การกินวิตามินและอาหารเสริมส่งผลต่อตับ?
- โดยทั่วไป การกินวิตามินหรืออาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสมและผ่านการรับรองจากแพทย์ มักจะไม่ส่งผลเสียต่อตับในคนสุขภาพดี
- แต่หากรับประทาน “เกินขนาด” หรือเลือกวิตามินที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยง “ตับทำงานหนัก” หรือเกิดพิษต่อตับได้ โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น
- วิตามิน A, D, E, K
- หากรับมากเกินความต้องการและสะสมในร่างกาย อาจมีผลต่อการทำงานของตับ และอาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบได้ในบางกรณี
- อาหารเสริมบางกลุ่ม เช่น สมุนไพรต่างๆ สารสกัด หรือสารที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ อาจมีผลเสียกับตับอย่างมากกว่าวิตามิน เช่น สารกันบูด สารเคมี สารปนเปื้อน
การตรวจสุขภาพ
- ควรตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกายก่อนทุกครั้ง
D’ Lovevery Clinic เน้นการเจาะเลือดเพื่อประเมินสมดุลวิตามินและแร่ธาตุในร่างกาย - วิเคราะห์เจาะจง เช่น
- ตรวจระดับวิตามิน D3 เพื่อดูว่าคุณได้รับเพียงพอหรือมากเกินไปหรือไม่ เพราะขาดอาจเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ภูมิคุ้มกันต่ำ
- หากมากเกินไป เช่น รับวิตามิน D ในขนาดสูงต่อเนื่อง อาจเกิดภาวะพิษ ซึ่งมีรายงานว่ามีผลต่อตับและไตได้
- โปรแกรมตรวจเหล่านี้ จะช่วยให้ทราบ “สถานะสุขภาพ” และปรับการเสริมวิตามินได้อย่างปลอดภัย
การป้องกันผลข้างเคียงและสุขภาพตับ
- เลือกวิตามินที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. หรือคำแนะนำของแพทย์
- ติดตามและตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมระยะยาว
- งดการใช้วิตามินหรืออาหารเสริมหลายชนิดซ้อนกันโดยไม่ปรึกษาแพทย์
- หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลียผิดปกติ ควรหยุดใช้และตรวจสุขภาพทันที