ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

juvelook good skin ราคาเท่าไหร่

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

สารกระตุ้นคอลลาเจน

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

รู้จักหมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ใบอนุญาต ว.49465

แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าและการชะลอวัย ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

Juvelook คืออะไร ราคาเท่าไหร่ คำถามที่พบบ่อย

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง รับกล่องกลับบ้าน ผสมตัวยาต่อหน้า ติดตามผลการรักษา

โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่ รับ Voucher ไว้ใช้เป็นส่วนลด

500

บาท

ไม่มีหมดอายุ ไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ ใช้ได้กับทุกบริการของคลินิก

หมดเขต:

29/12/2025

“Turning back the hands of time is no longer a fantasy.” ประโยคนี้อาจฟังดูเหมือนฝัน แต่ในวงการความงามปัจจุบัน การมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง และเรียบเนียนโดยไม่ต้องพึ่งพามีดหมอหรือต้องเจ็บตัวบ่อยๆ นั้นเป็นจริงได้แล้วค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาคำตอบของผิวสวยสุขภาพดีแบบยั่งยืน

Juvelook (จูวีลุค) คือ Skin Booster ที่ไม่ใช่แค่ฟิลเลอร์หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) ทั่วไป แต่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง PDLLA (Poly-D,L-Lactic Acid) และ HA (Hyaluronic Acid) แบบไม่ผ่านการเชื่อมขวาง (Non-crosslinked) ค่ะ

โปรโมชั่น Juvelook และ Lenisna จาก D' LOVEVERY CLINIC ดีเลิฟเวอรี่คลินิก พร้อมเบอร์โทรสาขาพาซิโอ รามคำแหง และ Crystal Design Center (CDC)

ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ Juvelook สามารถมอบผลลัพธ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง โดยถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ตามธรรมชาติ (Neocollagenesis) ช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรง มีความยืดหยุ่น เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดค่ะ

รีวิวงานผิว Biostimulator

ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ Juvelook แตกต่าง

  • PDLLA (Poly-D,L-Lactic Acid): คือสารสังเคราะห์ที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ อนุภาคของ PDLLA ใน Juvelook มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดเล็กและมีรูพรุน (Porous & Microsphere) ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดการอักเสบและป้องกันการเกิดก้อนใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนังแล้ว PDLLA จะทำหน้าที่เป็นเหมือน “นั่งร้าน” ให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เข้ามายึดเกาะและกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจน Type 1 และ Type 3 ซึ่งเป็นคอลลาเจนชนิดที่สำคัญที่สุดต่อความอ่อนเยาว์และความยืดหยุ่นของผิวค่ะ
  • Non-crosslinked HA (Hyaluronic Acid): ไฮยาลูรอนิก แอซิด ชนิดที่ไม่ผ่านการเชื่อมขวาง ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ทันทีหลังการฉีด ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว และลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ PDLLA จะค่อยๆ ออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวต่อไปค่ะ
Juvelook และ Lenisna โดย D' LOVEVERY CLINIC พร้อมข้อมูลติดต่อ 2 สาขา: พาซิโอ รามคำแหง 064-424-6526 และ CDC 095-236-4546

Juvelook ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?

ด้วยคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนและเติมความชุ่มชื้นไปพร้อมกัน Juvelook จึงเป็นคำตอบสำหรับหลากหลายปัญหาผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบองค์รวมค่ะ

  • เพิ่มความยืดหยุ่นและยกกระชับผิว (Skin Elasticity & Lifting): ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ Juvelook จะเข้าไปช่วยสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ผิวจึงดูเต่งตึงและกระชับขึ้นค่ะ
  • ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย (Wrinkle Reduction): ริ้วรอยตื้นๆ บริเวณหน้าผาก รอบดวงตา หรือร่องแก้ม จะค่อยๆ จางลงและตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
  • ฟื้นฟูหลุมสิวและลดขนาดรูขุมขน (Acne Scar & Pore Minimizing): การสร้างคอลลาเจนใหม่จะช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่อบริเวณหลุมสิวให้ตื้นขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้รูขุมขนที่กว้างดูกระชับและเล็กลง ผิวจึงดูเรียบเนียนขึ้นค่ะ
  • ปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม (Overall Skin Quality): ผิวจะดูสุขภาพดีขึ้น มีความชุ่มชื้น ฉ่ำวาว อิ่มฟู และดูสดใสเปล่งปลั่งค่ะ
  • ลดรอยแตกลาย (Stretch Marks): สามารถใช้ Juvelook เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณรอยแตกลาย ช่วยให้รอยดูจางลงได้ค่ะ
เลือกอะไรดีระหว่าง Juvelook กับ Lenisna? ภาพสรุปข้อมูลจาก D' LOVEVERY CLINIC (ดีเลิฟเวอรี่คลินิก)

