ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ฉีดโบลิฟกรอบหน้า คืออะไร โบลิฟกรอบหน้าเหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่ ข้อดีข้อเสีย คำถามที่พบบ่อย

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

โบท็อกซ์เก็บกรอบหน้า

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

รู้จักหมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ใบอนุญาต ว.49465

แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าและการชะลอวัย ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า คืออะไร เหมาะกับใคร มีเทคนิคอะไร ราคาเท่าไหร่ คำถามที่พบบ่อย

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง ผสมตัวยาต่อหน้า ติดตามผลการรักษา
เลือกอ่านเนื้อหา

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าคืออะไร? เผยเทคนิคหน้าเรียว กรอบหน้าคมชัด

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อโปรแกรม Botox Lifting เป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ผิวดูกระชับ และมีกรอบหน้าที่คมชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม การฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าเป็นการใช้สาร Botulinum Toxin Type A ฉีดเข้าไปยังบริเวณผิวชั้นตื้นตามแนวกรอบหน้าและลำคอ เพื่อคลายการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงผิวให้หย่อนคล้อยลง ส่งผลให้ผิวตึงกระชับและกรอบหน้าดูชัดเจนยิ่งขึ้น

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า

ผู้ที่ยังไม่เคยรับบริการผู้ที่รับบริการแล้ว
กรอบหน้าไม่ชัดเจน ผิวมีความหย่อนคล้อยกรอบหน้าดูคมชัด มีมิติมากยิ่งขึ้น
รูปหน้าโดยรวมอาจดูกลมหรือไม่สมส่วนใบหน้าแลดูเรียวสวยเข้ารูป V-Shape
ขาดความมั่นใจในสัดส่วนของใบหน้าผิวยกกระชับขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ แลดูจางลง
กล้ามเนื้อคอ (Platysma) ดึงรั้งให้ผิวหน้าหย่อนลงกรอบหน้ายกขึ้น ลำคอดูระหงและเหนียงลดลง

ข้อดีและข้อควรพิจารณาก่อนรับบริการ

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าเป็นการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ควรเลือกรับบริการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือการใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ของแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งสามารถตรวจสอบได้

โบท็อกซ์ลิฟหน้า ปรับหน้าเรียว ดูมีมิติ

เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้ายอดนิยม

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลิฟต์กรอบหน้ามี 2 เทคนิคหลักที่แพทย์นิยมใช้ ได้แก่

  • Dermo Lift เทคนิคจากประเทศเกาหลีที่เน้นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในชั้นผิวหนังตื้นๆ (Dermis) ตามแนวกรอบหน้าไล่ขึ้นไป ทำให้ผิวเกิดการหดตัวและยกกระชับขึ้นทันที อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ไม่นานเท่าอีกเทคนิคหนึ่ง
  • Nefertiti Lift เทคนิคนี้ได้แรงบันดาลใจจากพระนางเนเฟอร์ติติ ซึ่งมีพระศอและกรอบหน้าที่งดงาม โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกซ์ไปยังกล้ามเนื้อ Platysma ที่อยู่บริเวณลำคอ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ดึงผิวหน้าให้หย่อนลง เมื่อกล้ามเนื้อนี้คลายตัว จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ทำหน้าที่ยกผิวหน้า (Upper Face Muscles) มีแรงดึงมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมยกกระชับ กรอบหน้าคมชัด และลดเหนียงบริเวณลำคอได้อีกด้วย

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าเหมาะกับใคร?

การฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน หรือต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและมีมิติมากยิ่งขึ้น สามารถทำได้ทั้งในผู้หญิงที่ต้องการใบหน้าเรียวสวยแบบ V-Shape และในผู้ชายที่ต้องการให้กรอบหน้า (Jawline) ดูคมชัดขึ้นเพื่อเสริมบุคลิกภาพ

โปรโมชั่น โบนิว ราคา เริ่มต้น 1500 บาท มีราคาเหมาขวด พิเศษ

อยากหน้าเรียว กระชับยิ่งขึ้น ทำคู่กับอะไรดี?

