ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

หมอวัด รอบเอว/ส่วนสูง ตอนซื้อยาปากกาทำไม

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

“อ๋อ… การวัดรอบเอวหารด้วยส่วนสูงที่คนไข้ถาม จริง ๆ แล้วมันเป็นวิธีง่าย ๆ ที่หมอใช้ดูว่าเรามีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับไขมันในช่องท้องหรือเปล่า อย่างเช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูงค่ะ

วิธีนี้หมอจะดูว่าไขมันที่สะสมอยู่ตรงพุงของเรามันเยอะเกินไปไหม เพราะไขมันตรงนี้อันตรายกว่าที่อื่นนะคะ มันส่งผลต่ออวัยวะภายในโดยตรงเลย ถ้าค่าที่ได้จากการหารรอบเอวด้วยส่วนสูงเกิน 0.5 หมอจะถือว่าเริ่มมีความเสี่ยงแล้วค่ะ แต่ถ้าเกิน 0.6 นี่ต้องระวังมาก ๆ เลย เพราะความเสี่ยงจะสูงขึ้นไปอีก

ข้อดีของการวัดแบบนี้คือมันง่ายมากค่ะ แค่ใช้สายวัดรอบเอวแล้วก็รู้ส่วนสูงของเรา ก็สามารถประเมินสุขภาพเบื้องต้นได้เลย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อนอะไร คนไข้ลองวัดดูเองที่บ้านก็ได้นะคะ ถ้าค่ามันเกิน หมอแนะนำให้เริ่มปรับพฤติกรรม เช่น ลดอาหารหวาน มัน เค็ม แล้วก็ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงได้ค่ะ

ปากกา ozempic ราคาเท่าไหร่ กรุงเทพ ซื้อที่ไหน

Waist-to-Height Ratio หรือ WHtR คืออะไร

การวัดค่า รอบเอว/ส่วนสูง (Waist-to-Height Ratio หรือ WHtR) เป็นการวัดเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับ โรคอ้วนลงพุง และ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง

จุดประสงค์ของการวัด WHtR

  1. ประเมินไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
    ค่า WHtR ช่วยบ่งบอกถึงปริมาณไขมันสะสมบริเวณช่องท้อง ซึ่งเป็นไขมันที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าไขมันใต้ผิวหนัง
  2. ประเมินความเสี่ยงต่อโรคเมตาบอลิก (Metabolic Syndrome)
    หากค่า WHtR สูง แสดงถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคเบาหวาน
  3. ใช้เป็นตัวชี้วัดสุขภาพที่ง่ายและสะดวก
    การวัดรอบเอวและส่วนสูงทำได้ง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อน

วิธีการคำนวณ WHtR

สูตร:

WHtR = รอบเอว (เซนติเมตร) ÷ ส่วนสูง (เซนติเมตร)

ตัวอย่างที่ 1
สมมติคนไข้มีรอบเอว 80 เซนติเมตร และส่วนสูง 160 เซนติเมตร

WHtR = 80 ÷ 160 = 0.5

แบบนี้ค่า WHtR เท่ากับ 0.5 พอดี ซึ่งถือว่าเริ่มมีความเสี่ยงต่อสุขภาพแล้วค่ะ หมอจะแนะนำให้เริ่มปรับพฤติกรรม เช่น ลดไขมันในอาหารและออกกำลังกายเพิ่มนะคะ

ตัวอย่างที่ 2
สมมติอีกคนมีรอบเอว 90 เซนติเมตร และส่วนสูง 170 เซนติเมตร

WHtR = 90 ÷ 170 ≈ 0.53

ค่า WHtR = 0.53 แบบนี้ถือว่าเกิน 0.5 แล้ว ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคเมตาบอลิกจะเพิ่มขึ้นค่ะ ต้องเริ่มดูแลตัวเองอย่างจริงจังเลยนะคะ

การแปลผลค่า WHtR

  • WHtR < 0.5:
    ความเสี่ยงต่อสุขภาพต่ำ (สุขภาพดี)
  • WHtR ≥ 0.5:
    ความเสี่ยงต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น (ควรระวัง)
  • WHtR ≥ 0.6:
    ความเสี่ยงต่อโรคเมตาบอลิกและโรคหัวใจสูงมาก

ข้อดีของ WHtR

  • มีความแม่นยำมากกว่าค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ในการประเมินความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมันในช่องท้อง
  • ใช้ได้กับทุกเพศและทุกวัย (รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ)

WHtR แม่นกว่า BMI หรอคะ

ถ้าถามว่าการวัดรอบเอวหารด้วยส่วนสูง (หรือ WHtR) แม่นกว่าค่า BMI ไหม หมอขออธิบายแบบนี้นะคะ จริง ๆ แล้ว WHtR จะ แม่นกว่า BMI ในการประเมินความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมันในช่องท้องค่ะ โดยเฉพาะโรคหัวใจ เบาหวาน หรือโรคเมตาบอลิกต่าง ๆ

เหตุผลก็เพราะว่า BMI มันคำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูงอย่างเดียวใช่ไหมคะ แต่ปัญหาคือ BMI ไม่ได้บอกว่าไขมันสะสมอยู่ตรงไหนในร่างกายเรา เช่น คนที่มีกล้ามเนื้อเยอะ น้ำหนักอาจจะมาก แต่ไม่ได้มีไขมันเยอะ BMI ก็อาจจะดูสูงเกินจริง หรือบางคนที่ BMI ปกติ แต่มีไขมันสะสมตรงพุงเยอะ ก็อาจจะยังมีความเสี่ยงสูงได้ค่ะ

แต่ WHtR นี่จะเน้นไปที่ไขมันบริเวณพุง ซึ่งเป็นไขมันที่อันตรายที่สุด เพราะมันอยู่ใกล้อวัยวะสำคัญในร่างกาย เช่น ตับ หัวใจ และหลอดเลือด ถ้ารอบเอวเราเยอะเมื่อเทียบกับส่วนสูง ความเสี่ยงต่อโรคพวกนี้ก็จะเพิ่มขึ้นค่ะ

ดังนั้น หมอถึงบอกว่า WHtR มันแม่นกว่า BMI ในการดูความเสี่ยงสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องไขมันในช่องท้องค่ะ แต่ถ้าจะให้ดี หมอแนะนำให้ใช้ทั้งสองค่าไปพร้อม ๆ กันนะคะ จะได้เห็นภาพรวมสุขภาพของเราชัดเจนขึ้นค่ะ