ข้อเสียของการตัดไขมันกระพุ้งแก้ม (Buccal Fat Pad Removal)
ใบหน้าอาจดูแก่มากขึ้นเร็วกว่าปกติ
ไขมันกระพุ้งแก้มเป็นไขมันธรรมชาติที่ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบ เด็ก และสมส่วน แต่เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันที่ใบหน้าและมวลกระดูกจะลดลงตามธรรมชาติ ถ้าตัดไขมันส่วนนี้ออกตั้งแต่ยังวัยรุ่น พอถึงวัย 40–50 ใบหน้าจะยิ่งตอบ แก้มจะดูยุบและแก่กว่าวัย เพราะขาดไขมันค้ำผิว
ผิวบริเวณแก้มอาจหย่อนคล้อยง่ายขึ้น
ไขมันกระพุ้งแก้มช่วยค้ำผิวแก้มส่วนล่าง หากเอาออกไปมากเกินไป หรือเอาออกตั้งแต่อายุน้อยๆ ผิวช่วงแก้มล่างจะขาดการพยุง เมื่ออายุมากขึ้นแรงโน้มถ่วงและผิวที่เสื่อมสภาพตามวัยจะดึงให้แก้มห้อยหรือหย่อนคล้อยง่ายขึ้น
รูปหน้าตอบผิดธรรมชาติ
ตำแหน่งของไขมันกระพุ้งแก้มอยู่ค่อนล่างและลึกกว่ากระดูกโหนกแก้ม ถ้าตัดออก บางรายจะเห็นเป็นร่องหรือบุ๋มช่วงข้างมุมปากโดยเฉพาะเวลายิ้มหรืออมแก้ม ทำให้หน้าดูเหลี่ยมหรือซูบตอบเกินไป ซึ่งบางคนจะดูเครียด หมอง หรือดูอายุเยอะโดยไม่ตั้งใจ
ผลลัพธ์ถาวรและไม่สามารถนำกลับคืนได้
หากเอาไขมันส่วนนี้ออกไปแล้ว ไม่สามารถคืนกลับมาได้เหมือนเดิม หากไม่ชอบผลลัพธ์ ต้องแก้ด้วยการเติมฟิลเลอร์หรือฉีดไขมัน ซึ่งผลแค่ชั่วคราวและไม่เหมือนไขมันจากธรรมชาติแท้ๆ
ตำแหน่งแก้มตอบจากการตัดไขมันแตกต่างจากแก้มตอบโดยการเสื่อมของกระดูกตามวัย
การตัดไขมันกระพุ้งแก้มทำให้แก้มช่วงล่าง (ใกล้มุมปาก) ตอบ แต่แก้มตอบในผู้สูงวัยจะเกิดตรงโหนกแก้มและใต้ตา ดังนั้นในผู้ที่เคยตัดไขมันออกไปจะเห็นความตอบซ้ำซ้อน ทำให้หน้าซูบและโรยเร็วกว่าปกติ
อาจมีความเสี่ยงต่อเส้นประสาท กล้ามเนื้อ หรือเกิดพังผืด
หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์น้อย อาจกระทบเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อ ทำให้แก้มผิดรูป หรือรู้สึกชาได้

ถ้าจะเติมแก้มตอบด้วยฟิลเลอร์ช่วยได้ไหม
ถ้านับเฉพาะเคสที่ตัดไขมันกระพุ้งแก้มแบบนี้มา
- เติมฟิลเลอร์ช่วยได้ 50–80% (โดยประมาณ ขึ้นกับปริมาณที่เคยตัดออก, โครงสร้างหน้า และการตอบสนองของแต่ละบุคคล)
- ไม่สามารถแทนที่ธรรมชาติ 100% และต้องเติมซ้ำเรื่อย ๆ
- หากตัดกระพุ้งแก้มออกมาก อาจต้องพิจารณาทางเลือกเสริมอื่นร่วมด้วย เช่น ฉีดไขมัน