ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

IF + ออกกำลังกาย และใช้ปากกาลดน้ำหนักด้วย หักโหมไปไหม

ถ้าเป้าหมายคนไข้คือต้องการลดน้ำหนักจริงจัง ไม่มีโรคแทรกซ้อน ข้อเข่าเสื่อมอะไรพวกนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่เข้ากันมากค่ะ

การทำ IF, ออกกำลังกาย, และใช้ปากกาลดน้ำหนักไปพร้อมกัน สามารถทำได้และช่วยเสริมประสิทธิภาพการลดน้ำหนักได้ดีมาก ค่ะ เพราะปากกาจะช่วยให้การทำ IF ไม่ทรมาน ทำให้ควบคุมความหิวได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องทานอาหารให้มีคุณภาพและเพียงพอในช่วงเวลาที่กิน (Feeding) เพื่อให้มีพลังงานไปใช้ในการออกกำลังกาย และ ต้องไม่หักโหมออกกำลังกายหนักๆ ในช่วงท้องว่าง ที่สำคัญที่สุดคือควรปรึกษาและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อปรับยาและวางแผนโภชนาการให้เหมาะสมกับร่างกายของคนไข้แต่ละคนค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด

if Intermittent Fasting คืออะไร ทำเพื่ออะไร

ปากกาลดน้ำหนัก (GLP-1 Analogues) ทำงานอย่างไร?

ปากกาลดน้ำหนักที่คนไข้พูดถึง คือกลุ่มยา GLP-1 Analogues นะคะ หลักการทำงานของมันคือการเลียนแบบฮอร์โมนในลำไส้ของเรา ซึ่งจะส่งผลหลักๆ คือ

  • ทำให้อิ่มเร็วขึ้น ยาจะไปชะลอการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น ทานได้น้อยลง
  • ลดความอยากอาหาร ตัวยาจะไปออกฤทธิ์ที่สมองส่วนกลาง ทำให้ความรู้สึกหิวหรืออยากทานของจุกจิกต่างๆ ลดลงค่ะ

ดังนั้น ผลข้างเคียงที่อาจจะเจอได้ในช่วงแรกคือ คลื่นไส้ หรือรู้สึกไม่ค่อยสบายท้อง เพราะอาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้นนั่นเองค่ะ

การทำ IF (Intermittent Fasting) ไปด้วยจะเป็นอย่างไร?

การทำ IF คือการกำหนดช่วงเวลา “กิน” (Feeding) และ “อด” (Fasting) ซึ่งได้รับความนิยมมากในการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพ เมื่อเราทำ IF ร่วมกับการใช้ปากกาลดน้ำหนัก สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ

  • เสริมฤทธิ์กันได้ดี ในช่วงเวลาที่ต้องอด (Fasting) ปากกาลดน้ำหนักจะช่วยให้คนไข้ ไม่รู้สึกหิวโหยหรือทรมาน เหมือนการทำ IF แบบปกติ ทำให้เราทำตามวินัยได้ง่ายขึ้นมากค่ะ
  • ข้อควรระวัง ในช่วงเวลาที่กิน (Feeding) คนไข้ ต้องทานอาหารให้เพียงพอ นะคะ! เพราะปากกาทำให้เราอิ่มเร็วอยู่แล้ว ถ้าทานน้อยเกินไปในช่วงกิน ร่างกายอาจได้รับสารอาหารและพลังงานไม่เพียงพอได้ค่ะ จะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือหน้ามืดได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องไปออกกำลังกายต่อ

แล้วการ “ออกกำลังกาย” ล่ะคะ?

การออกกำลังกายเป็นหัวใจสำคัญของการลดน้ำหนักที่ยั่งยืน เพราะช่วยเผาผลาญไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ เมื่อทำร่วมกับ 2 วิธีข้างต้น

  • ช่วงเวลาออกกำลังกายสำคัญมาก หมอ ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายหนักๆ ในช่วงที่ท้องว่างจัดๆ หรือช่วงท้ายของเวลาอด (Fasting) นะคะ เพราะร่างกายอาจมีพลังงานสะสมไม่เพียงพอ เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ทำให้หน้ามืด เป็นลมได้ง่ายค่ะ
  • เลือกประเภทการออกกำลังกาย ในช่วงแรกที่ร่างกายกำลังปรับตัวกับการใช้ยาและการทำ IF หมอแนะนำให้เริ่มจาก การออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว, โยคะ, หรือเวทเทรนนิ่งที่ไม่หนักจนเกินไปก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความหนักขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้วค่ะ
  • ฟังเสียงร่างกายตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องสังเกตอาการตัวเองค่ะ หากวันไหนรู้สึกเพลียมาก หรือเวียนหัว ควรพักผ่อน อย่าฝืนหักโหมออกกำลังกายเด็ดขาดนะคะ

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย