แก้มกระรอก คืออะไร เกี่ยวกับฟิลเลอร์ยังไง

เจ้าแก้มแฮมสเตอร์นี้ คืออาการที่ใบหน้าส่วนล่างดูบวม หรือยื่นออกมาคล้ายกระพุ้งแก้มของแฮมสเตอร์ มักเกิดจากการฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ในบริเวณแก้มส่วนล่างหรือกรอบหน้ามากเกินไป หรือผิดเทคนิค ทำให้ใบหน้าดูหนัก ไม่กระชับ และสูญเสียความอ่อนเยาว์ไป

เรื่องราวเหล่านี้มักเริ่มต้นจากตรงนี้

• บางคนอยากมีแก้มที่อิ่มเอิบขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูเด็ก ลดอายุลงเยอะๆเลยหมอ
• บางคนอยากปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น ขอคมๆเลยค่ะหมอ
• เลยเริ่มต้นด้วย “ขอเติมอีกนิดเดียว” “ครึ่งซีซีตรงนี้” “อีกครึ่งซีซีตรงนั้น”

เมื่อมีการฉีดฟิลเลอร์ในจำนวนที่เกินจำเป็นมากเกินไป เช่น อัดไป 20-30cc จะเกิดอะไรขึ้น…ในตอนแรกอาจจะดูดีค่ะ ทำให้รู้สึกว่าใบหน้าดูเต็มขึ้น ดูอิ่มขึ้น และผู้รับบริการก็พอใจ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน… หรือบางรายอาจจะเร็วกว่านั้น ก็จะเริ่มเห็นปัญหา

• เกิดเงาที่ไม่พึงประสงค์ (Undesired Shadows) ใต้แก้มหรือตามกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดูโทรม ไม่สดใส
• ใบหน้าดูหนัก ไม่เป็นธรรมชาติ (Unnatural Heaviness) แทนที่จะดูอ่อนเยาว์กลับดูใหญ่ขึ้น หรือบวมผิดรูปไป
• และที่สำคัญคือ ใบหน้าสูญเสียความกลมกลืน (Loss of Facial Harmony) จากเดิมที่สวยงามกลับดูผิดสัดส่วนไปค่ะ

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ได้มาไม่ใช่ความงามที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นเพียง “ปริมาตรที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เหมาะสม” บนใบหน้าเท่านั้น

หัวใจสำคัญในศาสตร์แห่งความงาม ไม่ได้อยู่ที่ว่า “ฉีดเยอะ สวยเยอะ” แต่เป็นเรื่องของ “การประเมินที่แม่นยำ” “การเข้าใจโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล” และที่สำคัญที่สุดคือ “การรู้จักคำว่าพอดี”  การเติมสารเหล่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นความงามที่แท้จริง ดูเป็นธรรมชาติ และเสริมให้ใบหน้าของคุณดูดีที่สุดในแบบของคุณเองค่ะ

“หน้าล้น” หรือ Overfilled Syndrome ที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ นะคะ ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป หรือไม่เหมาะสมกับโครงสร้างผิวเดิมของเราค่ะ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1. Chipmunk Cheeks (แก้มกระรอก): โหนกแก้มจะดูปูดเต็ม เหมือนกระรอกอมอาหารไว้ในปาก ซึ่งมักเกิดจากการที่เราเติมฟิลเลอร์บริเวณ Malal fat pad หรือใต้ตามากเกินไปค่ะ เวลายิ้ม กล้ามเนื้อ Zygomaticus major จะดึงแก้มให้ยกสูงขึ้น ทำให้แก้มไปบังดวงตา ตาดูเล็กลง ซึ่งบางคนก็เรียกว่า “Sunset Eyes” เพราะตาดูเหมือนกำลังจะลับขอบฟ้าค่ะ
2. Duck Lips/Sausage Lips (ปากเป็ด/ปากไส้กรอก): ริมฝีปากจะอูมเต่งตึงจนเกินสัดส่วนของใบหน้า มองดูไม่ลงตัว ซึ่งเกิดจากการที่เราเติมฟิลเลอร์เข้าไปในชั้น Submucosa มากเกินไปค่ะ ทำให้ปากยื่นออกมาจนดูไม่เป็นธรรมชาติ
3. Pillow Face (หน้าหมอน): ใบหน้าจะดูแน่นตึงเหมือนหมอนที่ยัดนุ่นจนเต็ม เกิดจากการที่เราเติมฟิลเลอร์หลายจุดบนใบหน้ามากเกินไป ทำให้หน้าสูญเสียมิติ และความเป็นธรรมชาติ ดูแบนราบ ไม่มีส่วนโค้งเว้าที่สวยงาม โหนกแก้มสองข้างอาจจะปูดออกด้านข้าง เหมือนจานบิน หรือที่เรียกว่า “Flying Saucer Face” ค่ะ ซึ่งอาการนี้เกิดจากการที่ฟิลเลอร์ไปกดทับ Superficial Musculoaponeurotic System (SMAS) ทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าทำงานผิดปกติค่ะ
4. Flowerhorn Forehead (หน้าผากปลาหมอ): หน้าผากจะมีความโหนกนูนมากกว่าปกติ คล้ายกับหัวของปลาหมอสี หรือปลาทอง ซึ่งเกิดจากการที่เราฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในชั้น Subcutaneous fat บริเวณหน้าผากมากเกินไปค่ะ
5. Avatar Nose/Board Nose (จมูกปีกกว้าง): สันจมูกจะดูกว้างป้านเหมือนชาวนาวีในภาพยนตร์เรื่อง Avatar มักเกิดจากการที่เราเติมฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม และโหนกแก้มมากเกินไป จนดันให้ปีกจมูกถ่างกว้างออก ทำให้จมูกดูใหญ่ และไม่สมส่วนกับใบหน้าค่ะ
6. Witch Chin (คางแม่มด): คางจะมีความแหลม หรือนูนเด่นออกมาจากกรอบหน้ามากเกินไป หรือมีความงุ้มงอคล้ายกับคางของแม่มด ซึ่งดูไม่ลงตัวกับส่วนอื่นของใบหน้า อาจจะเกิดจากการที่เราเติมฟิลเลอร์บริเวณ Mentalis muscle มากเกินไปค่ะ