ใต้ตาคล้ำ ที่เราเห็นดำๆ มันคืออะไร
หมอขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ ที่เราเห็นว่าใต้ตามันคล้ำ ดำมากขึ้น ในทางกลไกสิ่งที่เรากำลังเห็นมันคือเส้นเลือดฝอยรวมตัวกัน พอรวมกันเยอะมันเลยดูหมองคล้ำ หรือบางกรณีก็คือขยี้ใต้ตาบ่อยๆจนเกิดเสียดสี กลายเป็นรอยคล้ำ หลักการเดียวกับข้อศอกคล้ำ หัวเข่าดำ แบบนั้นเลย
รอยดำใต้ตาที่เราเห็นเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก
เส้นเลือดฝอย (Vascular Cause)
- ผิวใต้ตาบางมาก ทำให้มองเห็นเส้นเลือดฝอยที่อยู่ข้างใต้
- ยิ่งถ้าพักผ่อนน้อย เส้นเลือดจะขยายตัว ทำให้เห็นชัดขึ้น
- มักมีสีคล้ำๆ ม่วงๆ หรือเขียวๆ
เม็ดสีเมลานิน (Pigmentation):
- เม็ดสีสะสมใต้ผิวหนัง ทำให้เห็นเป็นสีน้ำตาลคล้ำ
- มักเกิดจากแสงแดด ฮอร์โมน หรือการอักเสบ
- บางคนมีทั้งสองแบบร่วมกัน ทำให้ดูเข้มขึ้น
การรักษาต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุไหนเป็นหลัก
- ถ้าเป็นเส้นเลือด อาจต้องใช้เลเซอร์ชนิดพิเศษ
- ถ้าเป็นเม็ดสี อาจใช้ครีมลดเม็ดสีหรือเลเซอร์ชนิดรักษาฝ้า
- ถ้าเกิดจากการเป็นร่องลึกจากไขมันยุบตัว จนทำให้ผิวบริเวณนั้นเหี่ยว ย่น สะสมเม็ดสี แบบนี้การเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มอื่นๆก็ช่วยได้
ฟิลเลอร์ใต้ตา ลดความคล้ำ ความดำของผิวใต้ตาได้ยังไง
ฟิลเลอร์ใต้ตาจะเหมาะกับเคสที่มีลักษณะเฉพาะค่ะ หมอจะอธิบายให้ฟัง
เคสที่เหมาะกับฟิลเลอร์ใต้ตา
- มีร่องใต้ตาลึก (Tear trough) ชัดเจน
- มีการยุบตัวของไขมันใต้ตา ทำให้เห็นเป็นร่องลึก
- ผิวใต้ตาบางจนเห็นเส้นเลือด โดยเฉพาะคนที่มีปัญหา “ถุงใต้ตา” ร่วมด้วย
กลไกการทำงาน
- ฟิลเลอร์จะเข้าไปเพิ่มปริมาตร ยกระดับผิวให้สูงขึ้น
- ช่วยให้เส้นเลือดอยู่ลึกลง มองเห็นน้อยลง
- ลดเงาที่ทำให้ดูคล้ำ
ฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่เหมาะกับใคร
- คนที่มีถุงไขมันใต้ตามาก
- ผิวใต้ตาที่บวมน้ำ
คำแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาลดความคล้ำ
- บริเวณใต้ตาเป็นพื้นที่บอบบาง ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- อาจเกิดรอยช้ำหลังทำได้ 1-3 วัน
- ผลอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นกับแต่ละคน และรุ่น ยี่ห้อ ที่รับบริการ
หมอแนะนำว่าก่อนตัดสินใจทำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินว่าเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หรือไม่ เพราะบางคนอาจต้องใช้วิธีอื่นที่เหมาะสมกว่าค่ะ