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การปรับรูปหน้าที่ชัดเจนและตรงจุดมากที่สุด การทำโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าสามารถทำควบคู่ไปกับหัตถการอื่นๆ ได้ โดยโปรแกรมที่นิยมทำร่วมกันมีดังนี้

  • โบท็อกซ์ลิฟต์หน้า + โบท็อกซ์กราม ช่วยให้หน้าเรียวสวยและกรอบหน้าคมชัดไปพร้อมกัน
  • โบท็อกซ์ลิฟต์หน้า + แฟตแก้มเหนียง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าชัดขึ้นและมีใบหน้าที่คมมีมิติ ลดไขมันส่วนเกิน
  • โบท็อกซ์ลิฟต์หน้า + HIFU ช่วยยกกระชับผิวจากชั้นลึก ทำให้กรอบหน้าชัดและใบหน้าโดยรวมดูยกขึ้น
  • ทำพร้อมกันทั้งหมด (ลิฟต์หน้า + กราม + แฟต + HIFU) เป็นเซ็ตยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การปรับรูปหน้าที่ชัดเจนที่สุด ทั้งหน้าเรียว กรอบหน้าชัด ลดแก้ม ลดเหนียง และผิวยกกระชับ
hifu คลินิกไหนดี

โบท็อกซ์กราม กับ ลิฟกรอบหน้า แตกต่างกัน

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า (Botox Face Lift)โบท็อกซ์ลดกราม (Jaw Reduction Botox)
เป้าหมายยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
บริเวณที่ฉีดฉีดเข้าที่ผิวหนังชั้นตื้นๆ (Dermis) และกล้ามเนื้อ Platysma ตามแนวกรอบหน้าและลำคอฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อกราม (Masseter Muscle) โดยตรง
ผลลัพธ์กรอบหน้าคมชัดขึ้น ผิวดูยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยใบหน้าช่วงกรามดูเรียวเล็กลง ปรับรูปหน้าให้เป็น V-Shape มากขึ้น
เหมาะกับใครผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่คมชัดผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ หน้าเหลี่ยม ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ
บรรยากาศฉีดลดกราม น้องวิว

ตารางเปรียบเทียบโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า VS ฟิลเลอร์สร้างกรอบหน้า

คุณสมบัติโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า (Botox Jawline Lift)ฟิลเลอร์สร้างกรอบหน้า (Filler Jawline Contouring)
หลักการทำงานใช้ฤทธิ์ของโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) คลายกล้ามเนื้อคอ (Platysma) ที่ดึงรั้งผิวบริเวณกรามให้ตกลง และฉีดเทคนิค Dermolift เพื่อกระตุ้นให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้นใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ฉีดเข้าไปเพื่อเสริมสร้างโครงสร้างบริเวณแนวกรามและคางโดยตรง
เป้าหมายหลักยกกระชับ (Lifting): ช่วยให้กรอบหน้าที่หย่อนคล้อยตึงขึ้น เก็บเหนียง ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นจากความกระชับเพิ่มวอลลุ่มและสร้างโครงสร้าง (Volume & Sculpting): ปรับโครงสร้างแนวกรามให้เด่นชัดขึ้น เติมคางให้ยาวขึ้น หรือทำให้แนวกรามดูมีมิติมากขึ้น
เหมาะกับใครผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่คมชัดจากความหย่อนคล้อยของผิว, มีเหนียง, หรือกล้ามเนื้อคอดึงรั้งใบหน้าลงผู้ที่ต้องการให้แนวกรามคมชัดแบบเห็นเป็นสันกราม, มีปัญหากรามสั้น คางสั้น คางตัด หรือแนวกรามไม่สมส่วน
วิธีการฉีดเป็นจุดเล็กๆ ตื้นๆ บริเวณกรอบหน้าและลำคอฉีดลงในชั้นลึกถึงชั้นกระดูก เพื่อสร้างโครงสร้างใหม่
ผลลัพธ์เริ่มเห็นผลใน 1-2 สัปดาห์ เห็นผลเต็มที่ใน 1 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือนเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ และจะชัดเจนขึ้นเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์)
ความรู้สึก/พักฟื้นเจ็บน้อยมาก ไม่ต้องพักฟื้น อาจมีรอยเข็มเล็กน้อยที่หายได้เองอาจรู้สึกเจ็บหรือตึงขณะฉีด และมีอาการบวมเล็กน้อยหลังทำได้ 3-7 วัน
สรุปง่ายๆเน้นยกผิวที่หย่อนให้ตึง ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้นเน้นปั้นโครงสร้างกระดูก ให้มีสันคมชัดและได้รูปทรงตามต้องการ
ตารางเปรียบเทียบ: โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า vs. ฟิลเลอร์สร้างกรอบหน้า
อยากหน้าเด็ก เติมฟิลเลอร์จุดไหนดี ใช้รุ่นไหนดี ราคาเท่าไหร่ ใช้กี่ cc

Botox Lift ไม่ได้ทำได้แค่กรอบหน้า

BOTOX LIFT ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

  • หน้าผาก (Forehead)
    การฉีดบริเวณนี้จะช่วยยกกระชับผิวบริเวณหน้าผากที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงขึ้น ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียนและได้สัดส่วนที่ดีขึ้น
  • หางตา (Crow’s Feet)
    ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ บริเวณหางตา ทำให้ผิวรอบดวงตาดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ลง
  • กรอบหน้า (Jawline)
    เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการลิฟต์กรอบหน้า เพื่อเก็บความหย่อนคล้อยบริเวณแนวกราม ช่วยให้กรอบหน้าดูคมชัดและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเป็น V-shape มากขึ้น
  • คอ (Neck)
    ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณลำคอ (สร้อยคอ) และช่วยยกกระชับเหนียงใต้คาง ทำให้บริเวณลำคอดูเรียบเนียนและสวยงามขึ้น
โบท็อกซ์ลิฟหน้า ปรับหน้าเรียว ดูมีมิติ ฉีดตรงไหนได้บ้าง
เทคนิค Botox Lifting Y to V Shape dlovevery clinic

หลักการของเทคนิค Y To V-Shape

เทคนิคนี้ได้ชื่อมาจากการวางตำแหน่งฉีดเป็นรูปตัว ‘Y’ บริเวณกรอบหน้าและลำคอ ซึ่งแต่ละแนวจะทำหน้าที่แตกต่างกันเพื่อผลลัพธ์การยกกระชับที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้

  1. แกนของตัว Y (ฉีดตามแนวกราม): เป็นการฉีดเพื่อสร้างกรอบหน้าให้คมชัด (Define Jawline) ช่วยเก็บผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อยบริเวณแนวกรามโดยตรง ทำให้กรอบหน้าดูเด่นชัดขึ้น
  2. แขนของตัว Y ด้านบน (ฉีดขึ้นไปทางโหนกแก้ม): เป็นการฉีดเพื่อยกกระชับแก้มส่วนล่างที่ห้อยคล้อยให้ยกขึ้น ช่วยลดปัญหาแก้มตอบหรือร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ลง
  3. แขนของตัว Y ด้านล่าง (ฉีดลงมาตามแนวลำคอ): เป็นการฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อลำคอ (Platysma) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ดึงรั้งให้ผิวบริเวณกรอบหน้าตกลง เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้คลายตัว กรอบหน้าจะถูกยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังช่วยให้ลำคอดูเรียวระหงขึ้นอีกด้วย

เทคนิค Y To V-Shape จึงเป็นการผสมผสานการฉีด 3 ทิศทางเพื่อสร้างผลลัพธ์การปรับรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ใบหน้าของคุณดูเรียวสวย ยกกระชับ และคมชัดในทุกมิติ

