ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา คืออะไร ช่วยลดริ้วรอยตีนกาได้จริงไหม ต้องใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไหร่ คำถามที่พบบ่อย

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

ลดริ้วรอยตีนกา

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

รู้จักหมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ใบอนุญาต ว.49465

แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าและการชะลอวัย ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยหางตา ช่วยลดริ้วรอยตีนกาได้จริงไหม ใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไหร่ คำถามที่พบบ่อย

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง ผสมตัวยาต่อหน้า ติดตามผลการรักษา

รอยย่นบริเวณหางตาหรือที่เรียกกันว่า “ตีนกา” คือสัญญาณแห่งวัยที่ปรากฏชัดเจนเมื่อเรายิ้มหรือแสดงอารมณ์ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุเกินจริง โปรแกรมฉีดลดริ้วรอยหางตาเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการจัดการกับปัญหานี้ โดยแพทย์จะใช้โปรตีนบริสุทธิ์ที่ออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อโดยตรง เพื่อคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อรอบดวงตา ทำให้ผิวบริเวณนั้นกลับมาเรียบเนียนตึงกระชับ ริ้วรอยจางลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เผยดวงตาที่ดูสดใสและอ่อนเยาว์อีกครั้ง

รีวิวโบท็อกซ์ริ้วรอย ตีนกา 3

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังฉีดโบท็อกซ์หางตา

คนที่ยังไม่เคยรับบริการคนที่รับบริการแล้ว
กังวลทุกครั้งที่ยิ้ม กลัวคนจะเห็นริ้วรอยตีนกายิ้มและหัวเราะได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องคอยปิดบัง
ถูกทักว่าดูเหนื่อยล้า หรือดูมีอายุ ทั้งที่พักผ่อนเพียงพอใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น คนทักว่าไปทำอะไรมาดูเด็กลง
เวลาแต่งหน้า แป้งหรือรองพื้นมักจะตกร่องบริเวณหางตาแต่งหน้าง่ายขึ้น ผิวรอบดวงตาเรียบเนียน ไม่ต้องกังวลเรื่องเมคอัพตกร่อง
ไม่กล้ายิ้มกว้างๆ เวลาถ่ายรูป ทำให้ดูเหมือนฝืนยิ้มถ่ายรูปสวยทุกมุมกล้อง ยิ้มกว้างได้อย่างเป็นธรรมชาติ
รู้สึกว่าริ้วรอยทำให้ความสดใสของดวงตาลดลงดวงตาดูกลมโตและสดใสขึ้น เพราะไม่มีริ้วรอยมาบดบัง
เริ่มมองเห็นริ้วรอยจางๆ แม้จะไม่ได้ยิ้มชะลอการเกิดริ้วรอยถาวร คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวรอบดวงตา
  • สัปดาห์ที่ 1 กล้ามเนื้อเริ่มคลายตัว ริ้วรอยตื้นๆ เริ่มจางลงเวลายิ้ม
  • สัปดาห์ที่ 2-4 เห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด ผิวหางตาเรียบเนียน ริ้วรอยลึกดูตื้นขึ้นมาก
  • เดือนที่ 3-4 ผลยังคงอยู่ แต่กล้ามเนื้ออาจเริ่มกลับมาทำงานได้เล็กน้อย
  • เดือนที่ 5-6 ริ้วรอยเริ่มกลับมาปรากฏจางๆ เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงเวลารับบริการครั้งต่อไป

ควรฉีดลดริ้วรอยหางตาแล้วหรือยัง วิธีประเมินเบื้องต้น

ฉีดโบท็อกซ์ หน้าตึง

ลองยืนหน้ากระจกแล้วยิ้มกว้างๆ หากคุณเห็นเส้นริ้วรอยบริเวณหางตาปรากฏขึ้น 2-3 เส้นขึ้นไป หรือแม้กระทั่งตอนทำหน้าเฉยๆ ก็ยังเห็นรอยพับจางๆ อยู่ นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากโปรแกรมนี้ การเริ่มดูแลตั้งแต่ริ้วรอยยังไม่ลึกมากจะช่วยชะลอการเกิดรอยพับถาวรในอนาคตได้เป็นอย่างดี

pie
    title สาเหตุหลักเกิดริ้วรอยหางตา (ตีนกา)
    "การแสดงอารมณ์ (ยิ้ม, หยีตา)" : 35
    "แสงแดด (รังสี UV)" : 30
    "อายุที่เพิ่มขึ้น (การสูญเสียคอลลาเจน)" : 25
    "ปัจจัยอื่นๆ (สูบบุหรี่, ขาดน้ำ)" : 10
อ้างอิงคนไข้ดีเลิฟเวอรี่คลินิก ตั้งแต่ปี 2022-2025

