ทาครีมกันแดดเป็นประจำ แต่ทำไมยังเป็นฝ้า? สาเหตุที่คุณอาจไม่รู้
หลายคนทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แต่ก็ยังพบปัญหาฝ้าบนใบหน้า ทำให้เกิดคำถามว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงสาเหตุยอดฮิตที่อาจทำให้คุณเป็นฝ้าแม้จะทาครีมกันแดดเป็นประจำ
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือการสัมผัสกับรังสียูวีจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากแสงแดด หลายคนมักโฟกัสเพียงการป้องกันแสงแดดในช่วงกลางวัน แต่ลืมไปว่ารังสียูวีสามารถมาจากแหล่งอื่นได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแสงไฟบางประเภท
ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ทำงานในสตูดิโอถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอเป็นประจำ มักต้องอยู่ภายใต้แสงไฟที่มีความเข้มสูงเป็นเวลานาน แสงไฟเหล่านี้อาจปล่อยรังสียูวีในปริมาณที่มากพอจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนังได้ หากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม ก็อาจนำไปสู่การเกิดฝ้าได้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดฝ้า แม้จะทาครีมกันแดดเป็นประจำ เช่น:
- การทาครีมกันแดดไม่ถูกวิธี เช่น ทาในปริมาณที่น้อยเกินไป หรือไม่ทาซ้ำตามเวลาที่กำหนด
- การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำเกินไปสำหรับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่
- ปัจจัยภายใน เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครียด หรือพันธุกรรม
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมกระตุ้นให้ผิวไวต่อแสง
เพื่อป้องกันการเกิดฝ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติดังนี้:
- ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้ในวันที่อยู่ในร่ม
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และมีการป้องกันรังสี UVA และ UVB
- ทาครีมกันแดดให้ทั่วทุกส่วนของผิวที่สัมผัสแสงแดด รวมถึงใบหน้า ลำคอ และหลังใบหู
- ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หรือหลังเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
- ใช้อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น หมวก แว่นกันแดด เพื่อเพิ่มการป้องกัน
ดังนั้น การป้องกันฝ้าอย่างมีประสิทธิภาพจึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การทาครีมกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้งเท่านั้น แต่ควรคำนึงถึงการป้องกันรังสียูวีจากแหล่งอื่นๆ ด้วย รวมถึงการดูแลสุขภาพผิวแบบองค์รวม เพื่อให้ผิวแข็งแรงและต้านทานต่อปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดฝ้าได้ดียิ่งขึ้น