โบท็อกซ์เก็บกรอบหน้า vs ร้อยไหมยกหน้าเรียว

รีวิวร้อยไหม หน้าเรียว หมอต้าร์ D' Lovevery clinic_3
คุณสมบัติการเก็บกรอบหน้าด้วยโบท็อกซ์ (Botox Lift)การร้อยไหม (Thread Lift)
วิธีการใช้การฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) เข้าสู่ผิวหนังชั้นตื้นและกล้ามเนื้อตามแนวที่กำหนดใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงหรือปมสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง
หลักการทำงานคลายกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งใบหน้าให้ตกลง (Platysma) และกระตุ้นการหดตัวของผิว ทำให้กรอบหน้ายกขึ้นใช้เงี่ยงของเส้นไหมเกี่ยวและดึงยกเนื้อเยื่อผิวหนังขึ้นมาโดยตรง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบเส้นไหม
ผลลัพธ์ทันทียังไม่เห็นผลทันที จะเริ่มรู้สึกตึงขึ้นใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2-4 สัปดาห์เห็นการเปลี่ยนแปลงว่าผิวยกขึ้นทันทีหลังทำ และจะดีขึ้นอีกเมื่ออาการบวมลดลง
ความรู้สึกเจ็บน้อย คล้ายมดกัด อาจมีการประคบเย็นหรือแปะยาชาก่อนทำเจ็บมากกว่า ต้องมีการฉีดยาชาเฉพาะที่ก่อนทำ และอาจรู้สึกตึงๆ หลังทำ
การพักฟื้นไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อาจมีรอยเข็มหรือตุ่มยาเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองใน 1-3 ชั่วโมงมีโอกาสเกิดอาการบวม แดง หรือช้ำได้นาน 3-7 วัน ต้องหลีกเลี่ยงการอ้าปากกว้างหรือนวดหน้าแรงๆ
ระยะเวลาของผลลัพธ์ประมาณ 3-6 เดือนประมาณ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม)
เหมาะกับใครผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง, ต้องการปรับกรอบหน้าให้คมชัดขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก, ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน

การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า

ก่อนฉีด

  • ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • งดยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
  • แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบโดยละเอียด

หลังฉีด

  • งดนอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระจายตัวของยาไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
  • หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือถูบริเวณที่ฉีดอย่างรุนแรง
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูงบริเวณใบหน้า เช่น การทำซาวน่า, เลเซอร์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ
  • สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติหลังฉีด 4-6 ชั่วโมง
รีวิวโบท็อกลดกราม 100 ยูนิต เห็นผลใน 7 ถึง 15 วัน

เลือกฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าที่ไหนดี?

การเลือกคลินิกและแพทย์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ แพทย์มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ สามารถให้คำปรึกษาและประเมินปัญหาได้อย่างตรงจุด รวมถึงมีการใช้โบท็อกซ์ของแท้ที่สามารถตรวจสอบได้ และมีการนัดติดตามผลหลังการรักษา

หมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว แพทย์ประจำ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการลิฟกรอบหน้า

ข้อควรรู้คำอธิบาย
ปริมาณที่ใช้โดยทั่วไปจะใช้โบท็อกซ์ประมาณ 30-100 ยูนิต ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลและการประเมินของแพทย์
เจ็บไหมก่อนฉีดจะมีการทายาชาและประคบเย็นเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ จึงเป็นหัตถการที่ไม่เจ็บมาก อาจรู้สึกเล็กน้อยตอนจิ้มเข็มและเดินยาเท่านั้น
ระยะเวลาเห็นผลจะเริ่มรู้สึกตึงผิวใน 3-7 วัน และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2-4 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 3-5 เดือน
โบกรามกับลิฟต์กรอบหน้าต่างกันอย่างไรโบท็อกซ์กรามเป็นการฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกรามโดยตรง ทำให้หน้าเรียวเล็กลง ส่วนการลิฟต์กรอบหน้าเป็นการฉีดผิวชั้นตื้นเพื่อยกกระชับผิวตามแนวกรอบหน้า สามารถทำควบคู่กันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ลิฟต์กรอบหน้าหรือร้อยไหมดีกว่ากันการลิฟต์กรอบหน้าเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มาก ส่วนการร้อยไหมจะเหมาะกับผู้ที่ผิวหย่อนคล้อยมากและต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันที ควรให้แพทย์ประเมินเพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสม
โบลิฟต์กรอบหน้ากับ HIFU ต่างกันอย่างไรการลิฟต์กรอบหน้าเป็นการใช้โบท็อกซ์ฉีดเพื่อกระชับผิวชั้นตื้น ส่วน HIFU เป็นเครื่องมือที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงเพื่อยกกระชับผิวในชั้นที่ลึกกว่าและกระตุ้นคอลลาเจนทั่วทั้งใบหน้า
ผู้ชายทำได้ไหมสามารถทำได้และเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชาย เพราะช่วยให้สันกรามหรือ Jawline ดูคมชัดขึ้น เสริมบุคลิกให้ดูดีขึ้น
ช่วยลดเหนียงได้ไหมการลิฟต์กรอบหน้าช่วยให้ผิวตึงขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยลดไขมันใต้คางโดยตรง หากต้องการลดเหนียงที่เกิดจากไขมัน แนะนำให้ทำร่วมกับการฉีดสลายไขมัน (แฟต)
หลังเสริมคางทำลิฟหน้าทำได้ไหมควรรอให้แผลผ่าตัดหายสนิทและอาการบวมยุบลงทั้งหมดก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ และต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนทำหัตถการ
มีข้อเสียหรือไม่ผลลัพธ์ของการลิฟต์หน้าไม่ถาวร โดยจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน และต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ไว้
ลิฟต์กรอบหน้าอย่างเดียวเพียงพอไหมหากไม่มีปัญหาอื่นก็สามารถทำได้ แต่หากต้องการให้ใบหน้าสมส่วนและเข้ารูปมากขึ้น แนะนำให้ทำควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

