ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ฉีดโบท็อกหน้าผาก เจ็บไหม เห็นผลในกี่วัน อยู่ได้นานแค่ไหน คำถามที่พบบ่อย

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

โบท็อกซ์ลดริ้วรอยหน้าผาก

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

รู้จักหมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ใบอนุญาต ว.49465

แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าและการชะลอวัย ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

ฉีดโบท็อกหน้าผาก เจ็บไหม เห็นผลในกี่วัน อายุเยอะแล้วฉีดได้ไหม อยู่ได้นานแค่ไหน คำถามที่พบบ่อย

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง ผสมตัวยาต่อหน้า ติดตามผลการรักษา

โบท็อกซ์หน้าผาก ลดริ้วรอย เผยผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์

ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผาก ไม่ว่าจะเป็นรอยย่น รอยยับที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจและดูมีอายุเกินกว่าวัย การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากคือหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ปัญหานี้ เพื่อคืนความเรียบเนียนและความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า

โบท็อกซ์ลดริ้วรอยหน้าผาก รีวิว อายุ 66 ฉีดโบท็อกซ์

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

คนที่ยังไม่เคยรับบริการคนที่รับบริการแล้ว
มีริ้วรอยปรากฏชัดเจนเมื่อเลิกคิ้วหรือขมวดคิ้วริ้วรอยลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวเรียบเนียนขึ้น
หากปล่อยไว้นาน ริ้วรอยอาจกลายเป็นร่องลึกถาวรช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยถาวรในระยะยาว
ใบหน้าอาจดูมีอายุและเหนื่อยล้าจากรอยย่นใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
กล้ามเนื้อหน้าผากทำงานเต็มที่ ทำให้เกิดรอยพับได้ง่ายกล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้ผิวตึงกระชับและเรียบเนียน

โบท็อกซ์หน้าผากคืออะไร?

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก คือการใช้สาร “โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ” (Botulinum Toxin Type A) ฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก สารนี้จะออกฤทธิ์โดยการเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อที่ถูกฉีดคลายตัวและทำงานลดลงชั่วคราว เมื่อเราเลิกคิ้วหรือขมวดคิ้ว ริ้วรอยที่เคยปรากฏจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อก็จะลดเลือนลง ทำให้ผิวบริเวณหน้าผากดูเรียบเนียนและตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

สาเหตุของริ้วรอยบนหน้าผาก

ริ้วรอยบนหน้าผากเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน

  1. การแสดงสีหน้าซ้ำๆ การเลิกคิ้ว ขมวดคิ้ว หรือยิ้มบ่อยๆ ทำให้กล้ามเนื้อหน้าผากหดตัวซ้ำๆ จนเกิดเป็นริ้วรอยเมื่อเวลาผ่านไป
  2. อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ความยืดหยุ่นลดลง ผิวจึงไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ดีเท่าเดิม
  3. แสงแดด รังสียูวี (UV) เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น
  4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ และความเครียด ล้วนส่งผลให้ผิวเสื่อมโทรมและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
pie
    title สาเหตุของริ้วรอยบนหน้าผาก
    "แสงแดด" : 55
    "อายุที่เพิ่มขึ้น" : 20
    "พฤติกรรมการใช้ชีวิต" : 15
    "การแสดงสีหน้า" : 10
อ้างอิงคนไข้ดีเลิฟเวอรี่คลินิก ปี 2022-2025
ทำไมผู้ชายยุคใหม่ถึงหันมาฉีดโบท็อกซ์กันมากขึ้น

รอยย่นหน้าผาก แบบไหนควรโบท็อกซ์ แบบไหนควรเติมฟิลเลอร์

หัวข้อโบท็อกซ์ (Botox)ฟิลเลอร์ (Filler)
ประเภทริ้วรอยที่เหมาะรอยย่นจากการแสดงอารมณ์ (Dynamic Wrinkles)ร่องลึกที่อยู่นิ่งๆ (Static Wrinkles)
หลักการทำงานคลายกล้ามเนื้อ: ทำให้กล้ามเนื้อที่ก่อให้เกิดริ้วรอยคลายตัว ผิวหนังด้านบนจึงไม่ถูกพับเป็นรอยเติมเต็มร่องลึก: เติมสารเติมเต็ม (เช่น Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกผิวบริเวณที่เป็นร่องให้ตื้นขึ้น
ลักษณะปัญหาที่เห็นริ้วรอยจะปรากฏชัดเจนเมื่อขยับกล้ามเนื้อ เช่น การเลิกคิ้ว, การขมวดคิ้วริ้วรอยยังคงเห็นเป็นเส้นหรือร่องลึกอยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าหรือทำหน้าเฉยๆ
ผลลัพธ์ที่ได้ริ้วรอยตื้นขึ้นหรือหายไป เวลาแสดงสีหน้า หน้าผากจะดูเรียบเนียน ป้องกันการเกิดร่องลึกถาวรร่องลึกดูเต็มและตื้นขึ้น ทันทีหลังทำ ผิวบริเวณนั้นจะดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น
ระยะเวลาเห็นผลเริ่มเห็นผล 3-7 วัน, เห็นผลเต็มที่ ~2 สัปดาห์เห็นผลทันทีหลังทำ
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือนประมาณ 6-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิด)
เหมาะกับใครผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยเมื่อแสดงสีหน้า หรือต้องการป้องกันการเกิดร่องลึกในอนาคตผู้ที่มีร่องลึกถาวรบนหน้าผากแล้ว ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์อย่างเดียวอาจไม่สามารถทำให้ร่องหายไปได้สนิท
อยากหน้าเด็ก เติมฟิลเลอร์จุดไหนดี ใช้รุ่นไหนดี ราคาเท่าไหร่ ใช้กี่ cc

เสริมซิลิโคนหน้าผากจะแก้ปัญหาริ้วรอยได้ตลอดชีวิตไหม

หัวข้อ / คำถามการเสริมซิลิโคนหน้าผาก
เป็นหัตถการเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยโดยตรง❌ ไม่ใช่
แก้ปัญหาริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ (Dynamic Wrinkles)❌ ไม่ใช่
ช่วยให้ร่องลึกที่อยู่นิ่งๆ ดูตื้นขึ้น (Static Wrinkles)✅ ใช่
หยุดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย❌ ไม่ใช่
เป็นการแก้ปัญหาริ้วรอยได้ “ตลอดไป”❌ ไม่ใช่
เสริมหน้าผาก จะลดริ้วรอยได้ตลอดชีวิตไหม

1. เป้าหมายหลักคือการปรับ “รูปทรง” ไม่ใช่ “ริ้วรอย”

การเสริมซิลิโคนหน้าผากมีจุดประสงค์หลักเพื่อปรับโครงสร้างให้หน้าผากมีความโค้งมนสวยงาม, โหนกนูน, หรือแก้ไขหน้าผากที่แบนหรือยุบให้ได้สัดส่วนที่ดีขึ้น ผลพลอยได้คือผิวที่ตึงขึ้น แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลักครับ

2. ไม่ได้แก้ปัญหาริ้วรอยจากการ “ขยับ” (Dynamic Wrinkles)

ซิลิโคนจะถูกวางไว้ใต้ชั้นกล้ามเนื้อ แต่ตัวกล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis) ยังคงทำงานได้ตามปกติ ดังนั้น เมื่อคุณเลิกคิ้วหรือแสดงสีหน้า กล้ามเนื้อก็จะยังคงหดตัวและทำให้เกิดริ้วรอยเหมือนเดิม

  • วิธีแก้ที่ตรงจุด: การฉีด โบท็อกซ์ เพื่อคลายกล้ามเนื้อ

3. ช่วยเรื่อง “ร่องลึก” ที่อยู่นิ่งๆ ได้ (Static Wrinkles)

เมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไป จะเกิดแรงดันจากด้านใน ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อโดยรอบถูกดึงให้ตึงขึ้น (เหมือนการขึงผ้าใบ) ซึ่งจะช่วยให้ร่องลึกที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ดูเรียบเนียนและตื้นขึ้นได้

4. ไม่ได้แก้ปัญหา “ถาวร” ตลอดไป

แม้ซิลิโคนจะอยู่ในร่างกายเป็นการถาวร แต่ “ผล” ที่มีต่อริ้วรอยนั้นไม่ถาวร เพราะ

  • กล้ามเนื้อยังทำงาน: คุณยังคงแสดงสีหน้า ทำให้เกิดการพับของผิวหนังซ้ำๆ
  • กระบวนการชราดำเนินต่อไป: ผิวของคุณยังคงสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินไปตามวัย ซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอยใหม่ได้ในอนาคต
allergan-botox-program-vial-dlovevery-clinic

ข้อดีและข้อควรพิจารณาก่อนรับบริการโบท็อกซ์ริ้วรอยหน้าผาก

ข้อดี

  • ลดเลือนและป้องกันริ้วรอย: จัดการปัญหาริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ได้อย่างตรงจุด และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต
  • เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว: หลังฉีดจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น: เป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • ช่วยปรับรูปคิ้ว: สามารถใช้เทคนิคการฉีดเพื่อยกคิ้วให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
  • มีความปลอดภัยสูง: หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้

ข้อควรพิจารณา

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร: โบท็อกซ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน จำเป็นต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผลลัพธ์
  • อาจเกิดผลข้างเคียง: หากฉีดกับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญหรือใช้ยาในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้หน้าแข็ง, คิ้วตก, หรือหนังตาตกได้
  • ค่าใช้จ่าย: การฉีดโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณาในระยะยาว
  • ข้อจำกัดในการดูแลตัวเอง: ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น งดนอนราบหลังฉีด หรือหลีกเลี่ยงความร้อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โบท็อกซ์ หน้าผาก

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

ปริมาณที่ใช้ (ยูนิต)

ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความลึกของริ้วรอยและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยทั่วไป

xychart-beta
    title "ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้โดยประมาณ (หน้าผาก)"
    x-axis "เพศ" ["ผู้หญิง", "ผู้ชาย"]
    y-axis "ปริมาณ (ยูนิต)" 0 --> 50
    bar [20, 35]
  • ผู้หญิง: อาจใช้ประมาณ 10-30 ยูนิต
  • ผู้ชาย: อาจต้องใช้ปริมาณมากขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อแข็งแรงและมีขนาดใหญ่กว่า
  • โดยเฉลี่ย: แพทย์อาจแนะนำที่ประมาณ 15-40 ยูนิต +- ได้บ้าง เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและหลีกเลี่ยงอาการหน้าผากตึงเกินไป
โปรโมชั่น โบนิว ราคา เริ่มต้น 1500 บาท มีราคาเหมาขวด พิเศษ

กี่วันเห็นผล และอยู่ได้นานแค่ไหน?

  • การเห็นผล: หลังฉีดจะเริ่มรู้สึกตึงๆ ใน 3-7 วัน และจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์
  • ระยะเวลา: ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ใช้, ปริมาณ, สภาพผิวของแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองหลังฉีด หลังจากนั้นสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เพื่อคงผลลัพธ์ไว้
รีวิวฉีดโบท็อกซ์ตีนกา หางตา แพทย์ผสมยาต่อหน้าก่อนทำการรักษาทุกเคส

การเตรียมตัวและดูแลตัวเอง

ก่อนฉีด

  1. ปรึกษาแพทย์: แจ้งประวัติสุขภาพ การแพ้ยา และยาที่รับประทานประจำ
  2. งดยาและวิตามินบางชนิด: หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา, และสารสกัดจากโสม อย่างน้อย 4-5 วัน เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำ
  3. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว: งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ (Retinoids), AHA หรือการสครับผิว 1-2 วันก่อนฉีด
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ: เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม

หลังฉีด

  1. ขยับกล้ามเนื้อ: ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที (เช่น ยักคิ้ว) ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ตัวยากระจายตัวได้ดี
  2. งดนอนราบ: ห้ามนอนราบหรือนอนตะแคงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันยาเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
  3. หลีกเลี่ยงความร้อน: งดซาวน่า, อบไอน้ำ, เลเซอร์, หรือการนวดหน้าเป็นเวลา 14 วัน
  4. งดออกกำลังกายหนัก: เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  5. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารหมักดอง: ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
  6. งดการแต่งหน้า: ในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
ริ้วรอยจุดไหนทำคุณกังวลที่สุด?

