ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

ตาตก แก้ด้วยวิธีไหน ราคาเท่าไหร่

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

ตาตก เป็นคำค่อนข้างกว้าง ถ้าคนไข้ไม่ได้ปรึกษาหมอที่หน้าคลินิกจะบอกได้ยากว่าหมายถึงอะไร เพราะมีทั้งหนังตาตก และหางตาตก หมอเลยแยกเป็น 2 เรื่อง

ถ้าหางตาตกเพียงเล็กน้อย การฉีดโบท็อกซ์ จะเป็นทางเลือกที่ง่าย เร็ว ประหยัด และไม่ต้องพักฟื้น แต่ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ดูนานขึ้น เช่น การร้อยไหม ใช้ HIFU  หรือเครื่องกลุ่มยกกระชับอื่นๆ บริเวณรอบดวงตาก็เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมค่ะ การอยู่ได้นานเห็นผลแตกต่างกันไป และก็ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาของคนไข้ด้วย

แต่ถ้าตาตก จนหนังตาตกลงมา จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การมองเห็น การศัลยกรรมยกหนังตา (Blepharoplasty) จะเหมาะสมที่สุดค่ะ ซึ่งควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะ

อายุเยอะ หนังตาตก แก้ยังไง
ตาตก แก้ไขยังไง ราคาเท่าไหร่

วิธีแก้ไขตาตก

หัวข้อหนังตาตก (Droopy Eyelid)หางตาตก (Droopy Eye Tail)
ลักษณะของอาการเปลือกตาบนตกลงมาปิดตาดำบางส่วน อาจส่งผลต่อการมองเห็นหางตาหรือมุมด้านนอกของดวงตาตกลง อาจทำให้ดวงตาดูเศร้า หรือเหนื่อย
สาเหตุหลัก– ภาวะกล้ามเนื้อตายกเปลือกตาอ่อนแรง (Levator Muscle)
– อายุที่มากขึ้น
– ภาวะทางพันธุกรรม
– โรคทางระบบประสาท เช่น Myasthenia Gravis
– ความหย่อนคล้อยของผิวหนังรอบดวงตา
– การยุบตัวของเนื้อเยื่อรอบตา (ขมับ, คิ้ว)
– กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงบริเวณหางตา
ผลกระทบอาจทำให้การมองเห็นแย่ลง เช่น มองเห็นไม่ชัด หรือรู้สึกหนักเปลือกตาดวงตาดูเศร้าหรือเหนื่อย อาจทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนล้า แต่ไม่มีผลต่อการมองเห็น
เหมาะกับใคร– ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อการมองเห็น
– ต้องการปรับดวงตาให้ดูสดใสน่ามองขึ้น
– ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกเล็กน้อยบริเวณหางตา
– มองหาวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือมีผลถาวร

1. ศัลยกรรมยกหนังตา (Blepharoplasty)

ผลลัพธ์: ดีที่สุดและถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่ตาตกจากหนังตาหย่อนมากจนบดบังการมองเห็น หรือผู้ที่ต้องการปรับให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
กระบวนการ: การตัดหนังตาส่วนเกินและปรับกล้ามเนื้อที่ยกเปลือกตา
ระยะพักฟื้น: โดยทั่วไป 1-2 สัปดาห์
ราคา: 30,000 – 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับคลินิกหรือโรงพยาบาล)

2. ศัลยกรรมยกคิ้ว (Brow Lift)

ผลลัพธ์: ช่วยยกเปลือกตาทางอ้อม โดยเน้นแก้ไขในคนที่ “ตาตกจากคิ้วต่ำ” เห็นผลดีและค่อนข้างถาวร
กระบวนการ: ยกคิ้วโดยการผ่าตัด ซึ่งมีทั้งวิธีเปิดยาว (traditional brow lift) หรือแบบส่องกล้องที่แผลเล็ก (endoscopic brow lift)
ระยะพักฟื้น: 1-2 สัปดาห์คล้ายกับ Blepharoplasty
ราคา: 50,000 – 150,000 บาท

3. การร้อยไหม (Thread Lift)

ผลลัพธ์: ยกหนังตาและหางตา ช่วยดึงและยกผิวให้กระชับในทันที
วิธีทำ: ร้อยไหมละลายขนาดเล็กใต้ผิวเพื่อยกมุมหางตา
ระยะพักฟื้น: อาจมีบวมเล็กน้อย 3-7 วัน และผลอยู่ได้ 6-12 เดือน
ราคา: 10,000 – 35,000 บาท
เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการปรับลุคอย่างเห็นผลชัดเจนและรวดเร็ว

4. เทคโนโลยียกกระชับ เช่น Ulthera, Thermage, Morpheus, Endoliftx หรือ HIFU

ผลลัพธ์: ยกผิวบริเวณรอบดวงตา เหมาะกับตาตกเล็กน้อยหรือเริ่มหย่อน
กระบวนการ: ใช้คลื่นอัลตราซาวด์หรือคลื่นวิทยุเพื่อกระชับผิว ฟื้นฟูคอลลาเจน (ไม่ต้องผ่าตัด)
ระยะพักฟื้น: ไม่มี สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
ราคา: 25,000 – 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับเครื่องมือและจำนวนช็อต

5. โบท็อกซ์ (Botulinum Toxin)

ผลลัพธ์: ยกกล้ามเนื้อรอบดวงตาชั่วคราว เหมาะสำหรับกรณีตาตกเล็กน้อยหรือต้องการผลระยะสั้น
กระบวนการ: ฉีดเพื่อยกกล้ามเนื้อบริเวณหางคิ้วหรือเปลือกตาบน
ระยะพักฟื้น: ไม่มี แต่ผลอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน
ราคา: 2,000 – 10,000 บาท ต่อครั้ง ตามปริมาณยูนิตที่แพทย์ใช้

6. ฟิลเลอร์บริเวณขมับหรือคิ้ว (Dermal filler)

ผลลัพธ์: ช่วยยกเฟรมใบหน้า เช่น คิ้วหรือบริเวณใกล้เปลือกตา เหมาะกับคนที่ตาตกเล็กน้อย
กระบวนการ: ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มในจุดที่ทำให้ตาดูเต่งตึงและสดใสขึ้น
ระยะพักฟื้น: ไม่มี ผลอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน
ราคา: 10,000 – 20,000 บาท ต่อครั้ง ตามจำนวน cc ที่แพทย์เลือกใช้


อย่างไรก็ตาม หมอไม่แนะนำวิธีใดเป็นพิเศษ เพราะปัญหาหางตาตกของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน และการเลือกวิธีที่ดีที่สุดควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลังจากประเมินใบหน้าและปัญหาอย่างละเอียดแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าวิธีที่เลือกจะเหมาะสม ปลอดภัย และตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคนไข้ค่ะ ทั้งนี้ข้อมูลที่หมอให้เป็นคำอธิบายทั่วไป ไม่ได้เป็นการแนะนำเครื่องมือแพทย์ใดนะคะ