รีวิว Botulinum Toxin

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ราคาเท่าไหร่

botox เกาหลี มียี่ห้อไหนบ้าง อัพเดท 2025 ราคาเท่าไหร่
ราคาโบท็อกซ์ อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ แตกต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี Allergan Dysport Xeomin
โปรแกรมราคา
NEURONOX 50 UNIT4,999.-
NEURONOX 100 UNIT7,999.-
AESTOX 50 UNIT4,999.-
AESTOX 100 UNIT7,999.-
HUGEL 50 UNIT5,999.-
HUGEL 100 UNIT9,999.-
XEOMIN 50 UNIT9,000.-
XEOMIN 100 UNIT17,000.-
DYSPORT 120 UNIT12,000.-
DYSPORT 300 UNIT19,000.-
BOTOX 50 UNIT12,900.-
BOTOX 100 UNIT19,999.-

ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic

  • เป็นส่วนตัวและใส่ใจ พบแพทย์ที่ให้เวลาปรึกษาอย่างละเอียดแบบตัวต่อตัวในบรรยากาศที่ไม่แออัด ไม่ต้องรอนานและไม่เร่งรีบ
  • สบายใจไม่มีแรงกดดัน เราไม่มีเซลส์คอยปิดการขาย หรือสร้างแรงกดดันให้ต้องซื้อคอร์สเพิ่มเติม
  • จ่ายสบายเลือกได้ คุณสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้ง่ายๆ ด้วยระบบมัดจำ แบ่งจ่าย หรือเลือกผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิตและ Shopee PayLater
  • ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม สามารถติดตามผลกับแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรงเพื่อความต่อเนื่องของการรักษา
  • รีวิวจริงจากลูกค้าจริง ทุกรีวิวมาจากผู้ใช้บริการจริงของเรา ไม่มีการจ้างดาราหรือ Influencer เพื่อให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่เป็นจริง
  • แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้ ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์สูงและมีใบประกอบวิชาชีพที่สามารถตรวจสอบได้
  • คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกผ่านการรับรองตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถฟรีสำหรับลูกค้าทุกท่าน
  • โปร่งใสและตรวจสอบได้ คุณสามารถเช็คข้อมูลและคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ใช้ในคลินิกเป็นของแท้ ผ่าน อย. ไทย และให้กล่องกลับบ้านเพื่อตรวจสอบ
ดีเลิฟเวอรี่คลินิก รับชำระด้วย Shopee SPayLater
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่คลินิกไหนดี ราคาเท่าไหร่
  • สาขาพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง โทร 064-424-6526
  • สาขา Crystal Design Center (CDC) โทร 095-236-4546

สำหรับคำถามที่ว่าปวดไมเกรนบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคอื่นไหม หมอต้องขอตอบตามตรงว่า “มีความเสี่ยงเชื่อมโยงกับโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ได้ค่ะ” โดยเฉพาะคนที่มีอาการเตือน (Aura) เช่น เห็นแสงวูบวาบก่อนปวด เพราะไมเกรนไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความเจ็บปวด แต่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดและการอักเสบในสมอง ข้อมูลทางการแพทย์พบว่าการปล่อยให้ปวดเรื้อรังโดยไม่รักษาอย่างถูกวิธี อาจเพิ่มโอกาสเกิดภาวะเส้นเลือดตีบหรืออุดตันได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าค่ะ

สิ่งที่หมอห่วงที่สุดคือ “อย่าปล่อยให้ปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยคิดว่าทนไหว” เพราะยิ่งทน อาการยิ่งแย่ และความเสี่ยงก็จะยิ่งสะสมค่ะ ระหว่างทางนี้เราต้องรีบหาทางลดความรุนแรงและความถี่ของการปวดให้ได้มากที่สุด การเข้ามารักษาเพื่อคุมอาการไมเกรนให้อยู่หมัด ไม่ใช่แค่เพื่อให้หายปวดสบายตัวในวันนี้ แต่คือการ “ตัดวงจรความเสี่ยง” ที่จะนำไปสู่โรคสมองที่รุนแรงในอนาคต ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่ามาแก้ไขตอนสายนะคะ

อ่านเพิ่มเติม

ริ้วรอยจากการนอนหลับ (Sleep Lines) คือ รอยเส้นแนวตั้งหรือแนวทแยงบนใบหน้า ที่เกิดจากการที่ ผิวถูกกดทับและเสียดสีกับหมอนเป็นเวลานาน โดยเฉพาะท่านอนตะแคง ซึ่งแตกต่างจากริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าทั่วไป โดย Botox และ Filler ช่วยได้ แต่อาจไม่ใช่วิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากริ้วรอยประเภทนี้ไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อโดยตรง ดังนั้น การป้องกันจึงสำคัญกว่า ด้วยการ ปรับท่านอนเป็นนอนหงาย เลือกใช้หมอนที่เหมาะสม และบำรุงผิวให้แข็งแรงสม่ำเสมอ เพื่อคงความอ่อนเยาว์ของผิวหน้าค่ะ

แพทย์ทั่วโลกเป็นที่ทราบกันดีว่า ริ้วรอยแนวตั้งหรือแนวทแยงจากการนอนหลับนั้นรักษายากกว่าด้วย Botox หรือ Filler เนื่องจากไม่ใช่ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าโดยตรง ใครที่กังวลเรื่องนี้หรือชอบแนนตะแคง ลองเลือกหาหมอนที่เหมาะสมกับการนอนดูนะคะ

อ่านเพิ่มเติม

คือ ออฟฟิศซินโดรม คืออาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่เกิดจาก ท่าทางและการใช้งานหนัก โดยมักจะ เริ่มปวดจากคอบ่าไหล่แล้วลามขึ้นศีรษะ ในขณะที่ ไมเกรน เป็นโรคทางสมองที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น ทำให้มีอาการ ปวดหัวตุ้บๆ ที่ศีรษะข้างเดียวเป็นหลัก และมีอาการอื่นร่วมด้วย ข่าวดีคือ การฉีดโบท็อกซ์สามารถรักษาได้ทั้งสองภาวะ แต่ทำงานในกลไกที่ต่างกันค่ะ ในออฟฟิศซินโดรม โบท็อกซ์จะเข้าไป คลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัวเป็นก้อนโดยตรง เพื่อลดอาการปวดตึงที่ต้นเหตุ ส่วนในเคสไมเกรน โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ ยับยั้งการส่งสัญญาณความเจ็บปวดในระบบประสาท เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ และเนื่องจากความตึงของกล้ามเนื้อจากออฟฟิศซินโดรม เป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้ การรักษาด้วยโบท็อกซ์จึงอาจช่วยลดปัญหาได้ทั้งสองทาง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการ เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และวางแผนการรักษาที่ตรงจุดที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

การฉีดโบท็อกซ์ เพื่อแก้ปัญหา หัวเข่าย่นและศอกย่น นั้น อาจช่วยได้บ้าง แต่ผลลัพธ์จะไม่มากและไม่คงทน เนื่องจากบริเวณข้อศอกและหัวเข่าเป็นผิวที่มีการขยับอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีความยืดหยุ่นและมีรอยย่นมากกว่าปกติเป็นธรรมดา อีกทั้งกล้ามเนื้อบริเวณนั้น (เช่น กล้ามเนื้อไตรเซปส์ (Triceps brachii) ที่ข้อศอก) มีการใช้งานอยู่เสมอ การคลายกล้ามเนื้อด้วยโบท็อกซ์จึงอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

สำหรับคนที่มีอายุมากขึ้น การเกิดริ้วรอยหรือรอยพับบริเวณข้อศอกและหัวเข่าเป็นเรื่องปกติค่ะ การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยในบริเวณนี้สามารถทำได้ แต่ ไม่ค่อยคุ้มค่า เนื่องจากผลลัพธ์ไม่คงทนและต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ ปกติโบท็อกซ์อยู่นาน 4-6 เดือน แต่ถ้าบริเวณข้อศอก หัวเข่า อาจจะอยู่ได้แค่ 1-2 เดือนเท่านั้น ทำให้ไม่เป็นที่นิยม ส่วนใหญ่แล้ว คนไข้จะนิยมทำ เลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจน เพื่อให้ผิวหนังกระชับขึ้น หรือ ลดรอยหมองคล้ำ บริเวณข้อศอกและหัวเข่ามากกว่าค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

หลายคนคงคิดว่าโบท็อกซ์ปลอมก็อาจจะแค่ไม่เห็นผลแค่นั้น หมอบอกเลยว่า ผิดค่ะ! ความจริงแล้ว โบท็อกซ์ปลอมเป็นอันตรายร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิดมาก ต้องระวัง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงถึงชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ ติดเชื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออันตรายถึงชีวิต ดังนั้น ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนฉีด และสังเกตอาการหลังฉีดอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อย่าเสี่ยงกับของปลอมเพื่อแลกกับความสวยนะคะ

อ่านเพิ่มเติม

ตัวเลขความบริสุทธิ์ของ Botox คือปริมาณสารออกฤทธิ์ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะหมายถึงประสิทธิภาพที่แม่นยำกว่า และความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่น้อยกว่า การเลือก Botox ที่มีความบริสุทธิ์สูง จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ปลอดภัย และคุ้มค่า เหมือนกับการเลือกส่วนผสมที่ดีในการทำอาหาร เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยและคงที่

อ่านเพิ่มเติม

การดูแลผิวหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบและอ่อนเยาว์นั้น ไม่ใช่แค่การดูแลผิวชั้นบนเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากชั้นผิวไหน เพื่อให้หมอเลือกโปรแกรมที่ ตรงจุด เช่น โปรแกรม Sculptra, Profhilo, Radiesse, Thermage FLX, Potenza, Oligio เหมาะกับการปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและไขมันตื้น, โปรแกรม Botox ใช้กับริ้วรอยจากการทำงานของกล้ามเนื้อ, โปรแกรม Ulthera ยกกระชับโครงสร้างลึกถึงชั้น SMAS, และ โปรแกรม Filler ช่วยเสริมสร้างและเติมเต็มโครงสร้างกระดูกและไขมันชั้นลึก การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหาในแต่ละชั้นผิวอย่างละเอียด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงามและยั่งยืนค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ใช้เวลารับบริการ:

20

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

The jawline is the signature of the face, a single stroke of artistry that brings everything into perfect balance.

★★ ความประทับใจ ★★

google
보크
보크
06/09/2025
facebook
Pakjira Leattaveevit
Pakjira Leattaveevit
แนะนำเลย
24/12/2024
google
วิภัทร พงศ์ทิพากร
วิภัทร พงศ์ทิพากร
21/07/2024
facebook
Wipat Pongtipagorn
Wipat Pongtipagorn
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Peter Nick
Peter Nick
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Tay Pattara
Tay Pattara
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
วสิทธิ์ ทองโผ
วสิทธิ์ ทองโผ
แนะนำเลย
12/05/2024