ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ในยุคดิจิทัลและโลกออนไลน์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ ปัญหาหมอปลอมหรือบุคคลที่ปลอมตัวเป็นแพทย์ในคลินิกความงามกลายเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง การแยกแยะระหว่างหมอตัวจริงที่มีใบอนุญาตกับหมอเถื่อนหรือหมอปลอมนั้นเป็นเรื่องท้าทาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยความรู้และความตระหนักที่เพิ่มขึ้น

แฉพฤติกรรมอะไรบ้าง ของหมอปลอม หมอเถื่อนบนโลกออนไลน์

  • อันดับ 1 : ชอบถ่ายรูปลงโซเชียล โดยต้องมีองค์ประกอบครบ เช่น ชุดกาวน์ สุดเท่กับ หูฟังแพทย์ ( stethoscope) บ่อยจนผิดสังเกต ผิดปกติ พยายาม Keep Look ทุกทาง เข้าใจว่าทำเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ
  • อันดับ 2 : โพสภาพการทำงาน แต่ไม่โพสสถานที่ทำงานที่ชัดเจน คลินิกไหน โรงพยาบาลอะไร จังหวัดไหน คนถามก็ไม่ตอบ เป็นต้น
  • อันดับ 3 : มีการให้ข้อมูลที่ผิดหลักทางการแพทย์ การรักษา เนื่องจากตนไม่มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยมากเกิดจากประสบการณ์หรือจดจำมาอีกที
  • อันดับ 4 : หมอปลอมชอบชี้ชัด ฟันธง ให้คำปรึกษาที่สุดโต่ง แพทย์ตัวจริงที่มีประสบการณ์ จะต้องทราบข้อมูลคนไข้โดยละเอียดต้นสายปลายเหตุก่อนทำการให้คำแนะนำ หรือยืนยันแนวทางการรักษาเสมอ

หมอตัวจริง ดูยังไง ตรวจสอบอย่างไร?

  • ใบอนุญาต หรือที่เรียกกันง่ายว่า เลข ว. เลข “ว.” ของแพทย์ในประเทศไทยหมายถึง “เลขทะเบียนวิชาชีพ” ซึ่งเป็นหมายเลขที่ออกโดยสภาแพทย์ของประเทศไทยเพื่อลงทะเบียนแพทย์ที่ผ่านการศึกษาและการฝึกอบรมตามมาตรฐานที่กำหนด และมีคุณสมบัติเหมาะสมในการประกอบวิชาชีพแพทย์ในประเทศไทย หมายเลขนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยืนยันว่าแพทย์นั้นมีใบอนุญาตและเป็นสมาชิกของสภาแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบความเป็นมาและคุณภาพของแพทย์ที่จะรับบริการได้ ไปยังหน้าเว็บตรวจสอบชื่อแพทย์ คลิก
  • เลขทะเบียนวิชาชีพนี้ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการยืนยันตัวตนและคุณสมบัติของแพทย์เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบและรักษามาตรฐานการประกอบวิชาชีพแพทย์ในประเทศไทยด้วย ผู้ป่วยสามารถใช้เลขทะเบียนนี้เพื่อตรวจสอบข้อมูลของแพทย์ผ่าน เว็บไซต์ของสภาแพทย์แห่งประเทศไทย
  • สถานที่ทำงานชัดเจน ตรวจสอบได้ เชื่อถือได้
  • ใบประกาศ ใบรับรองที่ผ่านการอบรมทางวิชาการต่างๆ ที่ออกโดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือได้
ใบอนุญาต ของแพทย์ ที่ออกโดยกระทรวงสาธารณะสุข
คลิกที่ภาพเพื่อข้อมูลเพิ่มเติม

พฤติกรรมของแพทย์ตัวจริงในโลกออนไลน์นั้นช่างแตกต่างกับหมอปลอม หมอเถื่อนโดยสิ้นเชิง เช่น

  • ถ้าไม่ได้อยู่ในหน้าที่หรือจำเป็นจริงๆ เสื้อกาวน์กับหูฟัง stethoscope จะไม่อยากใส่เลย จากประสบการณ์หมอเองก็เช่นเดียวกัน
  • ในการโพสโซเชียล มักจะมีแต่เรื่องทั่วไป เพราะเมื่อนอกเวลางาน เราก็อยากจะเป็นแค่คนทั่วไป กิน เที่ยว พักผ่อน อยู่กับครอบครัว ปกติชน ไม่ได้ต้องพยายามเป็นหมอตลอดเวลา
  • การแนะนำการรักษา จะต้องพิจาราณาตามหลักทางการแพทย์อย่างรอบครอบ จากการซักประวัติ ตรวจคนไข้โดยละเอียด จึงจะสามารถแจ้งแนวทางการรักษาที่ถูกต้องได้ จะไม่เหมือนการถามมาตอบไปเหมือนกับในแอพโซเชียลต่างๆ เช่นปัจจุบัน
  • ดูเหมือนว่า จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ดูเป็นหมอน้อยที่สุดเสียด้วยซ้ำ เพราะยังไงเขาก็ต้องเป็นหมอตลอดชีวิตอยู่แล้ว

ผู้บริโภคสามารถป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อของหมอปลอมได้ ดังนี้

  1. ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ: สิ่งแรกและสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของแพทย์ ทุกคนที่ประกอบวิชาชีพแพทย์ต้องมีใบอนุญาตที่ถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้จากสภาวิชาชีพหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  2. ตรวจสอบประวัติและความเชี่ยวชาญ: ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านเว็บไซต์ของคลินิกหรือผ่านการค้นหาข้อมูลออนไลน์ หากมีข้อสงสัย เราควรขอดูหลักฐานหรือรายละเอียดการฝึกอบรมเพิ่มเติม
  3. รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการ: การค้นหารีวิวและความคิดเห็นจากผู้ที่เคยใช้บริการเป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพทย์และคลินิก อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาด้วยว่าบางรีวิวอาจเป็นการปลอมแปลงได้
  4. การสื่อสารและคำแนะนำที่ชัดเจน: แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจริงจะให้คำแนะนำและข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรักษา รวมถึงความเสี่ยงและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างรอบคอบ
  5. การเข้าถึงง่ายและการติดต่อที่เป็นมืออาชีพ: คลินิกที่น่าเชื่อถือควรมีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจนและตอบสนองอย่างรวดเร็ว การสื่อสารที่เป็นมืออาชีพแสดงถึงความจริงใจในการให้บริการ
  6. หลีกเลี่ยงข้อเสนอที่ดูเหลือเชื่อ: หากคลินิกหรือแพทย์เสนอข้อเสนอที่ดูไม่สมจริง อาทิ การรักษาที่รวดเร็วและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ต่ำเกินไป นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเป็นหมอปลอม

ตรวจสอบก่อนทุกครั้ง

  • คนไข้สามารถขอตรวจสอบชื่อแพทย์ผู้ตรวจ ผู้จะทำการรักษา เห็นใบหน้าชัดเจน ได้ทุกครั้งก่อนเข้าไปรับบริการ
  • สามารถขอดูสถานที่ตั้งของคลินิก ใบอนุญาต บรรยากาศห้องตรวจ ห้องหัตถการก่อนเข้ารับบริการ

การตื่นตัวและมีความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะและป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อของหมอปลอมในคลินิกความงามได้ รู้จักหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขอบคุณภาพจากเพจ ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) https://www.facebook.com/CIBTHAILAND

ถ้าเผลอไปรับบริการกับหมอเถื่อน จะเกิดอะไรขึ้น

การรับบริการด้านความงามกับหมอเถื่อนมีความเสี่ยงดังต่อไปนี้:

  • เสี่ยง 100%: หมอเถื่อนไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการแพทย์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมและอาจขาดความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำหัตถการด้านความงาม
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการอนุมัติ: หมอเถื่อนอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการอนุมัติหรือไม่ได้รับการควบคุม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
  • การติดเชื้อ: คลินิกเถื่อนอาจไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยที่เหมาะสม ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
  • ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์: หมอเถื่อนอาจขาดประสบการณ์และทักษะในการทำหัตถการด้านความงามอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การเสียโฉมหรือการบาดเจ็บถาวร
  • ความเสี่ยงทางกฎหมาย: การรับบริการจากหมอเถื่อนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และผู้ที่รับบริการอาจต้องรับผิดทางกฎหมายหากเกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ
  • ไม่มีการรับประกันความปลอดภัย: หมอเถื่อนไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยหรือผลลัพธ์ของหัตถการด้านความงามได้
  • ไม่มีการติดตามผล: หมอเถื่อนอาจไม่ติดตามผลกับผู้ป่วยหลังจากทำหัตถการ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่ได้รับการรักษา
  • การขาดความเป็นมืออาชีพ: หมอเถื่อนอาจขาดความเป็นมืออาชีพและจริยธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมหรือการกดดันให้ผู้ป่วยทำหัตถการที่ไม่จำเป็น
หมอปลอมมีอยู่ในทุกวงการ ไม่ใช่แค่คลินิกความงาม ศัลยกรรม ยังมีหมอฟัน สัตวแพทย์ อื่นๆอีก