ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

เติมฟิลเลอร์ตอนอายุน้อย จะอยู่นานกว่าเติมตอนอายุเยอะจริงไหม

ต้องบอกว่าจริงบางส่วน แต่มันไม่ใช่ทุกคน ทุกบริเวณ และทุกครั้งค่ะ

การที่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยหลักที่ส่งผลคือ ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด และกระบวนการสลายของร่างกายแต่ละบุคคล แม้ว่าการฉีดตอนอายุน้อยอาจมีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้ดีขึ้นเล็กน้อยจากสภาพผิวที่สมบูรณ์กว่า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด

เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ Juvederm ที่ D' Lovevery Clinic คลินิกมาตรฐานใกล้บ้านคุณ พร้อมดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จองคิวเลย สาขารามคำแหงและ CDC
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับรูปหน้าผากนูนสวย รับโหงวเฮ้ง ที่ D' Lovevery Clinic โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปลอดภัย เห็นผลจริง | สาขารามคำแหงและ CDC เลียบด่วน

ความเชื่อนี้…มีส่วนจริง แต่ไม่ทั้งหมดนะค

หมอเข้าใจว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง ซึ่งความจริงแล้ว การที่ฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว ค่ะ แต่มีหลายปัจจัยสำคัญมากๆ ที่ส่งผลต่อการสลายตัวของฟิลเลอร์ในร่างกายของเรา

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์

จริงๆ แล้วมีหลายสิ่งเลยค่ะที่ทำให้ฟิลเลอร์ของเราอยู่ได้ไม่เท่ากันในแต่ละคน ไม่ว่าจะเติมตอนอายุเท่าไหร่ก็ตาม

1. ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีคุณสมบัติและ ความคงตัวที่แตกต่างกัน ค่ะ ฟิลเลอร์บางชนิดถูกออกแบบมาให้อยู่ได้นานกว่า (เช่น รุ่นที่มีความหนืดสูง อนุภาคใหญ่) ในขณะที่บางชนิดก็ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มในชั้นตื้นๆ และอาจสลายได้เร็วกว่าค่ะ การเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาและบริเวณที่ฉีดจึงสำคัญมากค่ะ

2. บริเวณที่ทำการฉีด

จุดที่เราเติมฟิลเลอร์ก็มีผลต่ออายุการใช้งานนะคะคนไข้ บริเวณที่มีการขยับเยอะๆ หรือมีเลือดไปเลี้ยงมาก เช่น ริมฝีปาก ร่องแก้มลึกๆ หรือหน้าผาก ฟิลเลอร์มีแนวโน้มที่จะสลายตัวได้เร็วกว่าบริเวณที่ขยับน้อยๆ เช่น ใต้ตา ขมับ หรือโหนกแก้มค่ะ

3. การดูแลตัวเองหลังฉีด

เรื่องนี้สำคัญมากเลยค่ะคนไข้ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราได้นานขึ้น เช่น หลีกเลี่ยงความร้อนจัดๆ (ซาวน่า เลเซอร์บางชนิดที่ลงลึกถึงชั้นฟิลเลอร์) การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดี และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการขยับซ้ำๆ เช่น การนวดหน้าแรงๆ หรือการแสดงสีหน้าจัดๆ ก็ล้วนส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ทั้งสิ้นค่ะ

4. กระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกายแต่ละคน

อันนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลเลยค่ะ ร่างกายของแต่ละคนมีกระบวนการสลายสารต่างๆ ที่ไม่เท่ากัน บางคนอาจจะมีระบบเผาผลาญที่ดีมากๆ ฟิลเลอร์ก็อาจจะสลายได้เร็วกว่าคนอื่นได้บ้างค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกายเราค่ะ

แล้วเรื่องอายุล่ะ? เกี่ยวข้องยังไง?

เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายของเรามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งเรื่องของคอลลาเจนและอีลาสตินที่ลดลง ผิวหนังและเนื้อเยื่อรอบๆ ฟิลเลอร์อาจจะไม่ได้แข็งแรงเต่งตึงเท่าตอนอายุน้อยๆ การไหลเวียนเลือดที่อาจไม่ดีเท่าตอนหนุ่มสาว และกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ต่างๆ ก็ช้าลงด้วยค่ะ

ดังนั้น ในบางกรณี การที่ร่างกายยังอ่อนเยาว์อยู่ อาจมีส่วนช่วยให้ สภาพผิวและเนื้อเยื่อโดยรอบมีความสมบูรณ์กว่า ทำให้ฟิลเลอร์สามารถคงสภาพและเกาะตัวกับเนื้อเยื่อได้ดีกว่าเล็กน้อย และอาจทำให้รู้สึกว่าฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นค่ะ แต่! ปัจจัยอื่นๆ ที่หมอพูดถึงไปข้างต้นก็สำคัญไม่แพ้กัน นะคะ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ นะคะ: สมมติว่าคนไข้มีผิวหน้าที่แข็งแรง เต่งตึง เหมือนฟองน้ำใหม่ๆ ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปก็จะเกาะตัวได้ดีและถูกโอบอุ้มไว้แน่นหนา ทำให้สลายช้าลงได้บ้างค่ะ แต่ถ้าผิวเราเริ่มเสื่อมสภาพลงบ้างแล้ว เปรียบเหมือนฟองน้ำที่ใช้งานมานาน ฟิลเลอร์ที่เติมเข้าไปก็อาจจะไม่สามารถยึดเกาะได้แน่นเท่าเดิม ทำให้รู้สึกว่าอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควรค่ะ

อยากหน้าเด็ก เติมฟิลเลอร์จุดไหนดี ใช้รุ่นไหนดี ราคาเท่าไหร่ ใช้กี่ cc
ช่วงอายุการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิวและใบหน้าเหตุผลที่อาจต้องใช้ฟิลเลอร์มากขึ้น / แนวทางการรักษา
25 – 35 ปี• ผิวมีความยืดหยุ่นสูง คอลลาเจนและไขมันยังสมบูรณ์
• อาจมีปัญหาริ้วรอยตื้นๆ หรือต้องการปรับรูปทรงเล็กน้อย
(เช่น เติมหน้าผากให้โหนกนูน, ปรับรูปปาก)
• ใช้ฟิลเลอร์ปริมาณไม่มาก
• เน้นการปรับแก้จุดเล็กๆ หรือเติมเพื่อความสวยงาม (Enhancement)
• เหมือนการ “แต่งเติม” บนโครงสร้างที่ดีอยู่แล้ว
35 – 45 ปี• เริ่มเห็นสัญญาณการสูญเสียปริมาตร
• ร่องใต้ตาเริ่มลึกขึ้น ร่องแก้มชัดขึ้น
• ไขมันชั้นตื้นเริ่มฝ่อตัวลงบ้าง
• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะเริ่มมากขึ้น
• เป็นการ “เติมเต็ม” (Correction) ในส่วนที่เริ่มขาดหายไป เช่น เติมใต้ตา, ร่องแก้ม
• อาจต้องใช้ฟิลเลอร์เพื่อพยุงผิวในบางจุด
45 – 55+ ปี• การยุบตัวของกระดูกและไขมันชั้นลึกเห็นได้ชัดเจน
• ความหย่อนคล้อยของผิวมีมากขึ้น
• เกิดร่องลึกหลายตำแหน่ง เช่น ร่องน้ำหมาก, แก้มตอบ
• ต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากขึ้นอย่างชัดเจน
• ไม่ใช่แค่การเติม แต่เป็นการ “ยกพยุงและสร้างโครงสร้างใหม่” (Lifting & Volumizing)
• อาจต้องใช้ฟิลเลอร์หลายชนิดในบริเวณต่างๆ เพื่อสร้างมิติและทดแทนปริมาตรที่หายไปในหลายๆ ชั้นผิว

คำแนะนำ

ความจริงที่ว่า “เติมฟิลเลอร์ตอนอายุน้อยจะอยู่นานกว่า” นั้น มีส่วนถูกแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ค่ะ ปัจจัยที่สำคัญกว่าคือชนิดของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ บริเวณที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด และกระบวนการสลายของร่างกายแต่ละบุคคล ค่ะ ดังนั้น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หากเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหา เข้าใจการดูแลตัวเอง และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถสวยด้วยฟิลเลอร์ได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าแน่นอนค่ะ

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย