รายละเอียด | Juvelook | Sculptra | AestheFill | Radiesse | Ultracol |
---|---|---|---|---|---|
ส่วนประกอบหลัก | POLLA ผสม Hyaluronic Acid | PLLA + CMC | PDLLA + CMC | Calcium Hydroxylapatite (CaHA) | PDO โมเลกุลยาว |
จุดเด่น | – ให้ผลลัพธ์แบบ 2in1 – ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้ทันที – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว – 1.5 ปี สามารถดูดซึมได้ตามธรรมชาติ – สามารถดึงบริเวณใต้ตา ลำคอ มือ และบริเวณที่มีผิวบางและบาง – ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I และ Type III | – เป็น Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่ถูกใช้งานมายาวนานกว่า 20 ปี – ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I มากถึง 66.5% – ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I และ Type III | – สามารถดูดได้ตามธรรมชาติ – ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I | – ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I 150%, Type II 130% และ อิลาสติน 260% – หลีกเลี่ยงการดึงเพื่อกระชับคอลลาเจน | – เป็นเกรดรุ่นใหม่ ใช้โมเลกุลยาวเท่ากันที่ทำให้ไม่ได้ในระสายและกระจายตัวสม่ำเสมอ – กระตุ้นการสร้าง Collagen Type I, III – สามารถดึงได้เพียงเบาๆ โดยเหมาะสำหรับผู้ที่ความบอบบางเพิ่มเสี่ยงต่อการหย่อนคล้อย |
เหมาะกับใคร | – ผู้ที่ต้องการแก้ไขจุดเด่นชัดไม่พร้อมกับการปรับโครงสร้างชั้นผิวให้ดีขึ้น – ผู้ที่มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ – งาน Biostimulators | – ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เรื่องร้องลึก – แผลเป็นการดูแลผิวโดยง่ายมาก | – ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย – เพื่อช่วยให้ผิวกระชับ | – ผู้ที่มีริ้วรอยการปรับสภาพผิวเป็นไปโดยธรรมชาติและไม่ต้องการการดึงเพื่อผิว – ผู้ที่มีริ้วรอยระดับกลาง ส่วนต่างๆ ของใบหน้า | – ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย – ผิวบอบบางง่า ไม่กระชับได้ |
อยู่ได้นาน | 1.5 ปี | 2 ปี | 1.5-2 ปี | 1.5-2 ปี | 6-8 เดือน |
ข้อจำกัด | ไม่เหมาะกับผู้ที่ประวัติแพ้สาร HA | – ไม่เหมาะกับหรือฉีดใต้ผิวบริเวณใต้ตาเนื่องจากเห็น อาจมองเห็น รอยนูนมากจากรอยฉีดา – ต้องนวดหน้าต่อเนื่องกัน 5 วัน | ไม่สามารถสร้างผลกระทบเปลี่ยนแปลงได้ทันที | ไม่เหมาะกับการฉีดบริเวณรอบปาก | – ไม่เหมาะกับผู้ที่ประวัติแพ้สาร PDO – ไม่ก่อสลายตัวการสานต้านที่สูง |
จากประสบการณ์การรักษาผู้รับบริการที่มีความต้องการและปัญหาผิวที่แตกต่างกัน พบว่าแต่ละผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และเหมาะกับผู้รับบริการที่ต่างกันด้วย
POLLA ผสม Hyaluronic Acid
เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาริ้วรอยและต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาและผิวบาง ข้อดีคือให้ผลเร็วและอยู่ได้นาน แต่ควรทำการทดสอบการแพ้ก่อนในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
PLLA + CMC
แนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดเจน ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน ข้อดีคือมีงานวิจัยรองรับมายาวนาน แต่ต้องให้ความร่วมมือในการนวดหน้าหลังทำทรีทเมนต์
PDLLA + CMC
เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขริ้วรอยแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ข้อดีคือมีความปลอดภัยสูง แต่อาจต้องใช้เวลาในการเห็นผล
Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับผิวและเพิ่มความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในวัยกลางคน ข้อดีคือกระตุ้นคอลลาเจนได้หลายชนิด แต่ไม่เหมาะกับบริเวณริมฝีปาก
PDO โมเลกุลยาว
เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและต้องการผลลัพธ์ที่นุ่มนวล ข้อดีคือมีความเสี่ยงต่ำ แต่ระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้นกว่าตัวอื่น
คำแนะนำ
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
- ไม่ควรเลือกเพียงเพราะราคาถูกหรือโปรโมชั่น
- ควรทำความเข้าใจข้อควรระวังและการดูแลหลังทำทรีทเมนต์
- พิจารณาความคุ้มค่าในระยะยาว ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง