“หน้ากลม” แล้วอยากให้หน้าเรียวสวยได้รูปมากขึ้น ต้องทำอะไรบ้าง หมอจะอธิบายให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ เหมือนเพื่อนสาวคุยกันเลยค่ะ
อยากหน้าเรียว V-Shape แบบไม่ต้องผ่าตัด ทำอะไรได้บ้างคะคุณหมอ?
สำหรับคนไข้ที่รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองดูกลม แก้มเยอะ หรือไม่มีกรอบหน้าที่คมชัดเอาซะเลย แล้วอยากปรับให้ดูเรียวสวยมากขึ้น ในปัจจุบันมีหลายวิธีมาก ๆ ค่ะ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ให้เจ็บตัวเลย ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะกับสาเหตุของปัญหาที่แตกต่างกันไปนะคะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง
1. ลดแก้มยุ้ย ปรับหน้าเรียวด้วยโบท็อกซ์
วิธีนี้เป็นวิธีที่ฮิตที่สุดเลยค่ะ! เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อกราม (Masseter) ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หน้าของเราดูกางและบานออกค่ะ
- หลักการทำงาน: หมอจะฉีดตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ‘โบท็อกซ์’ เข้าไปที่กล้ามเนื้อกรามทั้งสองข้างค่ะ ตัวยาจะไปทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นทำงานลดลงชั่วคราว พอไม่ได้ใช้งาน กล้ามเนื้อก็จะค่อย ๆ มีขนาดที่เล็กลง ส่งผลให้กรอบหน้าของเราจากที่ดูกว้าง ๆ บาน ๆ ก็จะค่อย ๆ เรียวเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
- ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ: ลองกัดฟันกรามแน่น ๆ แล้วใช้มือจับตรงแก้มส่วนล่างดูนะคะ ถ้าจับแล้วรู้สึกว่ามีก้อนกล้ามเนื้อเด้งสู้มือขึ้นมาแข็ง ๆ แสดงว่าคนไข้เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกรามมาก ๆ เลยค่ะ
- ผลลัพธ์: จะเริ่มเห็นผลประมาณ 1 เดือนหลังฉีด และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-3 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละคนนะคะ
2. สลายไขมันที่แก้มและเหนียงด้วยเมโสแฟต
สำหรับคนไข้ที่กังวลเรื่องแก้มเยอะ ๆ หรือมีคางสองชั้น (เหนียง) ที่เกิดจากการสะสมของไขมันเฉพาะจุด การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ
- หลักการทำงาน: หมอจะฉีดตัวยาที่มีคุณสมบัติช่วย สลายไขมันที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง เข้าไปในบริเวณที่มีปัญหา เช่น แก้มส่วนล่าง หรือบริเวณใต้คาง (เหนียง) ตัวยาจะไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามกระบวนการธรรมชาติ ทำให้บริเวณที่ฉีดดูยุบลง แก้มดูเล็กลง และกรอบหน้าคมชัดขึ้นค่ะ
- ผลลัพธ์: โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1-2 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ
3. ยกกระชับ เก็บกรอบหน้าด้วย HIFU
บางครั้งที่หน้าเราดูไม่เรียว อาจไม่ได้มาจากกล้ามเนื้อหรือไขมันเสมอไปนะคะ แต่อาจเกิดจาก ความหย่อนคล้อยของผิว ตามวัยที่คอลลาเจนเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้แก้มดูตก ๆ กรอบหน้าไม่คมเหมือนเดิม ซึ่งการทำเครื่องยกกระชับอย่าง HIFU หรือ Ulthera จะตอบโจทย์ปัญหานี้ได้ดีที่สุดค่ะ
- หลักการทำงาน: ทั้งสองเทคโนโลยีนี้ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ยิงลงไปใต้ชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า) เพื่อทำให้ผิวเกิดการหดตัวและยกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ นอกจากนี้ยังช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ในระยะยาว ทำให้ผิวแน่นขึ้น กรอบหน้าดูคมชัด และใบหน้าโดยรวมดูเรียวเล็กลงค่ะ
- ความแตกต่าง: Ulthera จะมีความแม่นยำสูงกว่าเพราะมีหน้าจอแสดงผลให้หมอเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ และให้พลังงานที่คงที่กว่า ในขณะที่ HIFU จะมีราคาที่ย่อมเยาลงมาค่ะ
- ผลลัพธ์: เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 20-30% และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปีเลยค่ะ







