ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

Juvelook Sculptra AestheFill Radiesse Ultracol แตกต่างกันยังไงบ้าง

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

หมอสรุปมาให้เข้าใจง่ายขึ้น แบบตาราง ว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมควรคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน ทั้งสภาพผิว อายุ ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของแต่ละบุคคล ที่สำคัญคือต้องทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ก่อน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาค่ะ

รายละเอียดJuvelookSculptraAestheFillRadiesseUltracol
ส่วนประกอบหลักPOLLA ผสม Hyaluronic AcidPLLA + CMCPDLLA + CMCCalcium Hydroxylapatite (CaHA)PDO โมเลกุลยาว
จุดเด่น– ให้ผลลัพธ์แบบ 2in1
– ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้ทันที
– กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว
– 1.5 ปี สามารถดูดซึมได้ตามธรรมชาติ
– สามารถดึงบริเวณใต้ตา ลำคอ มือ และบริเวณที่มีผิวบางและบาง
– ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I และ Type III
– เป็น Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่ถูกใช้งานมายาวนานกว่า 20 ปี
– ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I มากถึง 66.5%
– ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I และ Type III
– สามารถดูดได้ตามธรรมชาติ
– ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I
– ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I 150%, Type II 130% และ อิลาสติน 260%
– หลีกเลี่ยงการดึงเพื่อกระชับคอลลาเจน
– เป็นเกรดรุ่นใหม่ ใช้โมเลกุลยาวเท่ากันที่ทำให้ไม่ได้ในระสายและกระจายตัวสม่ำเสมอ
– กระตุ้นการสร้าง Collagen Type I, III
– สามารถดึงได้เพียงเบาๆ โดยเหมาะสำหรับผู้ที่ความบอบบางเพิ่มเสี่ยงต่อการหย่อนคล้อย
เหมาะกับใคร– ผู้ที่ต้องการแก้ไขจุดเด่นชัดไม่พร้อมกับการปรับโครงสร้างชั้นผิวให้ดีขึ้น
– ผู้ที่มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
– งาน Biostimulators
– ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เรื่องร้องลึก
– แผลเป็นการดูแลผิวโดยง่ายมาก
– ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย
– เพื่อช่วยให้ผิวกระชับ
– ผู้ที่มีริ้วรอยการปรับสภาพผิวเป็นไปโดยธรรมชาติและไม่ต้องการการดึงเพื่อผิว
– ผู้ที่มีริ้วรอยระดับกลาง ส่วนต่างๆ ของใบหน้า
– ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย
– ผิวบอบบางง่า ไม่กระชับได้
อยู่ได้นาน1.5 ปี2 ปี1.5-2 ปี1.5-2 ปี6-8 เดือน
ข้อจำกัดไม่เหมาะกับผู้ที่ประวัติแพ้สาร HA– ไม่เหมาะกับหรือฉีดใต้ผิวบริเวณใต้ตาเนื่องจากเห็น อาจมองเห็น รอยนูนมากจากรอยฉีดา
– ต้องนวดหน้าต่อเนื่องกัน 5 วัน
ไม่สามารถสร้างผลกระทบเปลี่ยนแปลงได้ทันทีไม่เหมาะกับการฉีดบริเวณรอบปาก– ไม่เหมาะกับผู้ที่ประวัติแพ้สาร PDO
– ไม่ก่อสลายตัวการสานต้านที่สูง

จากประสบการณ์การรักษาผู้รับบริการที่มีความต้องการและปัญหาผิวที่แตกต่างกัน พบว่าแต่ละผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และเหมาะกับผู้รับบริการที่ต่างกันด้วย

POLLA ผสม Hyaluronic Acid

เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาริ้วรอยและต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาและผิวบาง ข้อดีคือให้ผลเร็วและอยู่ได้นาน แต่ควรทำการทดสอบการแพ้ก่อนในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

PLLA + CMC

แนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดเจน ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน ข้อดีคือมีงานวิจัยรองรับมายาวนาน แต่ต้องให้ความร่วมมือในการนวดหน้าหลังทำทรีทเมนต์

PDLLA + CMC

เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขริ้วรอยแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ข้อดีคือมีความปลอดภัยสูง แต่อาจต้องใช้เวลาในการเห็นผล

Calcium Hydroxylapatite (CaHA)

แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับผิวและเพิ่มความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในวัยกลางคน ข้อดีคือกระตุ้นคอลลาเจนได้หลายชนิด แต่ไม่เหมาะกับบริเวณริมฝีปาก

PDO โมเลกุลยาว

เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและต้องการผลลัพธ์ที่นุ่มนวล ข้อดีคือมีความเสี่ยงต่ำ แต่ระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้นกว่าตัวอื่น

คำแนะนำ

  1. ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
  2. ไม่ควรเลือกเพียงเพราะราคาถูกหรือโปรโมชั่น
  3. ควรทำความเข้าใจข้อควรระวังและการดูแลหลังทำทรีทเมนต์
  4. พิจารณาความคุ้มค่าในระยะยาว ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง