จุดเด่นของ Sculptra

The first & original collagen biostimulator คอลลาเจนที่มีความสําคัญกับผิวหนังของเรามากที่สุด ก็คือคอลลาเจน ประเภทที่ 1 Sculptra ช่วยกระตุ้น Collagen Type I ให้เพิ่มกว่า 66.5% สภาพผิวแก่ช้าลง 10 ปี นอกจากนั้น Sculptra มีสภาพที่คงตัวและเร่งปฏิกริยาการเพิ่ม Collagen ได้เอง ต่อเนื่องนาน 2 ปี ซึ่งนานที่สุดเท่าที่เคยมีงานวิจัยมา

• ฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อย
• เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว
• พยุงโครงสร้างผิว ให้ผิวแน่นขึ้น
• ยกกระชับ ปรับรูปหน้า
• ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
• หลังรับบริการ รักษาตามจุดที่หย่อนคล้อยเห็นผลว่าหน้ายกกระชับขึ้นทันที
• หลังรักษาไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ เช่น บวม แดง เป็นก้อน
• มาตรฐาน USFDA approved และผ่าน อย. ประเทศไทย มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย
• ได้รับความนิยมมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

ผิวเสื่อมจากอะไร แสงแดด และอายุที่มากขึ้น

Biostimulator คืออะไร มีหน้าที่อะไร

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• เสริมโครงสร้างใหม่ของผิวหน้า
• เพิ่มความยืดหยุ่น และความหนาแน่นของผิวหน้า

Biostimulator ใน Sculptra ต่างจากตัวอื่นๆยังไง

Biostimulator ชนิดอื่น ๆ อาจมีผลที่ดีในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ผลอาจจะไม่คงทนนานเท่า Sculptra และต้องมีการเข้ารักษาซ้ำในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในระยะยาว ๆ เมื่อเทียบกับการรักษาเพียงครั้งเดียว ที่จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่อยู่ได้ยาวนานกว่า (สูงสุด 25 เดือน ตามผลการวิจัย)

Sculptra คืออะไร

ผลิตภัณฑ์ biostimulator ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Galderma มีส่วนประกอบหลักคือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งเป็นสารไม่ตกค้าง ถูกใช้อย่างกว้างขวางเป็นระยะเวลานาน และได้รับการยอมรับจาก US FDA (อย.ประเทศสหรัฐอเมริกา) และ อย. ในประเทศไทย ให้สำหรับการสร้างคอลลาเจนใหม่บนผิวหน้า นอกจาก เติม เสริม สร้าง ตัดหรือแต่งแล้วคอลลาเจนแล้ว….. ถึงเวลาที่อาจจะต้อง “ซ่อมคอลลาเจน” Sculptra เรียกว่า PLLA กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว เป็นการเรียกเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า แมคโครฟาจ มาช่วยในการทํางาน ทําให้คืนความ อ่อนเยาว์อย่างป็นธรรมชาติ ซึ่งจะคงปริมาตรได้ดีกว่า Hyaluronic Acid ทั่วไป โดยสลายตัวช้ากว่าทําให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์มาก และเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่คงทนนานๆ โดยไม่ต้องมีการเข้ารักษาซ้ำบ่อยๆ

PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid ปลอดภัยจริงไหม

Poly-L-Lactic acid ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกาที่เราคุ้นหูกันก็ USFDA นั่นแหล่ะค่ะ และถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างใต้ชั้นลึกของผิว เพื่อยกกระชับและลดริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