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

ข้อควรรู้คำอธิบาย
เจ็บระดับไหน?ความเจ็บอยู่ในระดับน้อยมาก คล้ายมดกัดหรือการกดสิวเท่านั้น เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าผากบางกว่า
• หน้าผาก: ★☆☆☆☆
• ตีนกาหางตา: ★★☆☆☆
อายุ 60+ ฉีดได้ไหม?ยังเห็นผล โดยเฉพาะกับริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ (Dynamic Wrinkles) แต่หากเป็นร่องลึกที่อยู่นิ่งๆ (Static Wrinkles) โบท็อกซ์จะช่วยให้ดูจางลงและเรียบเนียนขึ้น แต่อาจไม่หายไปทั้งหมด แพทย์อาจแนะนำให้ทำร่วมกับหัตถการอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อายุเยอะ ต้องใช้ยาเยอะขึ้น?ไม่เสมอไป ปริมาณยูนิตขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความลึกของริ้วรอย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินเป็นรายบุคคล ในบางกรณีผู้ที่มีอายุมากกล้ามเนื้ออาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม จึงอาจใช้ยูนิตไม่เยอะเท่าที่คิด
อันตรายหรือไม่?การฉีดโบท็อกซ์มีความปลอดภัยสูง หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น
อาการหน้าผากตึงเกิดจากการใช้ปริมาณโบท็อกซ์ที่มากเกินไป หรือฉีดผิดตำแหน่ง ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินปริมาณที่เหมาะสม ป้องกันปัญหาหน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
ทำไมต้องฉีดกับแพทย์?บริเวณหน้าผากมีกายวิภาคที่ซับซ้อน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีความรู้ความเข้าใจ สามารถวางแผนการรักษาและใช้เทคนิคที่แม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยสูงสุด
ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?โบท็อกซ์: ใช้เพื่อคลายกล้ามเนื้อ ลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ (Dynamic Wrinkles)
ฟิลเลอร์: เป็นสารเติมเต็ม ใช้ฉีดเพื่อเติมร่องลึกที่อยู่นิ่งๆ (Static Wrinkles) และปรับโครงสร้างใบหน้า
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่คลินิกไหนดี ราคาเท่าไหร่

ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic?

เราเข้าใจว่าการตัดสินใจทำหัตถการบนใบหน้าต้องอาศัยความไว้วางใจ เราจึงสร้างมาตรฐานการบริการเพื่อให้คุณมั่นใจในทุกขั้นตอน

  • เป็นส่วนตัวและใส่ใจ: เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว บรรยากาศคลินิกไม่แออัด ไม่ต้องรอนาน แพทย์ให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวอย่างละเอียด ไม่เร่งรีบ เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด
  • สบายใจ ไม่มีแรงกดดัน: เราไม่มีเซลส์คอยปิดการขายหรือบังคับซื้อคอร์ส คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระและสบายใจ
  • จ่ายสบาย เลือกได้: เรามีระบบชำระเงินที่ยืดหยุ่น ทั้งการวางมัดจำ, การแบ่งจ่าย, Shopee PayLater และโปรแกรมผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ
  • ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม: คุณจะได้ติดตามผลและปรึกษาปัญหากับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง เพื่อความต่อเนื่องและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • รีวิวจริงจากลูกค้าจริง: ความไว้วางใจของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด เรารวบรวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ไม่มีการจ้างดาราหรือ Influencer เพื่อการโฆษณา
  • แพทย์ประสบการณ์สูง ตรวจสอบได้: ทีมแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง คุณสามารถตรวจสอบประวัติและใบประกอบวิชาชีพได้
  • คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก: คลินิกของเราผ่านการรับรองตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก พร้อมที่จอดรถฟรี
  • โปร่งใสและตรวจสอบได้: เราใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยทุกตัว คุณสามารถตรวจสอบได้ก่อนฉีด และยังมีระบบให้คุณเช็คคอร์สคงเหลือได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ดีเลิฟเวอรี่คลินิก รับชำระด้วย Shopee SPayLater

ราคาโบท็อกซ์

  • ราคาเริ่มต้นเฉพาะหน้าผาก 2000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณที่แพทย์ประเมิน
botox เกาหลี มียี่ห้อไหนบ้าง อัพเดท 2025 ราคาเท่าไหร่
ราคาโบท็อกซ์ อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ แตกต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี
โปรแกรมราคา
NEURONOX 50 UNIT4,999.-
NEURONOX 100 UNIT7,999.-
AESTOX 50 UNIT4,999.-
AESTOX 100 UNIT7,999.-
HUGEL 50 UNIT5,999.-
HUGEL 100 UNIT9,999.-
XEOMIN 50 UNIT9,000.-
XEOMIN 100 UNIT17,000.-
DYSPORT 120 UNIT12,000.-
DYSPORT 300 UNIT19,000.-
BOTOX 50 UNIT12,900.-
BOTOX 100 UNIT19,999.-

หมายเหตุ: ควรสอบถามราคาและโปรโมชั่นจากคลินิกโดยตรงก่อนเข้ารับบริการ

รีวิว Botulinum Toxin

D’ Lovevery Clinic

  • สาขาพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง โทร 064-424-6526
  • สาขา Crystal Design Center (CDC) โทร 095-236-4546

การดูแลผิวหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบและอ่อนเยาว์นั้น ไม่ใช่แค่การดูแลผิวชั้นบนเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากชั้นผิวไหน เพื่อให้หมอเลือกโปรแกรมที่ ตรงจุด เช่น โปรแกรม Sculptra, Profhilo, Radiesse, Thermage FLX, Potenza, Oligio เหมาะกับการปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและไขมันตื้น, โปรแกรม Botox ใช้กับริ้วรอยจากการทำงานของกล้ามเนื้อ, โปรแกรม Ulthera ยกกระชับโครงสร้างลึกถึงชั้น SMAS, และ โปรแกรม Filler ช่วยเสริมสร้างและเติมเต็มโครงสร้างกระดูกและไขมันชั้นลึก การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหาในแต่ละชั้นผิวอย่างละเอียด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงามและยั่งยืนค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

Juvelook ช่วยลดริ้วรอย แต่ไม่ได้ออกฤทธิ์เหมือนโบท็อกซ์ Juvelook อาจช่วยปรับสภาพผิวและลดเลือนหลุมสิวได้บ้าง แต่ไม่ใช่วิธีการรักษาหลุมสิวโดยตรง

อ่านเพิ่มเติม

การรักษาริ้วรอยที่คอต้องเลือกให้ถูกประเภทค่ะ โดย ริ้วรอยที่เป็นเส้นขวางตามลำคอ (เหมือนสร้อยคอ) ซึ่งเกิดจากร่องลึกของผิวหนังที่สูญเสียคอลลาเจน จะต้องใช้ “ฟิลเลอร์” ในการ “เติมเต็ม” ร่องลึกนั้นให้ตื้นขึ้นและเรียบเนียน ในขณะที่ เส้นเอ็นแนวตั้งที่เห็นชัดตอนเกร็งคอ เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ จะต้องใช้ “โบท็อกซ์” เพื่อฉีด “คลายกล้ามเนื้อ” ไม่ให้หดตัวจนเกิดเป็นเส้นขึ้นมาค่ะ ในบางเคส อาจมีการผสมผสานการรักษา หรือแม้กระทั่งกลุ่ม Biostimulator ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในบางเคสค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ลองนึกภาพตามนะคะว่าใบหน้าของเราก็เหมือนกับเต็นท์ค่ะ โดยมีผิวหนังเป็นผ้าใบของเต็นท์ และมีโครงสร้างข้างใต้ ทั้งกระดูก ไขมัน และกล้ามเนื้อ เป็นเสาที่คอยขึงให้ผ้าใบตึงสวยเข้ารูปอยู่ค่ะ

ทีนี้ พอเราอายุมากขึ้น “เสา” พวกนี้ โดยเฉพาะกระดูกและไขมัน มันจะเริ่มฝ่อตัวเล็กลงไปตามธรรมชาติ ส่วน “ผ้าใบ” หรือผิวของเราเองก็เริ่มหย่อน ไม่กระชับเหมือนเก่า เพราะคอลลาเจนน้อยลง

กล้ามเนื้อกรามของเราก็เป็น “เสาต้นสำคัญ” ที่ช่วยพยุงผิวช่วงแก้มและกรอบหน้าเอาไว้ค่ะ การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามก็คือการทำให้เสาต้นนี้มันเล็กลงเพื่อให้หน้าเราดูเรียวขึ้น

ดังนั้น ถ้าคนไข้เริ่มมีอายุแล้ว ผิวก็เริ่มหย่อนคล้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วเรายังไปฉีดให้ “เสา” ที่ช่วยพยุงผิวอยู่นั้นมันเล็กลงไปอีก ก็จะยิ่งเหมือนเราเอาเสาค้ำเต็นท์ออก ทำให้ผ้าใบ (ผิว) มันยิ่งหย่อนลงมา กองตรงแก้มด้านล่างได้ค่ะ ผลที่ตามมาก็คืออาจจะทำให้แก้มดูตอบ ร่องแก้มลึกขึ้น หรือเห็นร่องน้ำหมากชัดขึ้นได้ค่ะ

เพราะฉะนั้นถ้าอายุมากขึ้นแล้วอยากฉีดจริงๆ ก็ต้องทำอย่างระมัดระวังมากๆ หมอจะแนะนำให้ใช้ยาน้อยๆ แค่พอให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงนิดหน่อย ให้กรอบหน้าดูซอฟต์ลง แต่จะไม่เน้นฉีดให้กรามหายไปเยอะๆ เพื่อรักษาโครงสร้างที่ช่วยพยุงผิวเอาไว้ให้ได้มากที่สุดค่ะ เราอยากให้หน้าดูสดใส ไม่ใช่ดูหย่อนคล้อยกว่าเดิม โอเค เข้าใจตรงกันแล้วนะคะ

อ่านเพิ่มเติม

สำหรับคนไข้ที่อยากปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้น สามารถเลือกทำได้หลายวิธีตามสาเหตุของปัญหาค่ะ หาก กรามใหญ่ จากกล้ามเนื้อ การฉีด โบท็อกซ์ จะช่วยให้กรามเล็กลง, ถ้ามี ไขมันที่แก้มและเหนียง เยอะ การฉีด เมโสแฟต เพื่อสลายไขมันเป็นทางเลือกที่ดี, หรือหากใบหน้า หย่อนคล้อย ไม่กระชับ การทำเครื่องยกกระชับอย่าง HIFU หรือ Ulthera ก็จะช่วยเก็บกรอบหน้าให้คมชัดและดูเรียวขึ้นได้ ซึ่งในคนไข้บางรายอาจต้องใช้วิธีการรักษาหลายอย่างร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินใบหน้าก่อนตัดสินใจค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

สำหรับคำถามที่ว่าฉีดโบท็อกซ์หลายยี่ห้อในปีเดียวจะเป็นอะไรไหม หมอตอบตรงนี้เลยค่ะว่า “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ” สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่การสลับยี่ห้อ แต่อยู่ที่ ความบริสุทธิ์ของตัวยา, การเป็นของแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย., และการฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ค่ะ โบทูลินัมท็อกซินแต่ละยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นจากอเมริกา เกาหลี หรือเยอรมัน จะมีจุดเด่นต่างกันเล็กน้อย เช่น ความแน่นของการจับกับกล้ามเนื้อ หรือการกระจายตัวของยา แต่หัวใจหลักของมันคือการออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเหมือนกัน ตราบใดที่เรามั่นใจว่าเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานและฉีดในปริมาณที่เหมาะสมโดยแพทย์ ผลลัพธ์ในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพแทบไม่แตกต่างกันเลยค่ะ