ต้องใช้กี่ยูนิต ประเมินเบื้องต้นสำหรับแต่ละจุด

ปริมาณยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความลึกของริ้วรอยแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินอย่างละเอียด แต่โดยทั่วไปสามารถประเมินเบื้องต้นได้ดังนี้

  • ริ้วรอยหางตา 12-25 ยูนิต
  • ริ้วรอยหน้าผาก 10-20 ยูนิต
  • ริ้วรอยระหว่างคิ้ว 10-25 ยูนิต
โปรโมชั่น โบนิว ราคา เริ่มต้น 1500 บาท มีราคาเหมาขวด พิเศษ

ริ้วรอยหางตาส่งผลให้หน้าดูมีอายุแค่ไหน

gantt
    title จุดริ้วรอยที่ส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุมากที่สุด
    dateFormat X
    axisFormat %s

    section คะแนน 0-10
    ใต้ตา           :done, 0, 9
    ร่องแก้ม         :done, 0, 9
    หางตา (ตีนกา)   :active, 0, 8
    ร่องน้ำหมาก      :active, 0, 8
    หน้าผาก         : 0, 7
    ระหว่างคิ้ว      : 0, 7

ข้อดีและข้อควรพิจารณาของโปรแกรมลดริ้วรอยหางตา

โปรแกรมฉีดลดริ้วรอยหางตาเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะเห็นผลลัพธ์รวดเร็วและไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็มีบางประเด็นที่ควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจ

ข้อดี

  • เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ริ้วรอยเริ่มจางลงภายใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
  • ไม่ต้องผ่าตัด เป็นหัตถการที่ไม่ต้องใช้มีด ไม่เจ็บตัวมาก และไม่มีแผลเป็น
  • ไม่ต้องพักฟื้น หลังรับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
  • ช่วยป้องกันริ้วรอยในอนาคต การทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวจะช่วยชะลอการเกิดรอยพับลึกในระยะยาว
  • เพิ่มความมั่นใจ ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการแสดงอารมณ์

ข้อควรพิจารณา

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร โดยทั่วไปผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 3-6 เดือน จำเป็นต้องกลับมารับบริการซ้ำเพื่อคงสภาพผิว
  • ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การประเมินปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดต้องอาศัยความชำนาญสูงเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • มีข้อจำกัดในบางบุคคล ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
รีวิวฉีดโบท็อกซ์ตีนกา หางตา แพทย์ผสมยาต่อหน้าก่อนทำการรักษาทุกเคส

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

เพื่อให้ผลลัพธ์ของโปรแกรมลดริ้วรอยหางตาออกมาดีที่สุดและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ควรเตรียมตัวดังนี้

  • งดยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี, น้ำมันปลา, และสารสกัดจากแปะก๊วย อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
  • แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และยาที่รับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบโดยละเอียด
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
  • ในวันนัดหมาย ควรทำความสะอาดใบหน้าและงดแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตา

การดูแลตัวเองหลังรับบริการ

การปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธีหลังรับบริการจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและมีประสิทธิภาพสูงสุด

  • หลังรับบริการทันที ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเบาๆ เพื่อให้ยากระจายตัวได้ดี
  • งดนอนราบหรือก้มหน้านานๆ เป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันยาเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
  • หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสใบหน้าบริเวณที่ฉีดแรงๆ เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • งดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงหรือเกิดความร้อนสูง เช่น การออกกำลังกายหนักๆ การซาวน่า การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ใบหน้าที่มีความร้อนเป็นเวลา 2 สัปดาห์

