
เป็นสิวไม่รู้สาเหตุ?
คนไข้หลายคนเดินเข้ามาหาหมอด้วยปัญหา “สิวเรื้อรัง” ที่รักษามาหลายที่ก็ไม่ดีขึ้น หมอบอกตามตรงนะคะว่าการรักษาสิวตามอาการ เช่น การกดสิว ฉีดสิว หรือทำเลเซอร์ ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ แต่หัวใจสำคัญที่แท้จริงที่หมอยึดถือมาตลอดคือ การหาสาเหตุที่แท้จริงของสิวให้เจอ เพราะถ้าเราแก้ที่ต้นตอไม่ตรงจุด ต่อให้จ่ายค่ารักษาไปมากแค่ไหน สิวก็จะกลับมาทักทายเราอยู่ดีค่ะ
หมอขอยกเคสตัวอย่างของคนไข้ท่านหนึ่งที่หมอประทับใจมากนะคะ คนไข้ท่านนี้เป็นสิวอักเสบและสิวผดต่อเนื่องมานาน พยายามเปลี่ยนสกินแคร์มานับไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น พอหมอได้ซักประวัติอย่างละเอียด ก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากๆ คือ คนไข้พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ ซึ่งมีปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำประปา คือบางวันน้ำก็ขุ่น บางวันก็ใส
พอได้ยินแบบนี้ หมอเลยยังไม่ได้เริ่มการรักษาด้วยยาหรือเลเซอร์ใดๆ เลยค่ะ แต่ให้ “การบ้าน” คนไข้กลับไปทำ 3 อย่างง่ายๆ คือ
- เปลี่ยนฝักบัวอาบน้ำ: ให้เป็นแบบ ‘มีฟิลเตอร์กรองน้ำ’ เพื่อกรองคลอรีน สิ่งสกปรก และสนิมที่อาจปนเปื้อนมากับน้ำ
- เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวใหม่: เลือกแบบที่ ‘ซับน้ำได้ดี’ และนุ่มเป็นพิเศษ เพื่อลดการเสียดสีบนใบหน้า
- แยกผ้าเช็ดตัว: ให้มี ‘ผ้าผืนเล็กสำหรับเช็ดหน้าโดยเฉพาะ’ และอีกผืนสำหรับเช็ดตัว ไม่ใช้ปะปนกันเด็ดขาด
รักษาสิวแบบนักสืบ คืออะไร
ปรากฏว่าหลังจากคนไข้กลับไปทำตามแค่ 3 ข้อนี้ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา คนไข้กลับมาหาหมอด้วยใบหน้าที่ดีขึ้นมากๆ สิวอักเสบยุบลง สิวผดหายไป และที่สำคัญคือไม่มีสิวใหม่ขึ้นอีกเลย ค่ะ เคสนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่า สาเหตุสิวของคนไข้ไม่ได้เกิดจากฮอร์โมนหรือสกินแคร์ แต่เกิดจาก ‘ปัจจัยภายนอก’ คือน้ำที่ไม่สะอาดและการระคายเคืองจากผ้าเช็ดตัว
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า การรักษาสิวที่ดีที่สุดคือการเป็นนักสืบไปพร้อมๆ กับคนไข้ค่ะ การให้ความสำคัญกับการซักประวัติและค้นหาสาเหตุ อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นยิ่งใหญ่กว่าการรักษาที่ปลายเหตุเสมอ หมอก็รักษาง่ายขึ้น คนไข้ก็มีความสุข แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลย สุดท้ายคนไข้เคสนี้ก็ต้องพิจารณาในการย้ายที่พัก เพื่อแก้ปัญหาระยะยาวด้วยค่ะ