
ปวดหัวไมเกรนบ่อยๆ เสี่ยงโรคอื่นไหม?
หมอขอชวนคุยเรื่อง “ไมเกรน” กับสัญญาณเตือน “โรคหลอดเลือดสมอง” ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ค่ะ คนไข้หลายคนมักถามหมอด้วยความกังวลว่า “เป็นไมเกรนบ่อยๆ แบบนี้ อนาคตจะเป็นโรคอะไรร้ายแรงไหมคะหมอ?”
ความเชื่อมโยงระหว่าง “ไมเกรน” และ “Stroke” (โรคหลอดเลือดสมอง)
หมอต้องบอกตามข้อมูลทางการแพทย์เลยค่ะว่า โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มี ไมเกรนร่วมกับอาการเตือน (Migraine with Aura) เช่น เห็นแสงวูบวาบ ภาพเบลอ ก่อนปวดหัว มีข้อมูลยืนยันว่า มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า
โดยกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ
- ผู้หญิงอายุน้อย
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม
ทำไม “แค่ปวดหัว” ถึงลามไปเป็น “โรคสมอง” ได้?
หมอขออธิบายกลไกในร่างกายเราง่ายๆ 3 ข้อนะคะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างใน
- หลอดเลือดทำงานหนัก: ช่วงที่เป็นไมเกรน หลอดเลือดในสมองจะมีการหดและขยายตัวผิดปกติ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดหรือภาวะขาดเลือดเฉียบพลันได้ค่ะ
- การอักเสบซ่อนเร้น (Neuroinflammation): ไมเกรนทำให้เกิดการอักเสบที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของเส้นเลือดอุดตัน
- ภาวะหลอดเลือดไวเกิน: หรือทางการแพทย์เรียกว่า Cortical Spreading Depression ซึ่งมักพบในคนที่เป็นไมเกรนแบบมีออร่า กลไกนี้แหละค่ะที่เป็นสะพานเชื่อมไปสู่การเกิด Stroke
ขั้นตอนการจัดการไมเกรน
อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งตกใจจนเครียดนะคะ เพราะแม้ความเสี่ยงจะมีอยู่จริง แต่ถ้าเรารู้ทัน เราก็ป้องกันได้ค่ะ หมอแนะนำว่าสำหรับใครที่เป็นไมเกรนบ่อยๆ โดยเฉพาะแบบมีออร่า ระดับจากดูแลเองไปจนถึงการรักษาทางการแพทย์
- ตัดวงจรสิ่งกระตุ้น: หลีกเลี่ยงแสงจ้า เสียงดัง กลิ่นฉุน และความเครียดทันทีที่รู้สึกตัว
- พักในที่สงบ: นอนพักในห้องมืดและเงียบ ใช้น้ำแข็งประคบเย็นบริเวณที่ปวด
- ทานยาแก้ปวดให้ไว: ทานยาแก้ปวดทันทีที่เริ่มมีอาการเตือน (อย่ารอให้ปวดมากค่อยกิน ยาจะออกฤทธิ์ไม่ทัน)
- ปรับพฤติกรรม: นอนให้เป็นเวลา ไม่ อดนอนหรือนอนมากไป และเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวกระตุ้น
- พบแพทย์เมื่อคุมไม่อยู่: หากปวดถี่จนรบกวนชีวิต หรือกินยาแก้ปวดธรรมดาแล้วไม่หาย ต้องให้หมอประเมิน
- ทานยาป้องกัน: ใช้ยาปรับสมดุลสารเคมีในสมองตามที่แพทย์สั่ง (สำหรับผู้ที่ปวดบ่อย)
- ฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน (Botox): ฉีดเพื่อลดการทำงานของปลายประสาท ช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของการปวดได้ตรงจุด (เหมาะกับไมเกรนเรื้อรัง)