ดังนั้น ไม่ต้องกังวลนะคะหากปีก่อนเคยฉีดอีกยี่ห้อ แล้วปีนี้จะมาฉีดอีกยี่ห้อหนึ่ง ร่างกายเราไม่ได้จดจำยี่ห้อค่ะ สิ่งที่ร่างกายสนใจคือตัวยาที่เข้าไปทำงาน การสลับยี่ห้อที่ได้มาตรฐานจึงไม่ใช่เรื่องอันตราย แต่สิ่งที่ต้องระวังและให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือ ต้องมั่นใจว่าเป็นยาแท้ 100% และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ใกล้เคียงกันตามมาตรฐานของแต่ละยี่ห้อค่ะ นี่คือหัวใจของการฉีดโบท็อกซ์ที่ได้ผลดีที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ลองวาดภาพว่าผิวเราเหมือนสปริงที่ยืดหยุ่นน้อยลง คอลลาเจน–อีลาสทินค่อยๆลด ทำให้ผิวบางลง แห้งง่าย และเกิดริ้วรอยทั้งตอนยิ้มขยับและตอนพักเฉยๆ ไขมันชั้นตื้นที่เคยพยุงผิวก็กระจายและไหลลง ทำให้ใต้ตาล้า ร่องแก้มเริ่มมา แก้มแฟบลง หน้าดูโทรมกว่าที่เคยเป็น

ลึกลงไป กล้ามเนื้อบางมัดทำงานหนักขึ้น (เช่น กราม) จึงดึงหน้าให้ตกลง ส่วนบางมัดกลับฝ่อ สมดุลเสีย กระดูกก็หดร่นเล็กลง โดยเฉพาะรอบเบ้าตาและแนวกราม ทำให้ตาดูลึก ขมับแบน และเกิดแก้มตกห นี่คือเหตุผลว่าทำไม “ทาครีมอย่างเดียว” จึงดีขึ้นไม่ได้ เพราะปัญหาอยู่หลายชั้นตั้งแต่ผิว ไขมัน กล้ามเนื้อ ไปจนถึงกระดูก

พื้นฐานคือทากันแดดสม่ำเสมอ บางคนแค่กันแดดก็บอกลำบากแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง บำรุงด้วยเรตินอยด์ วิตามินซี และมอยส์เจอไรเซอร์ จากนั้นเราปรับตามปัญหา โบท็อกซ์ช่วยคลายริ้วรอยได้ เลเซอร์/คลื่นพลังงานกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น ฟิลเลอร์ใน “ชั้นลึก” ยกเครื่องโครงหน้าใหม่ เช่นโหนกแก้ม–ขมับ–แนวกราม และในบางเคสอาจใช้ไหมพยุงหรือพิจารณาศัลยกรรมเมื่อหย่อนมาก จุดสำคัญคือทำอย่างพอดี ปลอดภัย และวางแผนระยะยาวให้เหมาะกับใบหน้าและไลฟ์สไตล์ของตัวเองดีที่สุดค่ะ ทุกโปรแกรม ทุกเครื่องมีข้อดีข้อจำกัด เหมาะกับคนอื่นแต่อาจจะไม่เหมาะกับเรา

อ่านเพิ่มเติม

ใช้เวลารับบริการ:

20

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

It's not about turning back the clock, it's about turning up my confidence.

★★ ความประทับใจ ★★

google
보크
보크
06/09/2025
facebook
Pakjira Leattaveevit
Pakjira Leattaveevit
แนะนำเลย
24/12/2024
google
วิภัทร พงศ์ทิพากร
วิภัทร พงศ์ทิพากร
21/07/2024
facebook
Wipat Pongtipagorn
Wipat Pongtipagorn
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Peter Nick
Peter Nick
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Tay Pattara
Tay Pattara
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
วสิทธิ์ ทองโผ
วสิทธิ์ ทองโผ
แนะนำเลย
12/05/2024