คอลลาเจนบูสเตอร์ที่ผสมผสานระหว่างกรดไฮยาลูโรนิก(HA) กับกรดโพลิแลกติก(PDLLA) เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนของผิว ทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น ช่วยให้ผิวกระชับอิ่มฟูยืดหยุ่น ฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวชั้นลึกทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ริ้วรอยดูจางลงอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ช่วยฟื้นฟูผิวที่แก่ก่อนวัย
  • เพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิว
  • ลดริ้วรอย ผิวเรียบเนียน
  • รูขุมขนเล็กลง
  • ลดรอยหลุมสิว
  • ช่วยปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส
คุณสมบัติ🔵 Juvelook🔴 Lenisna
ส่วนประกอบหลักPDLLA 42.5 mg + Non-crosslinked HA 7.5 mgPDLLA 170 mg + Non-crosslinked HA 30 mg
ชั้นผิวที่เหมาะชั้นหนังแท้ (Dermis Layer) หรือชั้นตื้นชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Layer) หรือชั้นลึก
เป้าหมายหลักฟื้นฟูคุณภาพผิว (Skin Rejuvenation)เติมเต็มปริมาตร (Volume Restoration)
เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องน้ำตาและริ้วรอยรอบดวงตาลดเลือนริ้วรอย
บริเวณลำคอปรับผิวให้กระจ่างใส, กระชับรูขุมขนลดเลือน
รอยแผลเป็นลดเลือนรอยแตกลาย
เติมเต็ม Volume ให้ใบหน้า (หน้าผาก, แก้ม, ขมับ)เติมเต็มร่องลึก
(ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก)ยกกระชับผิวกาย

ขั้นตอนการทำงานและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้

Juvelook จะถูกผสมกับน้ำกลั่นสำหรับฉีดยา (Sterile Water) ก่อนใช้ และอาจมีการผสมยาชาเพื่อลดความเจ็บขณะทำหัตถการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีด Juvelook เข้าไปในชั้นหนังแท้ (Dermis Layer) อย่างแม่นยำ

  • ผลลัพธ์ทันที: หลังฉีด HA จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและดูเต็มขึ้นทันทีค่ะ
  • ผลลัพธ์ระยะยาว: หลังจากนั้นประมาณ 4-6 สัปดาห์ PDLLA จะเริ่มกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนอย่างเต็มที่ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดในช่วง 2-3 เดือนหลังฉีดค่ะ
  • ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน: ผลลัพธ์จากการรักษาด้วย Juvelook สามารถคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลค่ะ

คำแนะนำในการรักษา

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ทำการรักษาต่อเนื่อง 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างทุกๆ 4-6 สัปดาห์ จากนั้นสามารถกลับมาทำซ้ำทุกๆ 12-18 เดือนเพื่อคงสภาพผิวที่ดีไว้ค่ะ

โปรแกรมฟื้นฟูผิว Juvelook และ Lenisna ที่ D' LOVEVERY CLINIC พร้อมข้อมูลติดต่อ"
8. "D' LOVEVERY CLINIC

Juvelook เหมาะกับใครและใครที่ควรหลีกเลี่ยง?

เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่ต้องการป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอย
  • ผู้ที่กังวลเรื่องปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ขาดความยืดหยุ่น
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยตื้นๆ บนใบหน้า ลำคอ หรือหลังมือ
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน อิ่มฟู และกระจ่างใสขึ้น

ข้อควรระวังและผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ

  • สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของ Juvelook (PDLLA, HA)
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Autoimmune disease)
  • ผู้ที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่จะทำการรักษา
  • ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

การเตรียมตัวก่อนและหลังทำ Juvelook

ก่อนทำ

  • งดยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามินอี, น้ำมันปลา อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง

หลังทำ

  • อาจมีอาการบวมแดงหรือรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองใน 2-3 วัน สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมได้ค่ะ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือถูบริเวณที่ทำหัตถการแรงๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
  • งดแต่งหน้าอย่างน้อย 12-24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ การสัมผัสความร้อนจัด เช่น ซาวน่า หรือการตากแดดจัดๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอและทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
ผิวมีกี่ชั้น-สรุปให้-Sculptra-เหมาะกับผิวชั้นไหน
คุณสมบัติโปรแกรม SCULPTRAโปรแกรม JUVELOOK
ส่วนประกอบหลักPDLLA + Hyaluronic AcidPLLA
กลไกการทำงานกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน เพิ่มความชุ่มชื้น
ฟื้นฟูผิว
กระตุ้นคอลลาเจนลึก เติมเต็มปริมาตรใบหน้า ลดริ้วรอยลึก
ผลลัพธ์เด่นผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น กระจ่างใสใบหน้าดูเต็มอิ่ม ยกกระชับ ลดริ้วรอยลึก
ปัญหาผิวเหมาะกับผิวแห้ง ขาดน้ำ, ริ้วรอยตื้น, รอยแตกลายเล็กๆ,
ผิวไม่กระชับเล็กน้อย, ผิวหมองคล้ำ, ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น
ผิวหย่อนคล้อยชัดเจน, ริ้วรอยลึก, แก้มตอบ, ใบหน้าขาดปริมาตร,
โหนกแก้มไม่ชัด, ใต้ตาลึก, ถุงใต้ตา, คอและเหนียงเริ่มหย่อน
ระยะเวลาผลลัพธ์6-12 เดือน1.5-2 ปี
จำนวนครั้งที่แนะนำ3 ครั้ง3 ครั้ง
ความเจ็บ/ ฟื้นตัวเจ็บเล็กน้อย คล้ายฉีดโบท็อกซ์ ไม่มีเวลาพักฟื้นอาจเจ็บมากกว่าเล็กน้อย มีส่วนผสมยาชาช่วย ทนได้ง่าย
เหมาะกับใครต้องการฟื้นฟูผิว เติมน้ำ ลดริ้วรอยเล็กๆ ผิวกระจ่างใสต้องการยกกระชับ เติมเต็มปริมาตร ลดริ้วรอยลึก ผิวหย่อนคล้อยชัด

ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ แข็งแรง และสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ด้วยผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงอยู่ยาวนาน จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัวค่ะ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ

Juvelook ราคา โปรโมชั่น

เบื่อใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยกวนใจ โปรแกรม 𝗝𝗨𝗩𝗘𝗟𝗢𝗢𝗞 ที่ D' Lovevery Clinic
ปริมาณราคา
1 cc3,999 บาท
1 ขวด/6 cc15,900 บาท
3 ขวด/18 cc44,900 บาท

“ไหมน้ำ” คือนวัตกรรมใหม่ที่ใช้การ “ฉีด” สารกระตุ้นคอลลาเจนลงใต้ผิวหนังเพื่อฟื้นฟูให้ผิวกลับมาเต่งตึง กระชับ แลดูอ่อนเยาว์ โดย ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น เหมือนการร้อยไหมแบบเดิมๆ ค่ะ ซึ่งไหมน้ำแต่ละชนิดก็จะมีจุดเด่นต่างกันไป เช่น PLLA (Sculptra) เน้นกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติPDLLA (Juvelook) เป็นสูตรไฮบริดที่ทั้งกระตุ้นคอลลาเจนและเติมความชุ่มชื้นPDO (Ultracol) ช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้ผิวตึงกระชับ และ PCL (Gouri) โดดเด่นเรื่องการลดริ้วรอยและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของคนไข้แต่ละคนค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

หากคนไข้ส่องกระจกแล้วเห็นว่าใต้ตา “เป็นร่องลึกชัดเจน” มีลักษณะยุบตัวลงไป การแก้ไขที่ตรงจุดคือ “การฉีดฟิลเลอร์” เพื่อเข้าไปเติมเต็มร่องนั้นให้ตื้นขึ้นค่ะ แต่ถ้าปัญหาหลักของคนไข้คือ “ผิวใต้ตาบาง” จนมองเห็นเป็นสีคล้ำๆ หรือมี “ริ้วรอยเล็กๆ” เยอะๆ แบบนี้การเลือกทำ “ไหมน้ำ” หรือ Biostimulator เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหนาและแข็งแรงขึ้น จะเป็นคำตอบที่เหมาะสมมากกว่าค่ะ ซึ่งในบางเคสอาจต้องทำทั้งสองอย่างร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ

อ่านเพิ่มเติม

สรุปให้เข้าใจง่ายที่สุดคือ แม้ Juvelook และ Sculptra จะเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนเหมือนกัน แต่มีความถนัดคนละด้านค่ะ Juvelook จะเน้นการฟื้นฟู “คุณภาพผิว” ในองค์รวม เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยตื้นๆ รูขุมขน และปัญหาใต้ตา ทำให้ผิวดูละเอียด เนียนใส และอิ่มฟูขึ้น ในขณะที่ Sculptra จะเน้นเรื่อง “การยกกระชับและปรับโครงสร้าง” เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ปรับกรอบหน้าให้คมชัด หรือเติมเต็มใบหน้าที่ดูตอบลงค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

Juvelook ช่วยลดริ้วรอย แต่ไม่ได้ออกฤทธิ์เหมือนโบท็อกซ์ Juvelook อาจช่วยปรับสภาพผิวและลดเลือนหลุมสิวได้บ้าง แต่ไม่ใช่วิธีการรักษาหลุมสิวโดยตรง

อ่านเพิ่มเติม

เบื้องต้นควรฉีด 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 4 สัปดาห์ก่อนเพื่อให้ผิวฟื้นฟู จากนั้นสามารถทิ้งระยะในการฉีดได้โดยฉีดทุกๆ 6 เดือนนะคะ