Sculptra ควรฉีดตรงจุดไหนบ้าง

𝗣𝗼𝗹𝘆-𝗟-𝗟𝗮𝗰𝘁𝗶𝗰 (𝗣𝗟𝗟𝗔) จัดอยู่ในกลุ่ม 𝗖𝗼𝗹𝗹𝗮𝗴𝗲𝗻 𝗕𝗶𝗼𝘀𝘁𝗶𝗺𝘂𝗹𝗮𝘁𝗼𝗿 เป็นสารฉีดกระตุ้น ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเราเองตามกระบวนการธรรมชาติ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยทำให้ผิวแน่น อิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น สามารถเติมเต็มคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวแน่นขึ้นอย่างเป็นระเบียบ ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับ รวมไปถึงร่องแก้ม ร่องมุมปาก ลดเลือนริ้วรอย ผิวเต่งตึงเรียบเนียนขึ้น คืนความสมดุลให้ผิวอิ่มน้ำ ผิวละเอียด แก้ปัญหาผิวหยาบกร้านได้ดี

Sculptra ดียังไง ทำงานอย่างไร

• Sculptra ถูกผสมด้วย sterile water ถูกฉีดในผิวหนังชั้นลึก Subcutaneous
• ผิวจะดูเติมเต็มทันทีหลังการฉีด Sculptra เนื่องจากปริมาตรน้ําที่ฉีดเข้าไป
• หลังจากฉีด 2–3 วัน น้ําและส่วนประกอบต่างๆ จะถูกดุดซึม เข้าสู่ร่างกาย โดยจะเหลือเพียงแค่อนุภาคของ Sculptra ทําให้อาจจะเห็นร่องลึก ริ้วรอยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
• อย่างไรก็ตาม Sculptra จะเริ่มกระตุ้นผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยดึงเซลล์ Macrophages มาล้อมรอบ อนุภาคของ Sculptra จํานวนมาก และมีการส่งสัญญาณ ให้เซลล์ Fibroblast เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น
• Fibroblast เป็นเซลล์ต้นกําเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน
• ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง จึงทําให้ผิวมี ความแข็งแรง และกระชับ
• เมื่อเวลาผ่านไป อนุภาคของ Sculptra จะค่อยๆหายไป เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่มาสะสมแทน และฟื้นฟูความแข็งแรง
• โครงสร้างผิวหนังในระยะยาว ช่วยยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูคุณภาพผิวยาวนาน 24-25 เดือน เป็นการกระตุ้นและการสร้างคอลลาเจน Type 1 Sculptra สามารถฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อยู มาด Volume ช่วยทําให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์มากขึ้น

Sculptra เหมาะกับใคร

• ผิวไม่แน่น ไม่เฟิร์มกระชับ จับแล้วผิวหลวมๆ (ทดสอบจับหน้า จับคอแล้วดึงผิวหนังออกได้เลยค่ะ ถ้าเด้งไว คืนตัวไว แสดงว่าผิวยังดีอยู่ แต่ถ้าคืนตัวช้า รู้สึกว่ามีแต่หนังล้วนๆ เป็นอาการของคอลลาเจนเริ่มถดถอยแล้ว)
• ผู้ที่กังวลฟิลเลอร์ว่ามันคือสารแปลกปลอมมาตลอดชีวิต นี่อาจจะถึงเวลาที่ต้องตั้งคำถามว่า จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถ ลดริ้วรอยได้ได้โดยไม่ต้องใช้ฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ แถมยังได้ผลยาวนานมากกว่า

Sculptra ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

แม้ว่า Sculptra สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของผิวหน้าในระยะยาวนานมากกว่า 24 เดือน แต่ปัญหาผิวแต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน ซึ่งถึงระยะเห็นผลก็ขึ้นอยู่กับปัญหามากน้อยของคนไข้แต่ละท่าน ดังนั้นต้องประเมินผิวหน้าอย่างละเอียดก่อนรับบริการ ซึ่งหมอจะต้องแนะนำ 1 ครั้ง และติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด หากในเคสที่มีปัญหาผิวเยอะๆ อาจจะต้องมีการทำซ้ำ 1-2 ครั้ง/ปี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