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำโปรแกรมลดริ้วรอยหางตา

ข้อควรรู้คำอธิบายระดับ/จำนวน
รู้สึกเจ็บไหมรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเหมือนมดกัดตอนจิ้มเข็ม สามารถประคบเย็นเพื่อลดความรู้สึกเจ็บได้
มีอาการบวมไหมอาจมีรอยเข็มหรือตุ่มนูนเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-3 ชั่วโมง
บวมกี่วันโดยปกติไม่มีอาการบวม หรือหากมีก็เพียงเล็กน้อยและหายได้เองใน 1 วัน
เห็นผลเมื่อไหร่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 3-7 วัน และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์⭐⭐⭐
อยู่ได้นานแค่ไหนผลลัพธ์คงอยู่ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณยา และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล⭐⭐⭐⭐
ต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์อย่างไรโปรแกรมฉีดลดริ้วรอยจะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อลดรอยย่นจากการแสดงอารมณ์ ส่วนโปรแกรมฟิลเลอร์ใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึกที่อยู่นิ่งๆแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
อยากหน้าเด็ก เติมฟิลเลอร์จุดไหนดี ใช้รุ่นไหนดี ราคาเท่าไหร่ ใช้กี่ cc

ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic

  • เป็นส่วนตัวและใส่ใจ ไม่ต้องรอนาน ไม่แออัด แพทย์ให้คำปรึกษาแบบ case-by-case ละเอียด ไม่เร่งรีบ
  • สบายใจไม่มีแรงกดดัน ไม่มีเซลส์คอยปิดการขาย ไม่มีการบังคับซื้อคอร์ส
  • จ่ายสบายเลือกได้ มีระบบมัดจำ แบ่งจ่ายได้ มี Shopee PayLater และผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิต
  • ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม ติดตามผลกับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง
  • รีวิวจริงจากลูกค้าจริง รวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ไม่ใช่ดาราหรือ Influencer
  • แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้
  • คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกผ่านการรับรอง มีที่จอดรถฟรี
  • โปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อมูลรวดเร็ว เช็คคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่าน อย. ไทยและตรวจสอบได้
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่คลินิกไหนดี ราคาเท่าไหร่
ดีเลิฟเวอรี่คลินิก รับชำระด้วย Shopee SPayLater

รีวิว Botulinum Toxin

ราคาโบท็อกซ์เท่าไหร่

botox เกาหลี มียี่ห้อไหนบ้าง อัพเดท 2025 ราคาเท่าไหร่
ราคาโบท็อกซ์ อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ แตกต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี
โปรแกรมราคา
NEURONOX 50 UNIT4,999.-
NEURONOX 100 UNIT7,999.-
AESTOX 50 UNIT4,999.-
AESTOX 100 UNIT7,999.-
HUGEL 50 UNIT5,999.-
HUGEL 100 UNIT9,999.-
XEOMIN 50 UNIT9,000.-
XEOMIN 100 UNIT17,000.-
DYSPORT 120 UNIT12,000.-
DYSPORT 300 UNIT19,000.-
BOTOX 50 UNIT12,900.-
BOTOX 100 UNIT19,999.-

D’ Lovevery Clinic

  • สาขาพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง โทร 064-424-6526
  • สาขา Crystal Design Center (CDC) โทร 095-236-4546

การดูแลผิวหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบและอ่อนเยาว์นั้น ไม่ใช่แค่การดูแลผิวชั้นบนเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากชั้นผิวไหน เพื่อให้หมอเลือกโปรแกรมที่ ตรงจุด เช่น โปรแกรม Sculptra, Profhilo, Radiesse, Thermage FLX, Potenza, Oligio เหมาะกับการปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและไขมันตื้น, โปรแกรม Botox ใช้กับริ้วรอยจากการทำงานของกล้ามเนื้อ, โปรแกรม Ulthera ยกกระชับโครงสร้างลึกถึงชั้น SMAS, และ โปรแกรม Filler ช่วยเสริมสร้างและเติมเต็มโครงสร้างกระดูกและไขมันชั้นลึก การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหาในแต่ละชั้นผิวอย่างละเอียด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงามและยั่งยืนค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

Juvelook ช่วยลดริ้วรอย แต่ไม่ได้ออกฤทธิ์เหมือนโบท็อกซ์ Juvelook อาจช่วยปรับสภาพผิวและลดเลือนหลุมสิวได้บ้าง แต่ไม่ใช่วิธีการรักษาหลุมสิวโดยตรง