การฉีด Profhilo บริเวณใบหน้าจำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 1 ไซริงค์ (2 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 25,000 บาทค่ะ แต่หากเป็นการฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอ จำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 2 ไซริงค์ (4 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 45,000 บาทค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ปัญหาขอบตาคล้ำและใต้ตาลึกถือเป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิตของคนวัยทำงานและสาว ๆ หลาย ๆ คน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งกรรมพันธุ์ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแม้แต่โครงสร้างผิวที่เริ่มบางลงเมื่ออายุมากขึ้น ปัจจุบันทางการแพทย์มีทางเลือกในการแก้ไขอยู่มากมาย ทั้งแบบแก้ด่วนและฟื้นฟูระยะยาว แต่สิ่งสำคัญคือแต่ละวิธีให้ผลลัพธ์และความรวดเร็วที่ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน กลุ่มฟิลเลอร์ใต้ตาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันทีหลังฉีด เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนลุคในเวลาอันสั้น รองลงมาคือเมโสใต้ตาที่ช่วยให้ผิวใต้ตาสว่างกระจ่างใสในไม่กี่วัน ขณะที่เลเซอร์และ กลุ่มไหมน้ำ จะค่อย ๆ ฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติและชัดเจนในระยะยาว ดังนั้นการเลือกวิธีที่เหมาะสมจึงควรขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนและความต้องการที่ชัดเจนค่ะ หมอทำข้อมูลเพิ่มเติมให้ด้านล่างนะคะ

อ่านเพิ่มเติม

คนไข้บอกรักพี่เสียดายน้อง อันนี้เพื่อนบอกดี ยี่ห้อนี้ ดาราบอกดี หมอสรุปให้แบบนี้ค่ะ

ทั้งสองตัวเป็นกลุ่ม “Biostimulator” คือยากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว แต่แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นและวิธีออกฤทธิ์ต่างกัน แบบนี้ถ้าเราฉีดพร้อมกันในวันเดียว หรือจุดเดียวกัน อาจทำให้ผิวสับสน ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เต็มที่ หรือผิวมีโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น ก้อนแข็งหรือการอักเสบได้มากขึ้นค่ะ และที่สำคัญ เราจะไม่รู้ว่า ตัวไหนทำงานได้ดีกับผิวเรา เพราะมันเข้าไปพร้อมกัน จุดเดียวกัน นึกภาพตามหมอได้เลย

ถ้าคนไข้มีปัญหาหลายอย่าง หมอจะวางแผนเลือกใช้ให้เหมาะสม แยกเป็นรอบหรือเลือกต่างจุด อย่างเช่น Sculptra หมออาจใช้เติมวอลลุ่มลึกๆ ส่วน JuveLook เหมาะกับผิวบางหรือใต้ตา ผลัดกันดูแลทีละอย่าง จะปลอดภัยกว่าและได้ผลสวยนาน หมออยากให้คนไข้มั่นใจว่าวิธีนี้ปลอดภัยกับผิวหน้าที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

หลังจากฉีด Sculptra แล้ว แนะนำให้เว้นระยะห่างก่อนที่จะฉีด โบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ค่ะ

เหตุผลก็เพราะ Sculptra จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึกซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะในการเซตตัวและกระจายวัสดุให้ทั่วบริเวณที่ฉีดค่ะ การรบกวนด้วยหัตถการอื่นๆ (เช่น การเติมฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์) อาจทำให้ผลลัพธ์ของ Sculptra ไม่สวยอย่างที่ควรจะเป็น หรือเพิ่มความเสี่ยงบวม/ช้ำมากขึ้น

ยกเว้นว่าอยากฉีดลดกราม สามารถฉีดไปพร้อมกันได้เลย เพราะโบท็อกซ์กรามฉีดเข้ากล้ามเนื้อกรามโดยตรง และไม่ส่งผลต่อการบวมช้ำ ทับซ้อนกับตำแหน่งฉีดพวก Biostimulator

อ่านเพิ่มเติม

ใช้เวลารับบริการ:

60

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

ฟื้นฟูคอลลาเจน เทรนด์ผิวสวย ด้วย Biostimulator

★★ ความประทับใจ ★★

google
Junny Berry
Junny Berry
13/06/2025
google
Pakjira Lerttaweevit
Pakjira Lerttaweevit
24/12/2024
facebook
Pakjira Leattaveevit
Pakjira Leattaveevit
แนะนำเลย
24/12/2024
facebook
Zypher Kun
Zypher Kun
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Hana Mizu
Hana Mizu
แนะนำเลย
16/06/2024
google
วริศรา บํารุงชาติ
วริศรา บํารุงชาติ
16/06/2024
Chuttanun Thirawadee
Chuttanun Thirawadee
29/04/2024