ทั้งคู่เป็นสารกลุ่ม Collagen Biostimulator เหมือนกัน คือฉีดเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาเองตามธรรมชาติ แต่ถึงจะหลักการเดียวกัน รายละเอียดของตัวยาและคุณสมบัติเด่นนั้นแตกต่างกันค่ะ
เจาะลึกส่วนประกอบ จุดเริ่มต้นของความต่าง
เพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุด เรามาดูที่ส่วนประกอบหลักของทั้งสองตัวกันก่อนนะคะ
- Juvelook (จูวีลุค): มีส่วนประกอบหลักคือ PDLLA (Poly D,L-Lactic Acid) ที่เป็น “ทรงกลมและมีรูพรุน” เหมือนฟองน้ำเล็กๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังผสม Hyaluronic Acid (HA) ชนิดไม่เชื่อมข้ามสาย (Non-crosslinked HA) เข้ามาด้วย
- Sculptra (สคัลป์ทรา): มีส่วนประกอบหลักคือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นอนุภาค “ผลึกสี่เหลี่ยม ขอบคม” และไม่มีการผสม HA มาในตัวยาค่ะ (ต้องผสมกับน้ำกลั่นก่อนฉีด)
ความแตกต่างของรูปทรงอนุภาค (ทรงกลมพรุน vs. ผลึกเหลี่ยมคม) นี่แหละค่ะที่เป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้คุณสมบัติและการทำงานของทั้งสองตัวแตกต่างกันอย่างชัดเจน
เปรียบเทียบผลลัพธ์ ใครเด่นเรื่องอะไร?
พอส่วนประกอบต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีความโดดเด่นคนละด้านกันค่ะ
- Juvelook: งานผิวละเอียด ฟื้นฟูผิวชั้นตื้น
- ด้วยความที่อนุภาคเป็นทรงกลมและมี HA ผสมมาด้วย ทำให้ Juvelook เด่นเรื่องการ “ปรับปรุงคุณภาพผิว” (Skin Quality) และแก้ปัญหาผิวในชั้นตื้นๆ ค่ะ
- ตัวอย่างที่เห็นภาพ: เหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า (Fine Lines), ปัญหาใต้ตาคล้ำมีริ้วรอย, รูขุมขนกว้าง, หลุมสิวตื้นๆ หรือผิวที่ดูไม่สดใส ขาดความแน่นกระชับ
- ผลลัพธ์คือผิวจะดูละเอียดขึ้น เรียบเนียนขึ้น อิ่มฟู ฉ่ำวาว และดูสุขภาพดี เหมือนผิวเด็กค่ะ และด้วยความที่อนุภาคกลมมน ทำให้โอกาสเกิดก้อน (Nodule) หลังฉีดน้อยกว่า และเหมาะกับการฉีดในบริเวณผิวบอบบางอย่างใต้ตาค่ะ
- Sculptra: งานยกกระชับ ปรับโครงสร้างผิว
- ด้วยอนุภาคที่เป็นผลึกสี่เหลี่ยมของ Sculptra จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้ดีมาก ซึ่งเป็นคอลลาเจนหลักที่ช่วยเรื่อง “ความแข็งแรงและการยกพยุง” ของผิว
- ตัวอย่างที่เห็นภาพ: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ “การยกกระชับ” (Lifting) ปรับกรอบหน้าที่หย่อนคล้อยให้คมชัดขึ้น หรือเติมเต็ม объём (Volume) ให้กับใบหน้าที่ดูตอบลงตามวัย เช่น บริเวณขมับ หรือแก้มตอบ
- ผลลัพธ์คือผิวจะดูยกกระชับขึ้น โครงหน้าได้รูปมากขึ้น และมีความแน่นของผิวในระยะยาวค่ะ







