หมอขออธิบายเพิ่มเติมในแง่กายวิภาคนะคะ ไม่ต้องจำนะคะ อ่านพอเป็นความรู้พอ 🙂 เผื่อมีคนอยากรู้ว่าใต้ตาดำ คล้ำนี่มาได้ยังไง เพราะใต้ตาคล้ำ เกิดได้ในจากหลายชั้นของผิวหนัง (Skin layers) ค่ะ
1. ชั้นผิวหนังบน (Epidermis)
- เกิดจากเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่มากเกินไป ซึ่งสร้างจากเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocytes)
- มักเกิดจากแสงแดด ฮอร์โมน หรือการอักเสบเรื้อรัง
- บางคนมีการสะสมของเม็ดสีเฮโมซิเดริน (Hemosiderin) จากเลือดที่รั่วซึม
2. ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis)
- มีเส้นเลือดฝอยที่เรียกว่า Superficial vessels อยู่มาก
- เมื่อผิวบางลง (Thin skin) จะเห็นเส้นเลือดเหล่านี้ชัดขึ้น
- ความเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสติน (Collagen & Elastin) ทำให้ผิวบางลง
3. ชั้นไขมัน (Subcutaneous fat)
- การสูญเสียไขมันใต้ตา (Tear trough fat loss) ทำให้เกิดร่องลึก
- เกิด Orbital fat herniation หรือที่เรียกว่าถุงใต้ตา ทำให้เกิดเงา
- บางคนมี SOOF (Suborbicularis Oculi Fat) ยุบตัว ทำให้ดูคล้ำ
4. ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle layer)
- กล้ามเนื้อ Orbicularis oculi ที่อ่อนแรง
- ทำให้การไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองไม่ดี
- เกิดการคั่งของของเหลว (Fluid retention)
เพราะฉะนั้น การรักษาบางคนบางเคสอาจจะต้องแก้ทุกชั้นค่ะ และที่สำคัญปัญหาที่หมอสรุปมาด้านบน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใดของร่างกาย ไม่ต้องกังวล เป็นเรื่องปกติมากๆ ตามวัย ตามวันเวลา พันธุกรรมของแต่ละคนค่ะ
- Melanin → ใช้เลเซอร์หรือวิตามินซี
- Vessels → ใช้เลเซอร์สำหรับหลอดเลือด
- Fat loss → ใช้ Filler หรือ Fat transfer
- Muscle → ใช้ RF หรือ HIFU กระชับ
- Collagen → กระตุ้นด้วย PRP หรือ Growth factors
นี่คือเหตุผลที่หมอบอกว่าต้องรักษาแบบ Multimodal approach ค่ะ เพราะแต่ละคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน และต้องแก้ไขทุกชั้นของผิวหนังถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