อ่านเพิ่มเติม

การรักษาริ้วรอยที่คอต้องเลือกให้ถูกประเภทค่ะ โดย ริ้วรอยที่เป็นเส้นขวางตามลำคอ (เหมือนสร้อยคอ) ซึ่งเกิดจากร่องลึกของผิวหนังที่สูญเสียคอลลาเจน จะต้องใช้ “ฟิลเลอร์” ในการ “เติมเต็ม” ร่องลึกนั้นให้ตื้นขึ้นและเรียบเนียน ในขณะที่ เส้นเอ็นแนวตั้งที่เห็นชัดตอนเกร็งคอ เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ จะต้องใช้ “โบท็อกซ์” เพื่อฉีด “คลายกล้ามเนื้อ” ไม่ให้หดตัวจนเกิดเป็นเส้นขึ้นมาค่ะ ในบางเคส อาจมีการผสมผสานการรักษา หรือแม้กระทั่งกลุ่ม Biostimulator ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในบางเคสค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ลองนึกภาพตามนะคะว่าใบหน้าของเราก็เหมือนกับเต็นท์ค่ะ โดยมีผิวหนังเป็นผ้าใบของเต็นท์ และมีโครงสร้างข้างใต้ ทั้งกระดูก ไขมัน และกล้ามเนื้อ เป็นเสาที่คอยขึงให้ผ้าใบตึงสวยเข้ารูปอยู่ค่ะ

ทีนี้ พอเราอายุมากขึ้น “เสา” พวกนี้ โดยเฉพาะกระดูกและไขมัน มันจะเริ่มฝ่อตัวเล็กลงไปตามธรรมชาติ ส่วน “ผ้าใบ” หรือผิวของเราเองก็เริ่มหย่อน ไม่กระชับเหมือนเก่า เพราะคอลลาเจนน้อยลง

กล้ามเนื้อกรามของเราก็เป็น “เสาต้นสำคัญ” ที่ช่วยพยุงผิวช่วงแก้มและกรอบหน้าเอาไว้ค่ะ การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามก็คือการทำให้เสาต้นนี้มันเล็กลงเพื่อให้หน้าเราดูเรียวขึ้น

ดังนั้น ถ้าคนไข้เริ่มมีอายุแล้ว ผิวก็เริ่มหย่อนคล้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วเรายังไปฉีดให้ “เสา” ที่ช่วยพยุงผิวอยู่นั้นมันเล็กลงไปอีก ก็จะยิ่งเหมือนเราเอาเสาค้ำเต็นท์ออก ทำให้ผ้าใบ (ผิว) มันยิ่งหย่อนลงมา กองตรงแก้มด้านล่างได้ค่ะ ผลที่ตามมาก็คืออาจจะทำให้แก้มดูตอบ ร่องแก้มลึกขึ้น หรือเห็นร่องน้ำหมากชัดขึ้นได้ค่ะ

เพราะฉะนั้นถ้าอายุมากขึ้นแล้วอยากฉีดจริงๆ ก็ต้องทำอย่างระมัดระวังมากๆ หมอจะแนะนำให้ใช้ยาน้อยๆ แค่พอให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงนิดหน่อย ให้กรอบหน้าดูซอฟต์ลง แต่จะไม่เน้นฉีดให้กรามหายไปเยอะๆ เพื่อรักษาโครงสร้างที่ช่วยพยุงผิวเอาไว้ให้ได้มากที่สุดค่ะ เราอยากให้หน้าดูสดใส ไม่ใช่ดูหย่อนคล้อยกว่าเดิม โอเค เข้าใจตรงกันแล้วนะคะ

อ่านเพิ่มเติม

สำหรับคนไข้ที่อยากปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้น สามารถเลือกทำได้หลายวิธีตามสาเหตุของปัญหาค่ะ หาก กรามใหญ่ จากกล้ามเนื้อ การฉีด โบท็อกซ์ จะช่วยให้กรามเล็กลง, ถ้ามี ไขมันที่แก้มและเหนียง เยอะ การฉีด เมโสแฟต เพื่อสลายไขมันเป็นทางเลือกที่ดี, หรือหากใบหน้า หย่อนคล้อย ไม่กระชับ การทำเครื่องยกกระชับอย่าง HIFU หรือ Ulthera ก็จะช่วยเก็บกรอบหน้าให้คมชัดและดูเรียวขึ้นได้ ซึ่งในคนไข้บางรายอาจต้องใช้วิธีการรักษาหลายอย่างร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินใบหน้าก่อนตัดสินใจค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

สำหรับคำถามที่ว่าฉีดโบท็อกซ์หลายยี่ห้อในปีเดียวจะเป็นอะไรไหม หมอตอบตรงนี้เลยค่ะว่า “ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ” สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่การสลับยี่ห้อ แต่อยู่ที่ ความบริสุทธิ์ของตัวยา, การเป็นของแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย., และการฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ค่ะ โบทูลินัมท็อกซินแต่ละยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นจากอเมริกา เกาหลี หรือเยอรมัน จะมีจุดเด่นต่างกันเล็กน้อย เช่น ความแน่นของการจับกับกล้ามเนื้อ หรือการกระจายตัวของยา แต่หัวใจหลักของมันคือการออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเหมือนกัน ตราบใดที่เรามั่นใจว่าเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานและฉีดในปริมาณที่เหมาะสมโดยแพทย์ ผลลัพธ์ในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพแทบไม่แตกต่างกันเลยค่ะ

ดังนั้น ไม่ต้องกังวลนะคะหากปีก่อนเคยฉีดอีกยี่ห้อ แล้วปีนี้จะมาฉีดอีกยี่ห้อหนึ่ง ร่างกายเราไม่ได้จดจำยี่ห้อค่ะ สิ่งที่ร่างกายสนใจคือตัวยาที่เข้าไปทำงาน การสลับยี่ห้อที่ได้มาตรฐานจึงไม่ใช่เรื่องอันตราย แต่สิ่งที่ต้องระวังและให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือ ต้องมั่นใจว่าเป็นยาแท้ 100% และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ใกล้เคียงกันตามมาตรฐานของแต่ละยี่ห้อค่ะ นี่คือหัวใจของการฉีดโบท็อกซ์ที่ได้ผลดีที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ลองวาดภาพว่าผิวเราเหมือนสปริงที่ยืดหยุ่นน้อยลง คอลลาเจน–อีลาสทินค่อยๆลด ทำให้ผิวบางลง แห้งง่าย และเกิดริ้วรอยทั้งตอนยิ้มขยับและตอนพักเฉยๆ ไขมันชั้นตื้นที่เคยพยุงผิวก็กระจายและไหลลง ทำให้ใต้ตาล้า ร่องแก้มเริ่มมา แก้มแฟบลง หน้าดูโทรมกว่าที่เคยเป็น

ลึกลงไป กล้ามเนื้อบางมัดทำงานหนักขึ้น (เช่น กราม) จึงดึงหน้าให้ตกลง ส่วนบางมัดกลับฝ่อ สมดุลเสีย กระดูกก็หดร่นเล็กลง โดยเฉพาะรอบเบ้าตาและแนวกราม ทำให้ตาดูลึก ขมับแบน และเกิดแก้มตกห นี่คือเหตุผลว่าทำไม “ทาครีมอย่างเดียว” จึงดีขึ้นไม่ได้ เพราะปัญหาอยู่หลายชั้นตั้งแต่ผิว ไขมัน กล้ามเนื้อ ไปจนถึงกระดูก

พื้นฐานคือทากันแดดสม่ำเสมอ บางคนแค่กันแดดก็บอกลำบากแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง บำรุงด้วยเรตินอยด์ วิตามินซี และมอยส์เจอไรเซอร์ จากนั้นเราปรับตามปัญหา โบท็อกซ์ช่วยคลายริ้วรอยได้ เลเซอร์/คลื่นพลังงานกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น ฟิลเลอร์ใน “ชั้นลึก” ยกเครื่องโครงหน้าใหม่ เช่นโหนกแก้ม–ขมับ–แนวกราม และในบางเคสอาจใช้ไหมพยุงหรือพิจารณาศัลยกรรมเมื่อหย่อนมาก จุดสำคัญคือทำอย่างพอดี ปลอดภัย และวางแผนระยะยาวให้เหมาะกับใบหน้าและไลฟ์สไตล์ของตัวเองดีที่สุดค่ะ ทุกโปรแกรม ทุกเครื่องมีข้อดีข้อจำกัด เหมาะกับคนอื่นแต่อาจจะไม่เหมาะกับเรา

อ่านเพิ่มเติม

ใช้เวลารับบริการ:

20

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

Crow's feet earned from laughter are badges of a life well-lived. But crow's feet from worry? Those are missed opportunities for joy.

★★ ความประทับใจ ★★

google
보크
보크
06/09/2025
facebook
Pakjira Leattaveevit
Pakjira Leattaveevit
แนะนำเลย
24/12/2024
google
วิภัทร พงศ์ทิพากร
วิภัทร พงศ์ทิพากร
21/07/2024
facebook
Wipat Pongtipagorn
Wipat Pongtipagorn
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Peter Nick
Peter Nick
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Tay Pattara
Tay Pattara
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
วสิทธิ์ ทองโผ
วสิทธิ์ ทองโผ
แนะนำเลย
12/05/2024