หมอขอเน้นย้ำเลยนะคะว่า ฟิลเลอร์เปิดหางตาและฟิลเลอร์เบ้าตาบน แม้จะช่วยแก้ปัญหาและเสริมความสดใสให้ดวงตาได้มาก แต่ก็ ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะโครงสร้างเบ้าตา ผิวหนัง และปัญหาแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจเหมาะกับหัตถการนี้ แต่บางรายอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมกัน เช่น ยกคิ้ว โบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ในตำแหน่งอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ
ดังนั้นหมอแนะนำให้ทุกคนเข้ามาปรึกษาและวิเคราะห์ปัญหาบนใบหน้ารายบุคคลก่อนเสมอ เพื่อให้เราได้เลือกวิธีที่ เหมาะกับใบหน้าและความต้องการของเราเองมากที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่สวยอย่างที่ใจหวังค่ะ
ฟิลเลอร์เปิดหางตา VS ฟิลเลอร์เบ้าตาบน
ฟิลเลอร์เปิดหางตา | ฟิลเลอร์เบ้าตาบน | |
---|---|---|
จุดที่ฉีด | บริเวณหางตา | บริเวณเบ้าตาบน/ใต้คิ้ว |
ปัญหาที่แก้ | หางตาตก, ตาดูเศร้า, ตาดูเล็ก | เบ้าตาลึก, ตาดูโทรม, ตาดูอ่อนล้า |
ผลลัพธ์ | ตาดูเฉี่ยว หางตายก ตาโตขึ้น สดใส | เบ้าตาดูเต็ม ตาดูสดใส อ่อนเยาว์ |
เหมาะกับใคร | คนที่หางตาตก/เริ่มมีอายุ/อยากตาเฉี่ยว | คนที่ตาลึก ตาโหล ตาอิดโรย |
จุดเด่น | ช่วยปรับโหงวเฮ้ง ไม่ต้องผ่าตัด | ดูเป็นธรรมชาติ ฟูสดชื่น ไม่ต้องผ่าตัด |
ปรับแต่ง | ปรับตามลักษณะปัญหาหางตาแต่ละคน | ปรับตามสรีระเบ้าตาตามเคส |
1. ฟิลเลอร์เปิดหางตา
- ปริมาณที่ใช้โดยเฉลี่ย
0.5 – 1 cc ต่อข้าง (บางรายอาจใช้มากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นกับระดับการตกและความต้องการยกของหางตา) - รวมสองข้าง: โดยปกติประมาณ 1 – 2 cc
2. ฟิลเลอร์เบ้าตาบน
- ปริมาณที่ใช้โดยเฉลี่ย
0.5 – 1.5 cc ต่อข้าง (ขึ้นอยู่กับความลึกของเบ้าตาและโครงกระดูก) - รวมสองข้าง: โดยปกติประมาณ 1 – 3 cc
หมายเหตุ:
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะถูก “วิเคราะห์และประเมินอย่างละเอียดรายบุคคล” แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ
- สำหรับบางเคส แพทย์อาจแบ่งฉีดในแต่ละส่วนย่อย เพื่อเน้นความละเอียดและผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
หากต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับปรับรูปหน้าเพิ่มเติม ส่งภาพหรือนัดมาปรึกษาหมอที่คลินิกได้เลยนะคะ!