ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

ที่คลินิกมีคอร์สลดน้ำหนักแบบไหนบ้าง

ตอบ:

D’ Resize – ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด มั่นใจในทุกไซส์

แคมเปญลดน้ำหนักจาก D’ Lovevery Clinic ที่ออกแบบมาเพื่อคนอยากเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสุขภาพ
ให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย พร้อมการดูแลโดยทีมแพทย์ทุกขั้นตอน แชร์เป้าหมาย ของการอยากลดน้ำหนักของคุณกับเราได้เลยค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด

โปรแกรมปากกาลดน้ำหนัก (Weight Loss Pen Programs)

D’ Wego (Semaglutide)

  • โปรแกรมใช้ปากกา Wegovy (Semaglutide) ผ่านการรับรองในระดับสากล
  • ช่วยลดน้ำหนักและควบคุมความอยากอาหาร ทำให้อิ่มนาน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่น้ำหนักเกิน (BMI ≥ 27 มีโรคร่วม หรือ BMI ≥ 30)
  • เหมาะกับผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
  • ผลข้างเคียงที่ควรรู้ อาจเกิดคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ปวดศีรษะ
  • ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและติดตามผลโดยแพทย์เท่านั้น
  • ไม่แนะนำในหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท
ขนาดจำนวนชุดราคา (บาท)
0.5 mg1 ชุด17,000
0.5 mg2 ชุด30,000
0.5 mg3 ชุด39,000
1 mg1 ชุด19,000
1 mg2 ชุด34,000
1 mg3 ชุด45,000

D’ Mounja (Tirzepatide)

  • ใช้ปากกา Mounjaro (Tirzepatide) เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ
  • กลไกช่วยควบคุมความอยากอาหาร อิ่มไว ลดน้ำหนักได้เร็ว
  • เหมาะกับคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน (BMI ≥ 27 มีโรคร่วม หรือ BMI ≥ 30)
  • เหมาะกับผู้ที่เป็นเบาหวานร่วมด้วย หรือไม่ตอบสนองกับการลดน้ำหนักวิธีอื่น
  • ผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก
  • ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ตลอดโปรแกรม
  • ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือผู้มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ตับอ่อน ไต
ขนาดจำนวนชุดราคา (บาท)
2.5 mg1 ชุด25,000
2.5 mg2 ชุด46,000
2.5 mg3 ชุด63,000
5 mg1 ชุด29,000
5 mg2 ชุด54,000
5 mg3 ชุด75,000

สนใจโปรแกรม D’ Resize สอบถามรายละเอียด/นัดหมายปรึกษาทีมแพทย์ได้ที่ D’ Lovevery Clinic ทุกสาขา
ทีมแพทย์พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทางการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสุขภาพ

การลดอาการข้างเคียงที่ทำได้เอง

โปรแกรมลดลดน้ำหนัก อาจพบผลข้างเคียงได้บ่อย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเบื่ออาหาร ขอแนะนำ 6 แนวทางปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ท่านสามารถปรับตัวและใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

  • รับประทานอาหารแต่พอดี ไม่ควรอิ่มจนเกินไป
  • แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อย่อย แทนการรับประทานอาหารมื้อใหญ่
  • หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารมัน และอาหารหวาน
  • เลือกโปรตีนที่ย่อยง่าย และอาหารที่มีใยอาหารสูง

2. เลี่ยงเครื่องดื่มที่อาจกระตุ้นอาการ

  • งดดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟเข้มข้น และน้ำอัดลม
  • ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ และจิบบ่อยๆ เพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้

3. จัดเวลาในการใช้ยาให้เหมาะสม

  • ควรฉีดยาเวลาเดียวกันในแต่ละสัปดาห์ เพื่อความต่อเนื่อง
  • หากมีอาการเวียนศีรษะหรืออ่อนเพลีย ควรหยุดพักให้ร่างกายได้ฟื้นตัว ก่อนจึงจะทำกิจกรรมต่อ

4. พักผ่อนให้เพียงพอ และมีวินัยในการนอน

  • ควรนอนวันละ 6-8 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการอดนอน หรือนอนผิดเวลา เนื่องจากจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและกระตุ้นความหิวได้ง่ายขึ้น

5. เริ่มใช้ยาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งปรับขนาดยา

  • เริ่มต้นที่ขนาด 2.5 mg ตามคำแนะนำของแพทย์ และปรับเพิ่มขนาดยาอย่างช้าๆ
  • การปรับยาแบบค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยให้ร่างกายปรับตัว และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ดี

6. สังเกตอาการตนเองอย่างสม่ำเสมอ

  • จดบันทึกอาการแต่ละวัน เช่น การนอนหลับ ความรู้สึกเวียนศีรษะ หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ
  • หากน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วจนผิดปกติ หรือมีอาการรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์

แชร์เป้าหมายการลดน้ำหนักของคุณกับเรา

ระยะเวลาเป้าหมายแนวทางอาหารออกกำลังกายคำแนะนำ
1 เดือน5 กิโลลด 500-800 kcal/วัน
เลือกอาหารคลีน/โปรตีนสูง
ลดน้ำตาล-ของหวาน
คาร์ดิโอ 5-6 วัน/สัปดาห์ (40-60 นาที/วัน)
เวทเทรนนิ่ง 2-3 วัน/สัปดาห์
ดื่มน้ำมากๆ
พักผ่อนให้เพียงพอ
ควบคุมสม่ำเสมอ
2 เดือน10 กิโลปรับลด/คุมพลังงานต่อเนื่อง
รักษาโปรตีน
เสริมผัก ผลไม้
ลดแป้งขัดขาว
คาร์ดิโอ+เวท 5-6 วัน/สัปดาห์ (ความหนักปานกลาง-สูง)เติมแรงต้าน/เวทในโปรแกรมเพิ่มกล้ามเนื้อ
ห้ามอดอาหาร
3 เดือน15 กิโลเคร่งครัดอาหารคลีน
เสริมวิตามินแร่ธาตุ
แบ่งมื้อย่อยๆ
คาร์ดิโอ 6 วัน/สัปดาห์
เวทเทรนนิ่ง 3-4 วัน/สัปดาห์
ถ้าเริ่มชะลอต้องปรับโปรแกรม
ปรึกษาแพทย์
*การปรับพฤติกรรมการทานอาหารและการออกกำลังกายขึ้นกับเฉพาะบุคคลค่ะ

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย

บริการของคลินิก