ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

ครีมทาฝ้าสมัยก่อน รุ่นแม่ มีผลข้างเคียงเยอะกว่ายุคนี้ไหม

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

ต้องบอกว่าคนไข้ที่ถามมานั้น เป็นฝ้ากันทั้งบ้าน คุณแม่ก็เป็น ลูกก็เริ่มเป็น ฝ้าที่เกิดขึ้นบนใบหน้านั้น เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้ง กรรมพันธุ์ ซึ่งมักส่งผลให้มีโอกาสเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของ ฮอร์โมน แสงแดด และสารเคมี

ฝ้าที่เห็นอยู่ตอนนี้ ตอนวัยรุ่น คุณแม่อาจจะเคยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารเคมีในยุคก่อน (เช่น สารปรอท ไฮโดรควิโนนในปริมาณเข้มข้น หรือสเตียรอยด์ที่ผสมในครีม) อาจส่งผลกระทบในระยะยาวมาถึงวันนี้ได้ค่ะ เพราะครีมบางชนิดเหล่านี้อาจทำให้ผิวบางลงมากเกินไป (ถ้าใครเคยเคสคนใกล้ตัวใช้ครีมทาฝ้ายุคก่อน จะเห็นว่าผิวหน้าเขาจะออกสีชมพูๆระเรื่อ หลายคนก็หลงดีใจ) ว่าผิวใสขึ้น แท้จริงมันคือเอฟเฟค เพิ่มโอกาสให้เกิดการกระตุ้นฝ้าเมื่อเจอแสงแดดซ้ำๆ ทำให้ดูเข้มขึ้น ก็มีผลข้างเคียงทำให้ผิวอ่อนแอมากขึ้นในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าฝ้าของคุณแม่เกิดจากครีมเพียงอย่างเดียวนะคะ ปัจจัยกรรมพันธุ์ก็มีบทบาทสำคัญค่ะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงมีบางคนที่รักษาฝ้าไวขึ้น กับบางคนที่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอมากกว่าค่ะ

ฝ้าฮอร์โมน ฝ้าแดด ฝ้ากระ

ปัจจุบันควรรักษาฝ้าด้วยวิธีไหน

ในปัจจุบัน เรามีความรู้และเทคโนโลยีรักษาฝ้าที่หลากหลาย เช่น

  • เครื่องเลเซอร์ Picosecond หรือ Q-Switch ที่ช่วยปรับสีผิวและลดความเข้มของฝ้า
  • ยาทารักษาฝ้า ที่เป็นสูตรสมัยใหม่ปลอดภัยมากขึ้น
  • การทำทรีทเมนท์ ที่ลดการกระตุ้นเม็ดสี คุมฝ้าไม่ให้ชัดจนเกินไป
  • การป้องกันที่สำคัญที่สุด เช่น การทาครีมกันแดดทุกวัน (ควรค่า SPF 50 ขึ้นไป และ PA+++)

การเริ่มต้นดูแลฝ้าหรือปัญหาผิวใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อช่วยวิเคราะห์สาเหตุ และจับคู่แนวทางการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

สุดท้ายนี้ อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ เราเข้าใจว่าความรู้สึกของคุณอาจจะมองว่าฝ้าหายยาก แต่อยากให้เชื่อมั่นในตัวเอง ว่าการรักษาในยุคสมัยใหม่มีตัวช่วยที่ปลอดภัย ได้ผลจริง