Sculptra เสริมสร้าง ซ่อมแซมคอลลาเจนใต้ผิว

เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไปเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิว ปีละ 1-2% และเมื่ออายุถึงวัย 45 ปีการสร้างคอลลาเจนในผิว จะยิ่งเริ่มลดน้อยลง สัญญาณอย่างหนึ่งที่มองเห็นได้คือ ผิวจะไม่กระชับเหมือนเดิม เกิดริ้วรอยต่างๆที่ชัดเจนขึ้น ซึ่ง Sculptra หรือ Original Collagen Biostimulator เป็นตัวกระตุ้นให้เกิด การสร้างคอลลาเจนในร่างกายของตัวเองตามธรรมชาติ ให้เพิ่มมากขึ้น โดยตามผลการวิจัยจะสามารถ Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน

Collagen type I คืออะไร สำคัญยังไง

คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของทั้งผิวหนัง ผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ที่มีสัดส่วนสูงถึง 80% ซึ่ง Collagen แบ่งออกเป็น Type I, II, III

• Collagen Type I พบในผิวเด็กและผู้ใหญ่ที่แข็งแรง เป็นคอลลาเจนที่เราต้องการมากที่สุด พบได้ที่ผิวหนังชั้น Dermis และ กระดูก
• Collagen Type II พบได้บริเวณกระดูกอ่อนตามข้อต่อ
• Collagen Type III พบในผิวเด็กและผู้ใหญ่ที่แข็งแรง บริเวณผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และหลอดเลือดแดง

Collagen Type I & III เป็น Collagen ที่อยู่ในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) Collagen Type I จะพบมากที่สุดในร่างกายและเป็นผู้ให้โครงสร้างให้กับผิวหนัง ในขณะที่ Collagen Type III จะทำงานร่วมกับ Collagen Type I ในผิวหนัง เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความยืดหยุ่นของผิว พอมนุษย์เรา (ทุกเชื้อชาติ มีอายุ 20-25 ปีขึ้นไป Collagen Type I และ Collagen Type III ก็จะเริ่มลดลง เฉลี่ยอย่างน้อย 1% ต่อปี ทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา จนเป็นสาเหตุให้ต้องมีนวัตกรรมทางการแพทย์ออกมาเพื่อชะลอความเสื่อมของคอลลาเจน ของผิวอยู่ทุกปีๆนั่นเองค่ะ Type I Collagen

คอลลาเจนใต้ผิว หายเยอะที่สุดเมื่ออายุเท่าไหร่

จะมีคนตกใจไหม? ถ้าหมอจะบอกว่า เมื่อเราอายุ 20 ปีขึ้นไป ร่างกายเราจะสูญเสียคอลลาเจน 1-2% ทุกปี *และมากกว่านั้นในบางราย ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย

ไม่ต้องกังวลมากนะคะ ถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์อยู่แล้วค่ะ

เพราะเมื่อเวลาผ่านไปบวกกับอายุที่มากขึ้น โครงสร้างของใบหน้าและผิว จะมีการเปลี่ยนแปลงการสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง จึงทําให้สังเกตเห็นได้ชัดว่า ผิวมีความหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนสําคัญในการพยุงโครงสร้างของผิว หากคอลลาเจนลดลงจะทําให้ผิวหย่อนคล้อยและเสียรูปทรงได้

โครงกระดูกใบหน้าจะเปลี่ยนแปลงรูปทรงตามการสลายของกระดูก Volume loss (มีการสูญเสียปริมาตรบนใบหน้า) ส่งผลให้ใบหน้าตอบและไม่สดใส ที่สําคัญเลยคือเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวน การสร้างคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลง โดยปกติจะเริ่มสร้างลดลงตั้งแต่อายุเข้าประมาณ 20 ปี และเมื่ออายุถึงวัย 45 ปี การสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง จึงทําให้สังเกตเห็นได้ชัดว่า ผิวมีความหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนสําคัญในการพยุง โครงสร้างของผิวหากคอลลาเจนลดลงจะทําให้ผิวหย่อนคล้อย และเสียรูปทรงได้

สรุปง่ายๆ คอลลาเจนคือโปรตีนที่มีเยอะที่สุดในร่างกายของคนเรา คิดเป็น 1 ใน 3 ของร่างกายของเราเลย ซึ่งชนิดที่มีเยอะที่สุดก็คือ Type I Collagen นั่นเอง

Sculptra แตกต่างจาก Gouri อย่างไร

สิ่งแรกที่เป็นความพิเศษของทั้ง 2 ตัว คือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมคอลลาเจน เพียงแต่ว่าตัว Sculptra จะไม่ใช่ PCL เหมือนกับตัว Gouri และทั้งสองตัวนี้มีความปลอดภัยสูงทั้งคู่ เพราะไม่มีโมเลกุลใหญ่ที่จะเข้าไปทำการอุดตันเส้นเลือดได้ค่ะ ศึกษาเพิ่มเติม Gouri คืออะไร ดีอย่างไร ราคาเท่าไหร่

Sculptra กับการรักษาหลุมสิว

ในยุคที่มีการรักษาหลุมสิวหลากหลายวิธี ตั้งแต่วิธีดั้งเดิมในอดีต ถึงเลเซอร์ตัวแพง ตัวล่าสุดของโลก แม้จะได้ผลลัพธ์ดี ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกปัญหาหลุมสิว แต่หลักการของการรักษาหลุมสิว ก็จะยังเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้เกิดผิวใหม่อยู่ดี ซึ่งหมอคิดว่ามีโอกาสสูงมาก ที่จะนำ Sculptra มาร่วมกับการรักษาหลุมสิวในคลินิก เพราะลำพังเลเซอร์อย่างเดียวอาจจะไม่พอ เพราะเลเซอร์เน้นการรักษาผิวชั้นบนเป็นหลัก การบำรุงถึงชั้นผิวด้านล่างจึงจำเป็นต่อผลลัพธ์หลังทำของการรักษาหลุมสิวทุกประเภท

SCULPTRA สามารถรักษาร่วมกันกับ Thermage, Ulthera, เครื่องยกกระชับอื่นๆ ได้หรือไม่?

สามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ แถมยังช่วยเสริมผลการรักษาให้ดียิ่งขึ้น เพราะด้วยกลไกของ Sculptra จะเพิ่มจํานวนเซลล์ Fibroblast (เซลล์สร้างคอลลาเจน) ที่ผิวให้มากขึ้นและผิวที่มี Fibroblast หนาแน่น เมื่อได้รับการรักษาด้วย เลเซอร์ยกกระชับ ไม่ว่าจะ เป็น Thermage, Ulthera หรือ กลุ่ม Energy base อื่นๆ ก็จะยิ่งทําให้ ผิวสร้างคอลลาเจนได้มากกว่าเดิม ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะสมคือ ทําเลเซอร์ยกกระชับหลังจากฉีด Sculptra แล้ว 1-2 เดือน โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำ เรียงลำดับความสำคัญของวิธีที่เหมาะสมกับผิวคนไข้ก่อน ว่าควรเรียงลำดับการรักษาอย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี แก้ไขปัญหาผิวได้ตรงจุด

ฉีด SCULPTRA แล้ว ต้องฉีด Filler, Botox อยู่อีกไหม หรือสามารถรักษาร่วมกันได้หรือไม่?

สามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ แต่เป็นการรักษาในคนละบริเวณของใบหน้า สามารถทําพร้อมกันในครั้งเดียวได้เลย แต่หาก เป็นการรักษาบริเวณเดียวกัน หมอแนะนําให้เริ่มด้วย Sculptra แล้วทิ้งช่วง 1 เดือน เพื่อทําการรักษาด้วย Filler หรือ Botox เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ

Sculptra ขั้นตอนการรักษา

• ประเมินสภาพผิวกับแพทย์ (หมอต้าร์ ดูประวัติหมอคลิก) ก่อนรับบริการทุกครั้ง
• แพทย์แกะกล่อง Sculptra ต่อหน้า มั่นใจได้ของแท้
• แพทย์ทำการรักษาใช้เวลาประมาณ 30 นาที
• หลังรับบริการจะมีรอยเข็มบริเวณจุดที่แพทย์ทำการรักษา ซึ่งจะหายไปเองใน 1-2 ชม.
• รับคำแนะนำ การปฏิบัติตัวหลังรับบริการจากแพทย์และเจ้าหน้าที่คลินิก

รีวิว Sculptra

รีวิวความประทับใจเมื่อมารับบริการที่นี่

[wp_social_ninja id=”8127″ platform=”reviews”]

คําแนะนําหลังฉีด Sculptra

• หลังจากการฉีดคนใข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจําวันได้ตามปกติ
  ไม่จําเป็นต้องนอนพักฟื้น แต่สามารถประคบเจลเย็นบริเวณที่ทํา
• การฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมได้
• ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การอบซาวน่า การอบไอน้ําเป็น ระยะเวลา 24 ชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวี จนกว่าอาการบวมและแดงจะหายไป นอกจากนี้ต้อง
• ไม่ควรฉีดหรือทําการ รักษาหน้าด้วยหัตถการอื่นๆหลังจากที่ฉีด Sculptra 2-3 สัปดาห์
• หลังฉีด Sculptra ควรนวดหน้าโดย ต้องทําาการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้ง/วัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน) เพื่อให้อนุภาคสาร PLLA กระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งจะ ทําให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการฉีด Sculptra

• ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบ เช่นเป็นสิวอักเสบอย่างรุนแรง
• หญิงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
• อายุต่ำกว่า 18 ปี หมอไม่แนะนำให้รับบริการนะคะ

Sculptra ราคาเท่าไหร่

Sculptra ต้องฉีดด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

Sculptra สวย ปลอดภัย ไม่ใช่ที่ไหนก็ได้! ที่ คุณหมอต้องผ่านการเทรนอย่างถูกต้อง ฉีดถูกชั้นผิว ถูกเทคนิค มั่นใจได้รับยาเต็มประสิทธิภาพ ใช้ยาแท้ สั่งจากบริษัทโดยตรง ตรวจสอบได้ สลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง

✅ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ทุกระดับ
✅ ยิ่งอายุเยอะ ยิ่งเห็นความต่างเยอะ
✅ กระตุ้น Collagen Type 1 ถึง 66.5%
✅ เพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผิวแน่นอิ่มฟู
✅ หลังทำผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี
*ผลขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

สรุป Sculptra

• Sculptra ไม่ใช่ฟิลเลอร์ ไม่ได้เน้นฉีดเพื่อปรับรูปหน้า หรือเพิ่มปริมาตรบนใบหน้าหรือจุดที่รักษา
• Sculptra เกิดมาเพื่อซ่อม เสริมสร้าง คอลลาเจนที่เริ่มหายไปจากผิว เพื่อชะลอให้ผิวเราแก่ หย่อนคล้อย แห้ง เหี่ยวได้ช้าลง
• Sculptra จัดอยู่ในประเภท Skin booster Biostimulator ก็อย่างที่ทราบกลุ่มนี้กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้ดี
• Sculptra ผลลัพธ์หลังรักษา อยู่นานกว่าทุกตัวที่ผ่าน อย. ประเทศไทย พ.ค. 2566
• Sculptra รวมอยู่ในหมวดหมู่ สกินบูสเตอร์ ร่วมกับ Gouri, Rejuran, Belotero Rivive, Juvederm Volite, Restylane Vital Light คือฉีดให้ผิวสวย อิ่มฟู กระชับ แน่น ลดเลือนริ้วรอย
• Sculptra เหมาะกับคนที่ต้องการทำครั้งเดียวและต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่นานๆ
• Sculptra ผสานการรักษาร่วมกับเลเซอร์ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งผิวชั้นนอก และชั้นลึก

ดีเลิฟเวอรี่คลินิกอยู่ที่ไหน