- เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับ |
| เหมาะกับใคร | ผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นผิวแบบเร่งด่วน ผิวแห้งขาดน้ำ | ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว |
| ตัวอย่างในส่วนผสม | Hydrolyzed Collagen, Soluble Collagen | – Palmitoyl Tripeptide-5%%BR%%- Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline)%%BR%%- Copper Tripeptide-1 |
เปปไทด์มีประสิทธิภาพดีกว่าคอลลาเจนชนิดทา เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและลึกกว่า ในขณะที่คอลลาเจนมีโมเลกุลใหญ่กว่า 300 kDa จึงซึมผ่านได้แค่ชั้นผิวหนังกำพร้า (Stratum corneum) และให้ผลลัพธ์เพียงความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่เปปไทด์ทำหน้าที่เป็น Signal Molecule ที่ส่งสัญญาณกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งช่วยชะลอการสลายตัวของคอลลาเจนเดิม ผลลัพธ์คือช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น โครงสร้างผิวแข็งแรง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด






